ตาอดีตจ่า ทบ.วัย 95 ยิงเมียวัย 94 ป่วยติดเตียงตาย แล้วยิงตัวตามคาบ้านพักย่านพหลโยธิน 35 แยก 7/1 เผยสาเหตุสุดเศร้าไม่อยากเป็นภาระให้ลูกหลาน เพราะชรามากและเจ็บป่วย ขณะที่ ญาติไม่ติดใจการตาย
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 1 มิ.ย. 66 ร.ต.อ.จักรกฤช สุวรรณวงศ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.พหลโยธิน รับแจ้งเหตุ
สามียิงภรรยา แล้วยิงตัวเองตายตาม รวม 2 ศพ เหตุเกิดที่ บ้านหลังหนึ่งภายใน ซอยพหลโยธิน 35 แยก 7/1 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. รุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ปลูกอยู่ในพื้นที่ประมาณ 70 ตารางวา ภายในห้องนอนชั้นล่าง บนโซฟาไม้พบศพ จ.ส.อ.สุดใจ สุดทรา อายุ 95 ปี เจ้าของบ้าน ใช้อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 ยิงขมับขวาทะลุขมับซ้าย 1 นัด นั่งหงายหลังทับศพนางจรีย์ สุดทรา อายุ 94 ปี ภรรยา นอนหงายบนโซฟาไม้ มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะ 1 นัด ส่วนอาวุธปืนตกที่พื้นบ้านข้างเท้าขวา จ.ส.อ.สุดใจ เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า บ้านหลังเกิดเหตุพักอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 คน จ.ส.อ.สุดใจ อดีตจ่าทหารบก นางจรีย์ เคยเป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้า ลูกชาย ลูกสะใภ้ หลาน และน้าสาว หลายปีก่อนหน้านี้นางจรีย์เคยผ่าเข่าทั้ง 2 ข้าง อาการของคนแก่มีอายุมาก จากนั้นก็นอนติดเตียงมาตลอด จ.ส.อ.สุดใจ ดูแลใกล้ชิด มาหลายปี ช่วงเช้าบอกกับลูกชายก่อนออกไปทำงานว่า พ่อกับแม่ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว มีอายุมากเจ็บป่วยเป็นภาระให้ลูกหลาน แต่ลูกชายไม่ได้เอะใจออกไปตรวจร่างกายพร้อมภรรยาที่โรงพยาบาล ส่วนหลานออกไปทำงานเช่นกัน ขณะเกิดเหตุมีอยู่ในบ้าน 3 คน ผู้ตาย 2 คนและน้าสาวมีอายุมากแล้ว เมื่อลูกชายกลับเข้าบ้านพบเหตุสลดใจดังกล่าว
...
ด้าน ร.ต.อ.จักรกฤช กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น คาดเป็นเหตุสามียิงภรรยา แล้วยิงตัวเองตายตาม เนื่องจากเห็นว่าตัวเองมีอายุมากแล้วไม่ต้องการให้เป็นภาระลูกหลาน ไม่มีทรัพย์สมบัติอะไร ปืนเป็นของจ.ส.อ.สุดใจ ในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ลูกชายไม่ติดใจเรื่องที่เกิดขึ้น นำศพส่งชันสูตร รพ.ตำรวจและให้ญาติประสานรับศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป.