เขยปืนโหดคลั่งตบะแตก ชัก 9 มม. ยิงถล่มพ่อตาแม่ยายตายสยองคาบ้าน 2 ศพ รัวกระสุนระบายอารมณ์กว่า 30 นัด ตำรวจระดมกำลังปิดล้อมจุดเกิดเหตุ หวั่นสถานการณ์ยืดเยื้อ เร่งให้ญาติช่วยเกลี้ยกล่อม คนร้ายยอมวางอาวุธออกมามอบตัว อ้างโดนกดดันจนทนไม่ไหว หลังคู่เขยเข้ามาอยู่ร่วมชายคา ลักลอบขโมยไฟหลวงทำเว็บพนันออนไลน์ พอไปปรึกษาแม่ยายกลับไม่เข้าข้าง แถมยังไปฟ้องคู่กรณีจนเรื่องราวบานปลาย เมียมือปืนยังช็อกบอกเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมากห้ามไม่ทัน เผยผัวป่วยซึมเศร้าต้องกินยารักษาอาการ

อ้างถูกกดดันจนทนไม่ไหว เขยชักปืนไล่ยิงพ่อตาแม่ยายสิ้นใจ ก่อนยอมมอบตัวกับตำรวจ เปิดเผยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 พ.ค. พ.ต.ต.ชุติมา บรรจงปรุ สว. (สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรสงคราม รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้บาดเจ็บหลายรายภายในบ้านเลขที่ 11/1 หมู่ 2 ต.บ้านปรก อ.เมืองสมุทรสงคราม ผู้ก่อเหตุยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง ยิงปืนออกมาเป็นระยะๆ ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ศยาม อินทร์สุวรรโณ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสงคราม นำกำลังชุดสืบสวน และ ชุดป้องกันปราบปราม สภ.สมุทรสงคราม เจ้าหน้าที่ พิสูจน์หลักฐาน จ.สมุทรสงคราม เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงครามไประงับเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีเสียงปืนดังออกมา 3 ชุด ชุดละ 9 นัด ตำรวจสั่งปิดกั้นพื้นที่รอบบริเวณ ระยะห่างออกมาประมาณ 100 เมตร และไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปดูอาการคนเจ็บ เนื่องจากผู้ก่อเหตุกำลังคลุ้มคลั่ง ถือปืนเดินวนไปวนมาอยู่ในบ้าน ได้ติดต่อให้ญาติช่วยเกลี้ยกล่อม ผ่านไปราว 1 ชั่วโมง ผู้ก่อเหตุมีอาการสงบลงยอมวางอาวุธและเดินออกมามอบตัวบนถนนหน้าบ้าน ทราบชื่อนายไพโรจน์ หรือติ๊ก จินตพงศ์ อายุ 36 ปี ภูมิลำเนา ต.บางจะเกร็ง อ.เมืองสมุทรสงคราม เป็นลูกเขยเจ้าของบ้าน ยึดปืนพก กล็อก 26 และแมกกาซีนปืน 1 อัน

...

ต่อมากู้ภัยเข้าให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ 2 ราย ที่ถูกยิงนอนจมเลือดบนพื้นใต้ถุนบ้าน แต่ไม่ทันเหยื่อกระสุนสิ้นใจไปก่อนแล้ว ทราบชื่อนายโชติพัฒน์ ถิรธนาเจริญวงศ์ อายุ 56 ปี สมาชิก อบต.บ้านปรก นอนหงายเลือดทะลักท่วมร่างอยู่บนลานปูนหน้าบ้าน มีบาดแผลถูกยิงลำคอด้านขวา 1 นัด ใต้รักแร้ขวา 1 นัด ข้อศอกซ้าย 1 นัด แผ่นหลังด้านซ้าย 1 นัด และนางพัชรีย์ ถิรธนาเจริญวงศ์ อายุ 57 ปี ภรรยา นอนคว่ำสิ้นใจปากประตูเข้าบ้าน ถูกยิง ที่ชายโครงซ้าย 1 นัด ไหล่ขวา 1 นัด มีสุนัขคู่ใจชื่อ “เจ้าสุขใจ” นอนเฝ้าศพไม่ห่าง บริเวณหน้าบ้านพบปลอกกระสุนปืน 9 มม. ตกอยู่รวม 30 ปลอก และปลอกกระสุนปืน .22 อีก 1 ปลอก

จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายไพโรจน์ มือปืนผู้ก่อเหตุให้การอ้างว่า ตนเป็นเขยเล็ก ที่ผ่านมา เวลาเงินในบ้านไม่พอใช้ ตนจะเป็นคนออกให้ก่อนตลอด ระยะหลังตนตกงาน แต่ยังถูกพ่อตาแม่ยายกดดันให้หาเงินมาจุนเจือครอบครัว กระทั่งถึงขีดสุดเนื่องจากคู่เขยใหญ่เข้ามาอยู่ในบ้านไม่ถึงเดือน และทำเว็บพนันออนไลน์ ตนกลัวจะมีปัญหาเพราะยังถูกคุมประพฤติ ไปปรึกษาแม่ยายเพื่อหาทางออก แม่ยายกลับไปฟ้องเขยใหญ่ และคู่เขยยังไปยุพ่อตากล่าวหาว่าตนจะไปยิงพ่อตาเพื่อหวังฮุบสมบัติ และเขยใหญ่ยังขู่จะยิงลูกหลานของตน เรื่องนี้ตนมีคลิปเป็นหลักฐาน ล่าสุดคู่เขยยังขโมยไฟหลวงใช้ ตนกลัวจะมีปัญหา ที่ผ่านมาตนไม่อยากมีปัญหากับใคร เพราะเคยติดคุกมาก่อน อยากกลับตัวเป็นคนดี แต่ถูกกดดันมาโดยตลอด วันนี้ฟิวส์ขาดเกิดอารมณ์ชั่ววูบก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

หลังสอบสวนตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายไพโรจน์ ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ” ไว้ก่อน จากนั้นจะเรียกคนในครอบครัวมาสอบปากคำเพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ตายและทุกฝ่าย พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานให้ละเอียด เพื่อแจ้งข้อหานายไพโรจน์ เพิ่มเติมและจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพก่อนส่งตัวไปฝากขังดำเนินคดีต่อไป

นางรัตตินันท์ ถิรธนาเจริญวงศ์ อายุ 31 ปี ภรรยานายไพโรจน์ และเป็นลูกสาวผู้ตายกล่าวทั้งน้ำตาว่า เสียใจมากเกี่ยวกับปัญหาครอบครัวที่มีความขัดแย้งสะสมมานาน นั่นก็สามี นี่ก็พ่อกับแม่ รู้สึกช็อกมาก ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พ่อเมาเหล้าครั้งใดจะชอบทุบทำลายข้าวของในบ้าน อาละวาดยิงปืนขึ้นฟ้า และขู่จะยิงตนกับลูกให้ตาย เพราะเคยใช้ปืนไล่ยิงตนมาแล้ว แจ้งตำรวจก็เงียบทุกครั้ง เป็นแบบนี้มานานแล้ว

ภรรยาผู้ตายกล่าวต่อว่า วันนี้สามีมาขอเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น เรียกแม่มาพูดคุยกันดีๆ แต่แม่กลับใช้อารมณ์คำพูดรุนแรง ทำให้สามีตบะแตกใช้ปืนยิงแม่ 2 นัด ส่วนพ่อกำลังคร่อมรถ จยย.จะไปข้างนอก สามีเลยหันไปยิงพ่อ ก่อนวิ่งไปล้มลงข้างแม่ แล้วสามีเข้าไปจ่อยิงซ้ำ ตกใจมาก เหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็วจนห้ามไม่ทัน สามีเป็นคนไม่ดื่มเหล้า เงียบขรึมทำให้เกิดความเครียดจากปัญหาที่สะสมมานาน และป่วยเป็นโรคซึมเศร้า กินยารักษาตัวอยู่ หลังก่อเหตุสามีกอดตนกับลูกชายวัย 7 ขวบแล้วร้องไห้ เอาปืนวางบนโต๊ะม้าหิน ตำรวจให้น้องชายฝาแฝดของสามีมาช่วยเกลี้ยกล่อม กระทั่งสามียอมเดินออกไปมอบตัวในที่สุด

ด้านนางกัญญาลักษณ์ สมบุญศรี อายุ 60 ปี พี่สาวของนายไพโรจน์ ผู้ก่อเหตุเล่าว่า น้องชายโทร. มาปรึกษาหลายครั้ง เมื่อเช้านี้โทร.มาบอกว่า “พี่ผมทนไม่ไหวแล้ว ถูกกดดันมากๆ จะต้องทำอะไรสักอย่าง” ตนปลอบใจไปว่าให้ใจเย็นๆ จะทำอะไรให้นึกถึงลูกให้มากๆ สักครู่ญาติโทร.มาบอกน้องชายยิงพ่อตาแม่ยายตายแล้ว หลังก่อเหตุน้องชายสั่งไว้ว่าไม่ต้องวิ่งประกันตัว ยอมรับผิดทุกกรณี ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนของน้องชาย มีทะเบียนถูกกฎหมาย