หนุ่มตรังทาสยาวัย 36 ก่อนเหตุใช้ปืน .38 ยิงอาแท้ของตัวเอง 6 นัดตายคาที่ ริมถนนถนนสายช่องหาร-น้ำฉ่า ต.วังมะปรางเหนือ โดย ตร.วังวิเศษ พบปมขัดแย้งเรื่องมรดกที่ดิน ที่ขัดแย้งมายาวนาน จัด จนท.เร่งตามล่าตัวแล้ว

เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 27 พ.ค.2566 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สมชาย แสงศรี สว.(สอบสวน) สภ.วังวิเศษ ได้รับแจ้งเหตุพบศพชายถูกยิงเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสายช่องหาร-น้ำฉ่า ม.3 บ้านช่องหาร ต.วังมะปรางเหนือ หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.กนก เกินกลาง ผกก.สภ.วังวิเศษ พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง กำลัง ตร.ชุดสืบสวนฯ เจ้าหน้าที่ ตร.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.ตรัง แพทย์เวร รพ.วังวิเศษ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบรรเทาวังวิเศษ มูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ้วนเต็กตึ้ง) รุดเดินทางไปตรวจสอบ

ถึงที่เกิดเหตุอยู่บนพื้นถนน พบร่างนายประดับ เอียดชูทอง หรือ ดุ๋ย ช่องหาร อายุ 55 ปี ชาวบ้าน ม.3 ต.วังมะปรางเหนือ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง อาชีพเลี้ยงวัว และรับจ้างแทงทลายปาล์มน้ำมัน สภาพศพนอนตะแคงซ้าย สวมเสื้อกีฬาแขนยาว นุ่งกางเกงขาสั้น มือขวากำท่อนไม้ความยาวประมาณ 50 ซม. อยู่ในมือ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดลูกโม่ ขนาด .38 เข้าตรงบริเวณกกหูซ้ายทะลุปาก 1 นัด กกหูขวา 1 นัด หน้าอก 1 นัด สะโพกทะลุ 1 นัด ศีรษะ 1 นัด ข้อมือ 1 นัด เข้าทั้งหมด 6 นัด ตรวจหาหลักฐานในที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุน

...

ใกล้กับศพประมาณ 5 เมตร พบรถยนต์กระบะของผู้ตาย ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์แคป สีเขียว ทะเบียน บด 3840 ตรัง มีรั้วเหล็กท้ายกระบะจอดอยู่ ถัดไปจากศพประมาณ 15 เมตร พบวัวของผู้ตายจำนวน 2 ตัว ถูกล่ามให้กินหญ้าอยู่ในสวนปาล์มน้ำมัน ส่วนผู้ก่อเหตุเบื้องต้นทราบชื่อ คือ นายครรชิต เอียดชูทอง หรือ ไอ้เขียว ช่องหาร อายุ 36 ปี ที่มีศักดิ์เป็นหลานชายของผู้ตาย หลังก่อเหตุได้ขี่ จยย.ไม่ทราบรุ่นและทะเบียนหลบหนีไปพร้อมด้วยอาวุธปืน

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขับกระบะคันดังกล่าวออกจากบ้าน โดยบรรทุกวัวมาในท้ายรถกระบะด้วย จำนวน 2 ตัว ในช่วงระหว่างเวลา 06.00 น. ขณะนำวัวมาล่ามใกล้ที่เกิดเหตุ นายครรชิต หรือ ไอ้เขียว ผู้ก่อเหตุบ้านอยู่ใกล้กันและมีอาการคล้ายคนเมา เมื่อเห็นผู้ตายออกจากบ้านจึงได้ขับขี่รถ จยย.ตามหลังมาคาดว่าเพื่อหวังเคลียร์ปัญหาบางอย่างหลังจากผู้ตายล่ามวัวเสร็จ ก่อนจะเกิดการโต้เถียงกันก่อนคนร้ายจะใช้อาวุธปืนยิงใส่ โดยที่ผู้ตายพยายามใช้ไม้ที่ใช้ตอกเสาหลักล่ามวัวต่อสู้ แต่กลับถูกกระหน่ำยิงสวนจนเสียชีวิตดังกล่าว โดยทราบว่าเมื่อคืนก่อเหตุคู่กรณีทั้งสองฝ่ายเพิ่งมีปากเสียงกัน และก่อนหน้านี้ทราบว่าผู้ตายและผู้ก่อเหตุมีความขัดแย้งในเรื่องการแบ่งทรัพย์สินมรดกกันมาตลอด กระทั่งไม่ถึง 1 เดือนที่ผ่านมา แม่ผู้ตายป่วยได้เสียชีวิตลงไปจนได้เกิดความขัดแย้งในเรื่องการแบ่งที่ดินมรดกมากขึ้น จนกระทั่งมีปัญหาลุกลามมาเรื่อยๆ จนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น โดยทางตำรวจมุ่งไปในปมทะเลาะวิวาทขัดแย้งเรื่องที่ดินมรดก

นายสำราญศักดิ์ เอียดชูทอง อายุ 27 ปี หลานชายผู้ตาย เผยว่า ตนทำงานรับจ้างแทงทลายปาล์มอยู่ผู้ตาย ก่อนหน้านี้ผู้ตายกับคนก่อเหตุมีปากเสียงขัดแย้งโต้เถียงกันในเรื่องส่วนตัวกันบ่อยครั้ง จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดการทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรงอีกครั้ง ซึ่งก็มีบรรดาญาติคอยเตือนให้ผู้ตายระวังตัวแล้ว แต่ได้มาเกิดเหตุเสียก่อน ส่วนผู้ตายมีบุคลิกพูดจาโผงผาง เสียงดัง แต่ไม่เคยให้ร้ายใคร ขยันทำมาหากิน ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นคนที่อารมณ์ร้าย ดุดัน ซึ่งความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งโดยตรงของทั้งสองคน ซึ่งผู้ก่อเหตุน่าจะตั้งใจคิดวางแผนไว้ก่อนแล้วที่จะลงมือก่อเหตุ

...

ขณะที่เพื่อนบ้าน เล่าว่า ทั้งสองขัดแย้งกันมาตลอด ในเรื่องของผลประโยชน์ นิสัยผู้ตายเฮฮา ใจดี แต่ผู้ก่อเหตุมีพฤติการณ์เสพยาเสพติด ซึ่งเป็นบุคคลที่อันตรายมาก ที่ผ่านมาในฐานะเพื่อนบ้านก็ผวามาตลอดเช่นกัน

ด้าน นายสวัสดิ์ จันทร์มีศรี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 บ้านช่องหาร ต.วังมะปรางเหนือ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาก็รับรู้เรื่องความขัดแย้งกันตนเคยเข้าไปพูดคุยกับผู้ตายว่ายังไงคนก่อเหตุก็เป็นลูกหลาน มีอะไรก็ค่อยๆ พูดคุยกัน แต่ไม่เชื่อว่าจะมาลุกลามถึงขนาดเอาชีวิต ซึ่งก็คาดว่าสาเหตุอาจจะเกิดจากความรู้สึกไม่พอใจส่วนตัวของผู้ก่อเหตุที่ลุกลามมาจากเรื่องผลประโยชน์มรดก และบุคคลนิสัยของผู้ตายที่เป็นคนพูดจาโผงผาง ตรงไปตรงมา แต่เรื่องผลประโยชน์นั้นได้จบลงไปแล้ว

...

อย่างไรก็ตามเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ ตร.ทั้งในและนอกเครื่องแบบได้ออกติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ พร้อมทั้งประสานไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางหลบหนีของคนร้าย ล่าสุดทราบว่าหนีไปกบดานในพื้นที่ ต.นาวง อ.ห้วยยอด เพื่อนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.