ตำรวจพัทยา คุมตัว "ไอ้กิ๊ก" มาสอบเค้นปมฆ่าสาวหน้าตาดีวัย 32 ดับคาอพาร์ตเมนต์ย่านพัทยา เหตุทวงเงิน 3 หมื่นบาท แต่ไม่ปริปากปมสังหาร เพียงแต่ขอโทษญาติผู้ตาย พร้อมรับเคยมีความสัมพันธ์กัน
กรณี นางสาวรัตนา ธรรมรักษ์ หรือรัตน์ อายุ 32 ปี สาวหน้าตาดี ถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่ตามใบหน้า ต้นคอ หลังกกหู และหัวไหล่ เป็นแผลเหวอะหวะ แล้วหมกศพจนศพเริ่มขึ้นอืด เสียชีวิตมาแล้ว 4-5 วัน ในห้องเช่าชั้น 3 ของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ย่านซอยบัวขาว กลางเมืองพัทยา หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (20 พ.ค.) ต่อมาตำรวจชุดสืบสวนทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว และได้ขออนุมัติศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับ นายวัชระพล อันสงคราม หรือกิ๊ก ฉายา "กิ๊ก กิโล10" อายุ 39 ปี ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ตามเลขที่ จ.230/2566 ลง 21 พ.ค. 2566 จนสามารถตามไปจับกุมตัว นายวัชระพล อันสงคราม หรือกิ๊ก ได้ที่ ต.กุดบาก อ.กุดบาก จ.สกลนคร เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 23 พ.ค. 66 และถูกระหว่างคุมตัวกลับมาสอบสวนที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. (24 พ.ค.) พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา พร้อมชุดสืบสวน ได้คุมตัว นายวัชระพล อันสงคราม หรือกิ๊ก เดินทางกลับมาสอบสวนที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายวัชระพล หรือกิ๊ก มีสีหน้าเคร่งเครียด คอตก ที่ฝ่ามือด้านซ้ายมีร่องรอยเศษกระจกบาดหลายแผล และร่องรอยการถูกกัดเข้าที่ บริเวณง่ามมือระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ โดยให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่า ขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยไม่มีเจตนาลงมือสังหาร นางสาวรัตน์ สิ่งที่ทำลงไปเป็นเพราะความโมโห ส่วนวิธีสังหารยังไม่ขอให้ข้อมูลใดๆ ส่วนที่หนีไป จ.สกลนคร เพราะต้องการไปขอความช่วยเหลือจากญาติๆ จนถูกตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว
...
พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือสังหารจริง ส่วนสาเหตุเป็นเรื่องปมการทวงหนี้เงิน 30,000 บาท แต่ยังไม่ขอลงรายละเอียดลึก ต้องขอเวลาสอบสวนข้อเท็จจริง ส่วนพฤติกรรมการก่อเหตุ ไอ้กิ๊ก ให้การว่า ในช่วงเช้าวันที่ 16 พ.ค. มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ในเรื่องเงิน 3 หมื่นบาท นายกิ๊ก พยายามทวงเงิน แต่นางสาวรัตน์ บ่ายเบี่ยงและพูดจาเสียงดัง นายกิ๊ก จึงใช้มือปิดปากและบีบคอ ทำให้นางสาวรัตน์ ต่อสู้แล้วกัดที่ฝ่ามือ ระหว่างต่อสู้กันเกิดไปชนกระแทกกับกรอบรูปขนาดใหญ่ตกลงมาแตก นางสาวรัตน์ จึงคว้าเศษกระจกไล่แทง นายกิ๊ก ทำให้ นายกิ๊ก เกิดอารมณ์โมโห ขาดสติ คว้าเศษกระจกกรอบรูปแทงสวนไป 3-4 ครั้ง เข้าที่คอและหัวไหล่ จนนางสาวรัตน์แน่นิ่งไป ก่อนจะหลบหนี อีกทั้ง นายกิ๊ก ยังยอมรับว่าเคยมีความสัมพันธ์กับผู้ตาย แต่ปัจจุบันเพียงไปมาหาสู่กันเท่านั้น ซึ่งล่าสุดตามมาทวงหนี้ตั้งแต่ช่วงค่ำจนถึงเช้า แต่นางสาวรัตน์บ่ายเบี่ยงตลอด จนเป็นชนวนฆ่าสังหารโหดในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามตำรวจขอเวลาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้.