กรณีสาวหน้าตาดีถูกฆ่าหมกห้องเช่ากลางเมืองพัทยา โดยต่อมาศาลออกหมายจับคนร้าย คือ ไอ้กิ๊ก กิโล 10 ที่กำลังหลบหนี ล่าสุดครอบครัวผู้ตายมาทำพิธีเชิญวิญญาณ โดยแม่ยอมรับลูกติดยาจริง ขอให้ ตร.จับคนร้ายมาลงโทษให้ได้ 

กรณี นางสาวรัตนา ธรรมรักษ์ หรือรัตน์ อายุ 32 ปี สาวหน้าตาดีถูกถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่ตามใบหน้า ต้นคอ หลังกกหู และหัวไหล่ เป็นแผลเหวอะหวะ แล้วหมกศพจนศพเริ่มขึ้นอืด เสียชีวิตมาแล้ว 4-5 วัน ในห้องเช่าชั้น 3 ของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งกลางเมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (20 พ.ค.) ล่าสุดตำรวจสืบสวนทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว และได้ขออนุมัติ ศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับ นายวัชรพล อันสงคราม หรือกิ๊ก, ฉายา “กิ๊ก กิโล 10” (กม.10 สัตหีบ) อายุ 39 ปี ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ตามเลขที่ จ.230/2566 ลงวันที่ 21 พ.ค. 2566 หลังพบพฤติกรรมเป็นหนุ่มที่กำลังมาติดพัน และอยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้าย ก่อนพบเป็นศพ

ต่อมาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (21 พ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวได้พูดกับ นาย อำนาจ ธรรมรักษ์ อายุ 28 ปี น้องชายของผู้ตาย ผ่านทางโทรศัพท์ โดยเจ้าตัวเล่าในน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตอนนี้ นางสำราญ ธรรมรักษ์ อายุ 59 ปี และ นายชาญ ธรรมรักษ์ อายุ 58 ปี แม่และพ่อของผู้ตาย กำลังเดินทางมายังเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณของพี่สาว โดยทั้งคู่ยังอยู่ในอาการเศร้าโศก โดยเฉพาะแม่ ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาแล้ว ส่วนพ่อก็ป่วยเป็นโรคหัวใจ และยังรับกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับพี่สาวไม่ได้ เพราะคนร้ายก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม นอกจากนี้ยังติดใจในเรื่องของกล้องวงจรปิดของอพาร์ตเมนต์ว่าทำไมถึงใช้การไม่ได้ อีกทั้งเจ้าของยังไม่ใส่ใจกับผู้เช่า เนื่องจากก่อนหน้าที่พี่สาวจะเสียชีวิตเคยโทรมาเล่าให้ฟังว่าถูกคนชื่อโบว์มารุมตบถึงห้องพัก พอมาผ่านมา 1 เดือน พี่สาวก็มาถูกฆ่าตาย โดยเมื่อวันที่ 14 พ.ค. (วันเลือกตั้ง) แม่เพิ่งโอนเงินให้พี่สาว 2,000 บาท เพื่อให้พี่สาวเดินทางกลับจังหวัดอำนาจเจริญ แต่ก็ไม่ทันได้กลับบ้านก็ถูกพบว่าเป็นศพดังกล่าว

...

นอกจากนี้ นายธนฤต แก้วศรีปราชญ์ อายุ 56 ปี การ์ดรักษาความปลอดภัยของบาร์เบียร์แห่งหนึ่ง ย่านซอยบัวขาวพัทยากลาง หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเคยเป็นอดีตที่ทำงานเก่าของผู้ตายเมื่อหลายเดือนก่อน กล่าวว่า เมื่อประมาณวันที่ 11-12 พ.ค. ผู้ตายเพิ่งเดินทางมาที่ร้านเพื่อมาขอกลับเข้าทำงาน โดยได้พูดคุยกับ แม่นก ซึ่งเป็นคนคอยจัดหาพีอาร์ของร้าน แต่ทางร้านปฏิเสธเนื่องจาก นางสาวรัตน์ ผู้ตาย มีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ก่อนที่เจ้าตัวจะกลับห้องพักไป อีกทั้งส่วนตัวยอมรับว่าผู้ตายเป็นคนหน้าตาดี นิสัยชอบอยู่คนเดียว ไม่สุงสิงกับใคร ทำงานเสร็จก็กลับบ้าน แต่ก็ไม่คิดว่าจะถูกฆ่าตายดังกล่าว

ต่อมาเวลา 17.00 น. วันเดียวกัน ที่ตึกห้องเช่าอพาร์ตเมนต์ที่เกิดเหตุ ภายในซอยเฉลิมพระเกียรติ 19 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นางสำราญ ธรรมรักษ์ อายุ 59 ปี นายอำนาจ ธรรมรักษ์ อายุ 28 ปี แม่และน้องชายของผู้ตาย รวมถึงญาติๆ ที่เพิ่งเดินทางมาจาก จ.อำนาจเจริญ ได้เดินทางมาทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณของผู้ตาย โดย นางสำราญ ธรรมรักษ์ ผู้เป็นแม่ ได้จุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทาง ก่อนจะขึ้นไปภายในห้องที่เกิดเหตุเพื่อเชิญดวงวิญญาณของลูกสาว ระหว่างทำพิธีผู้เป็นแม่อยู่ในอาการเศร้าสลด น้ำเสียงสั่นเครือ เรียกชื่อจริงลูกสาวตลอดเวลา บอกให้ดวงวิญญาณกลับบ้าน

นางสำราญ ธรรมรักษ์ ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า ได้คุยกับลูกสาวเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 66 โดยได้โอนเงินให้ลูกสาวกลับบ้านที่ จ.อำนาจเจริญ เพราะก่อนหน้านี้วันที่ 8 พ.ค. ลูกสาวได้โทรมาบอกว่าถูกกลุ่มผู้หญิงประมาณ 11 คน บุกมาทำร้ายที่ห้องพัก ด้วยความเป็นห่วงลูกสาวจึงโอนเงินให้ลูกเพื่อใช้ในการเดินทางกลับบ้าน แต่ก็ไม่ทัน ลูกสาวกลับมาถูกฆ่า โดยเมื่อ 2 ปีก่อนลูกสาวได้เดินทางจากบ้านเกิดเหตุมาขายของที่ในเครือสหพัฒน์ แหลมฉบัง จ.ชลบุรี โดยมีทั้งบ้าน รถเก๋ง และ รถจักรยานยนต์ แต่ขายไม่ดีจึงย้ายมาทำงานกลางคืนที่พัทยา แต่ช่วง 2 เดือนหลังลูกมีความผิดปกติ ชอบให้แม่โอนเงินมาให้ อ้างว่า หน้าตาเป็นแผลทำงานไม่ได้เพราะถูกคนยกพวกมาทำร้าย เวลาโทรหาก็จะมีเสียงผู้ชายพูดแทรกเข้ามาตลอด

ส่วนผู้ชายที่ลูกคบหาอยู่ไม่เคยเห็นหน้า ส่วนเรื่องยาเสพติด แม่รู้ว่า ลูกสาวเสพยา โดยภายใน 2 เดือนค่อนข้างติดยาเสพติดหนักมากและมีอาการผิดปกติ เคยโทรศัพท์มาขอเงิน 6 พันบาท เพราะถูกตำรวจจับข้อหาเสพยาติด พร้อมเพื่อนอีก 3 คน แม่พยายามห้ามลูก แต่ลูกก็ไม่ฟัง อีกทั้งยังติดผู้ชายคนนี้มาก นอกจากนี้ลูกสาวยังมีพฤติกรรมหลังเสพยามักมีอาการหลอน ชอบพูดจาแปลกๆ แม่จึงยอมรับตรงๆ ว่าลูกสาวแม่ติดยา

สุดท้ายผู้เป็นแม่พูดว่า ขอให้ดวงวิญญาณของลูกจงติดตามให้คนก่อเหตุกลับมาชดใช้หนี้กรรมในคดีนี้ เพราะคนร้ายก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม ใช้มีดแทงหน้าลูกสาวที่สุดสวยได้อย่างไร และขอให้คดีของลูกสาวเป็นตัวอย่าง อย่าให้ไปทำกับคนอื่นอีก และขอให้คดีของลูกสาวเป็นคดีสุดท้าย ไม่ให้เกิดขึ้นกับใครอีก.