ตำรวจเมืองตรัง จัดกำลังทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 50 นาย คุมตัว 2 โจ๋สตูล ทำแผนนาทีลงมือสังหารโหด "เสี่ยนักธุรกิจโรงไม้ชาวจีน" หมกรีสอร์ต อ้างปมแค้นคนตายเบี้ยวค่าซื้อบริการทางเพศเพื่อนสาววัย 17 ปี ก่อนร่วมกันวางแผนรูดทรัพย์ หวิดถูกญาติเมียคนตายรุมประชาทัณฑ์ ก่อนถูกญาติตะโกนด่า ประณามและด่าบุพการี ซึ่งไม่เชื่อตามคำให้การ เบื้องต้นตำรวจแจ้ง 2 ข้อหา และจ่อแจ้งข้อหาเพิ่ม   

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 พ.ค. 66 พล.ต.ต.เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผบก.ภ.จว.ตรัง สั่งการให้ พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง, พ.ต.อ สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.เมืองตรัง, พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง นำกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 50 นาย ควบคุมตัว นายณัฐดนัย อุ่นใจเพื่อน หรือเจ (มือแทง) อายุ 22 ปี และ นายณัฐพล สุขเบื้อง หรืออิฐ อายุ 19 ปี ชาว ต.กำแพง อ.ละงู จ.สตูล ซึ่งเป็นผู้ต้องหา 2 ใน 3 คนที่ร่วมกันฆ่า นายซีรุย ลี (Mr.Zhirui Li) อายุ 43 ปี นักธุรกิจส่งออกไม้ยางพาราแปรรูปสัญชาติจีน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ ภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมืองตรัง โดยมีภรรยาและลูกของผู้ตาย 3 คน รวมทั้งญาติพี่น้องกว่า 20 คน เดินทางมาดูการทำแผนด้วย ทำให้ต้องใช้กำลังตำรวจกว่า 50 นาย คอยดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุมประชาทัณฑ์ขึ้น  

...

โดยช่วงจังหวะที่กำลังเดินทาง น้องภรรยาของผู้ตายพยายามจะเข้ามาประชาทัณฑ์ แต่ทางตำรวจได้กีดกันได้เสียก่อน ทำให้บรรดาญาติตะโกนด่าบุพการีและประณามถึงการกระทำที่รุนแรงกับผู้ก่อเหตุ ส่วนผู้ต้องหาหญิงคือน้องฝ้าย อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นเยาวชน ไม่ได้นำมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้ควบคุมตัวไว้ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ตรัง เพื่อให้ทีมสหวิชาชีพสอบปากคำและนำไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะนำตัวส่งฝากขังที่ศาลเด็กและเยาวชน จ.ตรัง 

ส่วนผลจากการผ่าชันสูตรศพของผู้ตาย พบมีสารของยานอนหลับและแอลกอฮอล์อยู่ในร่างกาย โดยตำรวจได้นำรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด ของผู้ตายมาในที่เกิดเหตุด้วย ซึ่งคนร้ายได้ปลดทะเบียนและกล้องหน้ารถ รวมทั้งจีพีเอสออกแล้ว โดยใช้เวลาทำแผนประมาณ 20 นาที เนื่องจากน้องเมียของผู้ตายได้ปรี่จะเข้าทำไปร้ายผู้ต้องหาและมีการตะโกนด่าสาปแช่ง ตำรวจจึงรีบนำตัว 2 ผู้ต้องหาไปทำแผนชี้จุดตามเส้นทางหลบหนี รวมทั้งร้านจำหน่ายยานอนหลับให้กับผู้ต้องหา 

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ผู้ตายได้มาเปิดห้องพักเบอร์ 5 ที่รีสอร์ตดังกล่าว โดยนัดกับ น้องฝ้าย หญิงขายบริการอายุ 17 ปี ที่เคยนัดกันมาแล้วก่อนหน้านี้ 3 ครั้ง เพื่อมาร่วมหลับนอนกันที่รีสอร์ต แต่ปรากฏว่าฝ่ายหญิงได้ใช้โทรศัพท์มือถือแอบถ่ายภาพผู้ตายเปลือยกายขณะร่วมหลับนอน ทำให้ผู้ตายไม่พอใจ ประกอบกับความมึนเมา ผู้ตายจึงได้ตบหน้าของน้องฝ้ายไป 1 ครั้ง น้องฝ้ายจึงได้แชตข้อความผ่านเฟซบุ๊กไปหานายนายณัฐดนัย หรือเจ เพื่อระบายความโกรธแค้นที่ถูกผู้ตายกระทำ นายเจ จึงชักชวน นายอิฐ มาเปิดห้องพักใกล้กัน โดยน้องฝ้ายอาศัยจังหวะที่ผู้ตายนอนหันหลังให้แอบนำ นายเจ เข้ามาซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำ จนกระทั่งผู้ตายเข้าห้องน้ำ นายเจ จึงควักมีดลงมือแทงไม่ยั้ง เข้าที่ลำคอ 1 แผล ลำตัว 9 แผล และบริเวณด้านหลัง 11 แผล รวมกว่า 20 แผล ก่อนที่ทั้ง 3 ราย จะพากันหลบหนีไปกบดานพร้อมทรัพย์สินของผู้ตายจำนวนหลายรายการ 

พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า คดีนี้ปิดคดีได้แล้วด้วยการจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้ง 3 ราย และแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันปล้นทรัพย์ตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปโดยมีความผิดเกี่ยวกับการทรัพย์ด้วย และได้นำตัวผู้ต้องหาหญิงไปสอบปากคำต่อโดยสหวิชาชีพเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้กำลังนำไปตรวจร่างกาย เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย จากการสอบสวนผู้ตายกับหญิงอายุ 17 ปี รู้จักกันและนัดพบกันครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 โดยตรวจสอบจากบัตรประชาชนแล้วว่าเป็นเยาวชนจริง ส่วนผู้ต้องหาชาย-หญิงรู้จักกันมาก่อนเพราะอยู่ อ.ละงู จ.สตูล ด้วยกัน

พ.ต.อ.อภิชัย กล่าวอีกว่า ที่อ้างว่าผู้ตายไม่ได้จ่ายเงินให้เป็นคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหา แต่ตำรวจยังต้องตรวจสอบพยานหลักฐานอื่นๆ เช่น การแชตทางโทรศัพท์ พยานหลักฐานที่เป็นเทคโนโลยีอีกที เพราะไม่ได้เชื่อคำให้การของผู้ต้องหาเสียทีเดียว ส่วนปมจ้างวานฆ่ายังไม่มีพยานหลักฐาน แต่เป็นการร่วมกันฆ่าทั้ง 3 คนซึ่งตกลงกันว่าไม่พอใจผู้ตาย จึงร่วมกันฆ่า ซึ่งผู้ตายไม่พบความขัดแย้งกับใคร ส่วนธุรกิจไม้ยางกำลังตรวจสอบ และผลนิติวิทยาศาสตร์ผลยังไม่ออก ซึ่งคนร้ายได้เงินของผู้ตายไปประมาณหมื่นกว่าบาท เบื้องต้นยังไม่พบว่าผู้ต้องหาเคยก่อคดีลักษณะนี้มาก่อน และไม่พบสารเสพติดในร่างกายของผู้ตาย รวมทั้งผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย 

...

อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีนี้ตำรวจสรุปว่าเป็นการฆ่าเพื่อปล้นทรัพย์ โดยไม่มีผู้จ้างวาน แต่ยังไม่ตัดประเด็นเรื่องชู้สาวระหว่างน้องฝ้ายกับนายเจ อยู่ในระหว่างการติดตามรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งนายเจเคยเป็นอดีตทหารเกณฑ์ใน จ.ยะลา ชอบสะสมอาวุธมีด แต่ไม่มีประวัติติดยาเสพติดและคดีอาชญากรรมติดตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างที่ ตร.คุมตัวผู้ต้องทำแผนประกอบคำรับสารภาพ น.ส.แอน (นามสมมติ) อายุ 38 ปี ภรรยาของผู้ตาย ร้องไห้ระงมพยายามเดินตามเพื่อขอดูหน้าผู้ต้องหา และพยายามวิงวอน ตร.เพื่อจะเข้าประชิดตัวเพื่อสอบถามว่า "ทำไมต้องฆ่าสามี" ของตนเพราะสาเหตุอะไร แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้กันตัวเอาไว้เกรงจะเกิดเหตุรุมประชาทัณฑ์ ขณะเดียวกันภรรยาได้พูดกับผู้สื่อข่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าสามีจะซื้อบริการแล้วเชิดเงินจนเกิดเหตุดังกล่าวตามที่กลุ่มผู้ต้องหาให้การ เพราะตนรู้จักนิสัยใจคอของสามีดี และเป็นคนมีเงินมากพอ จึงขอให้ตำรวจไขความกระจ่างถึงสาเหตุการตาย แต่ตนเชื่อว่าต้องมีการวางแผนกันล่วงหน้าในการก่อเหตุในครั้งนี้ ทั้งการเตรียมการเสื้อผ้า ผ้าคลุมรถ อาวุธมีด และการวางยานอนหลับ ทั้งในส่วนของร่างสามีหลังจากตรวจพิสูจน์แล้ว กำลังรอจากญาติสามีเดินทางมาจากเมืองจีนเพื่อพูดคุยว่าจะทำพิธีที่นี่ หรือพากลับไปประกอบพิธีที่เมืองจีน ส่วนเรื่องธุรกิจไม้ยางพาราแปรรูปส่งออกคงต้องเดินหน้าต่อไปเพราะมีพนักงานที่ต้องดูแลอีกหลายชีวิต.  

...