ตำรวจน้ำสงขลาวางแผนปิดประตูตีแมวจับกุม แก๊งแมวน้ำตระเวนลักตัดเหล็กในเรือ จนเรือมูลค่าหลายล้านจมทะเล ทำเจ้าของอู่ต้องกุมขมับ เผย ก่อเหตุมากโชกโชนหลายปี เพิ่งจับได้ครั้งแรกพบหลักฐานเพียบ
เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบังคับการตำรวจน้ำสงขลา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ กก. 7 นำโดย พ.ต.ท.นัฐพงษ์ ตาแก้ว รอง ผกก.7 บก รน. พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศรัณย์วิทย์ ฐีระเวช สว.ส.รน.1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำลาดตระเวนพื้นที่จอดเรือขนาดใหญ่ และที่หน้าอู่ศรีสงขลา หลังจากได้สืบทราบว่าแก๊งแมวน้ำกำลังอาละวาดขโมยทรัพย์สินบนเรือที่รอขึ้นคานเพื่อซ่อมแซม ได้รับความเสียหายหลายลำและบางลำก็จมสู่ก้นทะเล
เมื่อลาดตระเวนมาถึงหน้าอู่เรือศรีสงขลา ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ได้เห็นแก๊งแมวน้ำ 1 คนกำลังขโมยเหล็กจากเรือ ส.กิติชัย เป็นเรือเหล็กขนาดใหญ่ความยาวกว่า 200 ฟุต เรือลำดังกล่าว มีร่องรอยการถูกนำเหล็กไปขายจนพรุนไปทั้งลำ และเรือได้มีน้ำเข้าเป็นจำนวนมาก ตรวจสอบพบมีแก๊งแมวน้ำกำลังตัดถอดเหล็กอยู่ข้างในห้องเครื่องอีก 2 คน จึงได้ทำการควบคุมตัวพร้อมอุปกรณ์ของกลางที่แก๊งแมวน้ำนำมาใช้ในการขโมยถอดเหล็ก เช่น ประแจเบอร์ต่างๆ รอกโซ่ สำหรับชักดึงเหล็กขนาดใหญ่ คีมขนาดต่างๆ หลายรายการ และเรือหางยาวติดเครื่องยนต์ 1 ลำที่ใช้ในการขนเหล็กและเป็นพาหนะในการก่อเหตุ
...
ด้าน พ.ต.ท.นัฐพงษ์ ตาแก้ว รอง ผกก.7 บก.รน. เปิดเผยว่า ในการจับแก๊งแมวน้ำครั้งนี้เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักธุรกิจเจ้าของอู่ต่อเรือและก็เจ้าของเรือหลายลำที่ได้รับความเสียหาย เจ้าของอู่เรือถึงกับดีใจและกำราบแก๊งแมวน้ำชุดนี้ได้ซึ่งแก๊งอื่นคงไม่กล้าอาละวาดไปอีกนาน การจับกุมครั้งนี้ค่อนข้างยากลำบาก เนื่องจากแก๊งแมวน้ำมีความชำนาญในพื้นที่ ต้องอาศัยการลาดตะเวนทางน้ำเท่านั้น และต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ถึงจะรวบแก๊งแมวน้ำแก๊งนี้ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทางตำรวจน้ำได้รับรายงานและมีการแจ้งเบาะแสมาโดยตลอดเกี่ยวกับแก๊งนี้ที่สร้างความเสียหายให้กับเจ้าของเรือในจังหวัดสงขลามานานหลายปี บางลำขโมยเหล็กจนเรือจมลงก้นทะเลสาบอย่างน้อย 3-4 ลำ ที่หน้าอู่เรือศรีสงขลาซึ่งเป็นที่จอดเรือรอขึ้นอาคารในการซ่อมแซม จนเจ้าของเรือตัดสินใจยกเลิกการซ่อม และขายเรือเป็นเศษเหล็ก
รอง ผกก.7 บก รน. กล่าวอีกว่า พวกนี้เวลาไม่มีเงินก็ออกตระเวนหาเรือตามอู่เรือท่าต่างๆ แล้วทำการขโมยทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นประตู หน้าต่างเรือ สมอเรือ เหล็ก ท่อ ใบพัดเรือทุกชนิด อะไรที่ถอดได้ก็ถอดนำไปขาย ซึ่งได้เงินเพียงไม่กี่บาท แต่สร้างความเสียหายให้กับเจ้าของเรือมูลค่ามหาศาล โดยตอนนี้กำลังขยายผลไปยังร้านรับซื้อของเก่า ซึ่งทราบแล้วว่าอยู่ในพื้นที่ไหน เป็นการตัดวงจรแก๊งแมวน้ำให้ถึงที่สุด
...
ส่วนผู้ต้องหาแก๊งแมวน้ำประกอบด้วย นายวินัย ปานะ อายุ 44 ปี ชาวบ้าน ตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร นายบุญยืน คังคะโร อายุ 40 ปี ชาวบ้าน ตำบลหัวเขา และนายอนุชา รอดรมย์ อายุ 19 ปี ชาวบ้านตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร ทั้งหมดเป็นเพื่อนกันได้ก่อเหตุลักษณะแบบนี้มานานหลายปี ทั้งนี้ ตำรวจน้ำที่ทำการสอบสวนขยายผลและนำตัวส่ง สภ.สิงหนคร ท้องที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินคดีต่อไป.