ตำรวจวางแผนกล่อม “แอม” ให้รับสารภาพ ไม่ค้านประกัน “รองอ๊อฟ” จนศาลให้ประกันวงเงิน 1 แสนบาท แต่ต้องใส่กำไลอีเอ็ม พาตัวเข้าไปคุยแอมถึงในเรือนจำ เจอผัวตำรวจถึงกับร่ำไห้เป็นห่วงหน้าที่การงานและลูกๆจะอยู่ในสังคมยังไง ยังไม่ยอมเปิดปากรับสารภาพ ต่อรองขอพบญาติผู้หญิงคนหนึ่งก่อนแล้วพูดหมดเปลือก วันที่ 6 พ.ค.รู้ผล นัดบิ๊กโจ๊กเข้าไปสอบปากอีกครั้ง ส่วนการรวบรวมพยานหลักฐานของคณะพนักงานสอบสวนยังดำเนินการควบคู่ไป ปูดเรียกสอบนางเอกสาว “อ” เพราะสั่งซื้อไซยาไนด์ไป 1 กล่องลอตเดียวกับแอม ด้านชุดสืบสวนนครบาลเดินเครื่องคลี่คลายคดี “ทราย” เหยื่อที่เสียชีวิตพื้นที่ สน.ทองหล่อ รอผลการตรวจนิติเวช ตรวจสอบเส้นทางการเงิน หลังพบปมกลับมาจากต่างประเทศเพื่อทวงเงินแอม

กรณีการสืบสวนคลี่คลายคดีนางสรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 36 ปี ก่อคดีสะเทือนขวัญวางสารพิษไซยาไนด์เหยื่อนับสิบราย เกี่ยวพันการกู้ยืมเงิน รับจำนำรถ จำนำที่ดิน และวงแชร์ เพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ ถูกแจ้งดำเนินคดีข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนแล้ว ล่าสุดถึงขนาด พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ต้องลงมานั่งหัวโต๊ะเป็นประธานคณะทำงานเอง สั่งให้รวมคดีจากทุกท้องที่ให้กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เป็นผู้สอบสวน ขณะที่การสอบสวนยังดำเนินการต่อเนื่อง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ขออนุมัติศาลจังหวัดนครปฐมออกหมายจับ พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตรอง ผกก.สภ.สวนผึ้ง อดีตสามี 2 ข้อหาประกอบด้วยข้อหาร่วมกันรับของโจร และข้อหาร่วมกันปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม พร้อมสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว

...

สอบเครียด “รองอ๊อฟ” ตลอดคืน

ความคืบหน้าจาก สภ.เมืองนครปฐม เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 4 พ.ค. มีรายงานว่า คืนที่ผ่านมา พ.ต.อ.ภูภณ ทัพเจริญ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม พ.ต.ท.นิพนธ์ ก่อเกียรติตระกูล รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองนครปฐม สอบเครียด พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ ตลอดทั้งคืน หลังจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. นำตัวไปสอบสวนที่สโมสรตำรวจแล้วยอมเปิดปากรับสารภาพ 2 ข้อกล่าวหาตามหมายจับ กรณีนำรถเชฟโรเลต แคปติวา ของนายสุทธิศักดิ์ หรือแด้ พูนขวัญ อายุ 36 ปี สามีอีกคนของนางแอม ไปจำนำที่ จ.นครปฐม หลังนางแอมวางยานายแด้เสียชีวิตแล้ว

ค้นบ้านยึดแคปซูลยาไปตรวจ

ต่อมาเวลา 14.00 น. พ.ต.อ.ภูภณ ทัพเจริญ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม พ.ต.ท.นิพนธ์ ก่อเกียรติตระกูล รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองนครปฐม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน 7 ชุดสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม นำตัว พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ ไปตรวจค้นทาวน์โฮม 2 ชั้น เลขที่ 88/190 หมู่ 7 หมู่บ้านมณฑาทิพย์ 5 บ้านลำพยา ต.บางแขม อ.เมืองนครปฐม ใช้เวลานานกว่า 1 ชม. จากการตรวจค้นพบแคปซูลยามากกว่า 6 ชนิด และเอกสารหลายอย่าง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเก็บรวบรวมไว้ทั้งหมดเพื่อนำไปตรวจสอบเพิ่มเติม เชื่อมโยงกับคดีตามคำสั่งของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หลังตรวจค้นนำตัว พ.ต.ท.วิฑูรย์ เดินทางไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครปฐมทันที

ตำรวจไม่ค้านการประกันตัว

ที่ศาลจังหวัดนครปฐม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนครปฐม ขอฝากขัง พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ ผู้ต้องหาครั้งที่ 1 ถูกกล่าวหาร่วมกันรับของโจร ร่วมกันปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม ผู้ต้องหาถูกจับกุมส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีเมื่อวันที่ 3 พ.ค. ศาลพิจารณาคำร้องและเหตุจำเป็นแล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้ ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการฝากขัง ผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว พร้อมแสดงความยินยอมติดอุปกรณ์กำไลอีเอ็ม (EM) ระหว่างการปล่อยชั่วคราวด้วย

รอดคุกติดกำไลอีเอ็ม

ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าสอบผู้ร้องแล้วได้ความว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวนคดีนี้ตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย.2566 จนถึงปัจจุบันยังไม่พบพยานหลักฐานที่บ่งชี้ หรือยืนยันว่าผู้ต้องหามีส่วนร่วม หรือเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม มีเพียงความเกี่ยวพันเฉพาะคดีนี้ ประกอบกับเจ้าพนักงานตำรวจตรวจค้นบ้านพักที่ผู้ต้องหากับ น.ส.สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ แจ้ง ยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ต้องหาจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ส่วนรายการเคลื่อนไหวทางบัญชีธนาคารนั้นบันทึกไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ บุคคลภายนอกไม่อาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ ผู้ต้องหาประสงค์จะไปพบ น.ส.สรารัตน์ที่ทัณฑสถานหญิงกลางพร้อมเจ้าพนักงานตำรวจ เพื่อพูดคุย หาก น.ส.สรารัตน์กระทำผิดจริงจะขอให้การรับสารภาพ กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะออกหมายขัง อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวตีราคาประกัน 100,000 บาท และใส่กำไลอีเอ็ม

ตร.อุดรเจอหลักฐานมัดแอม

ส่วนความคืบหน้าการฆาตกรรมนายสุทธิศักดิ์ หรือแด้ พูนขวัญ อายุ 36 ปี ที่ จ.อุดรธานี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เผยว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สั่งการให้หาพยานหลักฐานและวัตถุพยานที่เชื่อมโยงคดีที่เชื่อว่านางแอมเป็นคนก่อเหตุวางยาไซยาไนด์ฆ่าเหยื่อที่มีความใกล้ชิดรวมทั้งนายแด้สามีใหม่ด้วย เราลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องสอบพยานร่วม 10 ปาก ก่อนไปพบวัตถุพยานหลักฐานสำคัญคือ บิลขายฝากทองรูปพรรณของนายแด้ที่นางแอมนำทองไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งกลางเมืองอุดรธานีถึง 2 ครั้งหลังนายแด้เสียชีวิต

เอาทองแด้ไปขายได้เงิน 1.6 แสน

“ครั้งแรกนางแอมนำทองไปขายฝากเมื่อวันที่ 13 มี.ค. 3 บาท ราคา 85,800 บาท ครั้งที่ 2 นำทองรูปพรรณไปขายฝากวันที่ 18 มี.ค. อีก 3 บาท ราคา 79,000 บาท เชื่อว่าหลังนางแอมขายทองของนายแด้ไปจำนวนหนึ่งแล้ว คืนวันที่ 13 มี.ค. นางแอมไปจัดงานวันเกิดตัวเองที่บ้านเพื่อนนายแด้พื้นที่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ก่อนเดินทางไปหาอดีตสามีที่เป็นตำรวจในพื้นที่ จ.ราชบุรี และพากันเดินทางกลับมาในพื้นที่ จ.อุดรธานี วันที่ 18 มี.ค.นำทองของนายแด้มาขายฝากที่ร้านทองร้านเดิม ก่อนขับรถเชฟโรเลต แคปติวา สีขาว ทะเบียน 5 กม 1146 กรุงเทพมหานคร ของนายแด้มุ่งหน้า กทม.ตามถนนมิตรภาพ” ผบก.ภ.จ.อุดรธานีกล่าว

...

ตรวจยึดทองของกลางได้แล้ว

พล.ต.ต.พิษณุ กล่าวด้วยว่า กล้องไลเซนส์เพลตหรือกล้องอ่านป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติของตำรวจปราบปรามยาเสพติด และตำรวจทางหลวงที่ติดตั้งไว้ในพื้นที่ อ.กุมภวาปี เพื่อป้องกันอาชญากรรม สามารถจับภาพและประมวลผลเลขทะเบียนส่งเข้า ตร. รวมทั้งหลักฐานไทม์ไลน์ที่ส่วนกลางสืบสวนสอบสวนขยายผลอีกหลายจุด นำไปสู่การขออนุมัติหมายจับนางแอมและรองอ๊อฟอดีตสามีในที่สุด ส่วนทองรูปพรรณของนายแด้เราตรวจยึดไว้เป็นของกลางจนกว่าคดีจะสิ้นสุดลง

ราชทัณฑ์รับการประสานแล้ว

ด้านนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยว่า ตนได้รับการประสานจากพนักงานสอบสวนว่า ช่วงบ่ายวันนี้จะมีการเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมนางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ เรือนจำเตรียมพร้อมสำหรับกรณีนี้แล้ว ส่วนกระแสข่าวที่จะมีการนำตัว พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือรองอ๊อฟ อดีตสามีแอมมาพบด้วย เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ เพราะในข้อเท็จจริงตามขั้นตอน หากพนักงานสอบสวนประสานเข้ามาแล้วสามารถดำเนินการสอบปากคำผู้ต้องหาได้ ส่วนจะมีใครมาบ้างนั้นเป็นอำนาจของพนักงานสอบสวน

“แอม”ปรับตัวในคุกได้แล้ว

นายอายุตม์เผยอีกว่า ส่วนสภาพความเป็นอยู่ของแอมหลังเข้ามายังทัณฑสถานหญิงกลางได้ 8 วัน จากวันแรกมีอาการเครียด เนื่องจากไม่เคยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ถูกจำกัด อีกทั้งอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ทำให้มีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัดจนต้องนำเข้ารักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เมื่อออกมาจากโรงพยาบาลแล้วมีการปรับสภาพร่างกายและจิตใจ สามารถพูดคุยกับผู้ต้องขังรายอื่นๆได้ปกติ ถึงปัจจุบันแอมอยู่ในสภาพที่เหมือนผู้ถูกคุมขังทั่วไป วันนี้เรือนจำเตรียมพร้อมหลังจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ประสานว่าจะเข้ามาสอบปากคำแอมตามขั้นตอนพนักงานสอบสวน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับการที่พนักงานสอบสวนเข้าพบแอมในวันนี้ นอกจากสอบปากคำเพิ่มเติม จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาในหมายจับล่าสุดของศาลจังหวัดนครปฐมด้วย ข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ ร่วมกันรับของโจร และร่วมกันปลอมเอกสารทางราชการและใช้เอกสารราชการปลอม

...

ใช้ “น้อยหน่า” ระบุฐานที่อยู่

ที่สมาคมพนักงานสอบสวน สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เผยว่า หลังจากที่วานนี้ (3 พ.ค.) สอบปากคำ น.ส.น้อยหน่า (สาวคนสนิท พ.ต.ท.วิฑูรย์) เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์อย่างมาก ยืนยันชัดเจนว่าตัวเองคบหากับรองอ๊อฟได้ 5 เดือน และไม่ได้รู้รายละเอียดเยอะ วันที่ทั้งหมดเดินทางไปหัวหินหลังจากแอมก่อเหตุแล้ว ส่วนที่เมืองกาญจนบุรีเขาก็ไปด้วยกันหมดเช่นกัน นอกจากนี้ น.ส.น้อยหน่า ยังให้การว่า แอมยินยอมให้คบกับรองอ๊อฟได้ แต่ยังแสดงท่าทางหึงหวง อย่างตอนไปเมืองกาญจนบุรี แอมนอนหมกตัวอยู่แต่ในห้องไม่ได้ออกไปไหน วิธีการแบบนี้ตำรวจมองว่าเป็นการอ้างสถานที่ที่หนึ่งหลังก่อเหตุ ใช้น้อยหน่าเป็นพยานเพื่อยืนยันว่าในวันเกิดเหตุคนเหล่านี้อยู่ในสถานที่ดังกล่าว น้อยหน่าไม่รู้เรื่องว่าตัวเองถูกใช้เป็นพยานเพื่อยืนยันถิ่นที่อยู่

รองอ๊อฟขอเกลี้ยกล่อม

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า ส่วนนี้สอบปากคำไว้ในสำนวนแล้ว วานนี้รองอ๊อฟบอกว่า ถ้าศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวจะแสดงความบริสุทธิ์ใจ ขอคุยกับแอมในเรือนจำเพื่อให้แอมสารภาพทั้งหมด อย่างไรก็ตาม นอกจากพยานเจ้าหน้าที่ยังพบความเชื่อมโยงเรื่องเส้นทางการเงินของน้อยหน่าในบางส่วนแต่ยังพบไม่หมด จึงนัดหมายให้ รอง ผกก. (สอบสวน) ที่ดูแลเรื่องเส้นทางการเงินทั้งหมดเร่งดำเนินการในช่วงวันหยุด 4 วันนี้ ไม่แน่ใจว่าจะออกหมายจับรองอ๊อฟเพิ่มเติมในฐานความผิดร่วมกันฆ่าได้หรือไม่

...

รับกล่อมอดีตผัวร่วมมือ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ตำรวจนำตัวรองอ๊อฟไปค้นบ้านที่ จ.นครปฐม และบ้านของแอมที่ จ.กาญจนบุรี ตรวจหาสารไซยาไนด์ หลังจากค้นบ้านเสร็จจะไปส่งฝากขังศาล ถ้ารองอ๊อฟได้ประกันจะพาไปทัณฑสถานหญิงกลาง หลักสำคัญของคดีนี้คือ การรับสารภาพของแอม เพราะรองอ๊อฟบอกว่าสามารถพูดให้แอมรับสารภาพได้ ตนจะให้ทั้งคู่ต่อรองกัน เพราะเราไม่มีเงื่อนไขใดๆกับรองอ๊อฟ รวมทั้งกันไว้เป็นพยาน จะดำเนินคดีเต็มที่ ส่วนที่รองอ๊อฟให้ความร่วมมือเพราะตนคุยตรงๆว่า เราเป็นตำรวจเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง คดีนี้สังคมชี้ไปแล้ว อีกทั้งศาลยังออกหมายจับ อะไรที่เป็นประโยชน์ต้องช่วยตัวเอง ให้รับสารภาพ ให้ไปคุยกับแอมเพื่อให้การเป็นประโยชน์ ทำหนักให้เป็นเบา

เรียกสอบนางเอกซื้อไซยาไนด์

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวถึงกรณีเตรียมออกหมายเรียกคนที่ซื้อไซยาไนด์ พบรายชื่อที่ซื้อพร้อมแอมกว่า 700 รายชื่อ แต่ตรวจสอบแล้วเหลือประมาณ 100 รายชื่อที่ซื้อลอตเดียวกัน ขณะนี้ออกหมายเรียกแล้ว 10-20 คน และจะทยอยเข้ามาให้การต่อไป หนึ่งในผู้สั่งซื้อไซยาไนด์ลอตเดียวกับแอมพบว่า มีรายชื่อนางเอกชื่อดัง อักษรย่อ อ.รวมอยู่ด้วย จะออกหมายเรียก 1-2 วันนี้ และจะเรียกมาให้ปากคำภายในวันที่ 8 หรือ 9 พ.ค. ทั้งนี้ยังพบว่าดาราสาวรายดังกล่าวสั่งซื้อไซยาไนด์หลังจากเกิดเหตุคดีแอม จะเรียกมาสอบถามว่า ซื้อไปทำอะไร หลังจากนี้พร้อมขยายผลตรวจสอบว่า การนำไซยาไนด์มาขายมีความผิดหรือไม่ พร้อมตรวจสอบว่า เจ้าหน้าที่กรมโรงงานมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่

สรุปรายชื่อเหลือทั้ง 14 คน

สรุปศาลอนุมัติหมายจับนางแอมรวม 14 หมาย ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ประกอบด้วยการเสียชีวิตของ พ.ต.ต.หญิง นิภา หรือสารวัตรปู แสงจันทร์ น.ส.รสจรินทร์ หรือเจ๊น้อยผัก นิลห้อย นายสุรัตน์ หรือบี ทรพับ น.ส.กะณิกา ตุลาเดชารักษ์ นางจันทรรัตน์ วงศ์ไกรสิณ ผู้กองนุ้ย ร.ต.อ.หญิง กานดา โตไร่ นางมณีรัตน์ หรือครูต่าย พจนารถ น.ส.นิตยา หรือนิด แก้วบุปผา น.ส.ผุสดุ หรือครูอ๊อด สามบุญมี นายสุทธิศักดิ์ หรือแด้ พูนขวัญ น.ส.ดาริณี หรือฟ้า เทพหวี น.ส.สาวิตรี หรือหนิม บุตรศรีรักษ์ และ น.ส.ศิริพร หรือก้อย ขันวงษ์ กรณีของก้อยนางแอมถูกแจ้ง 2 ข้อหาคือ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และลักทรัพย์ ส่วนรายที่ไม่เสียชีวิตแจ้งข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ได้แก่ กรณีนางกานติมา หรือปลา แพสอาด ส่วน พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ ถูกศาลออกหมายจับ 2 ข้อหาฐานร่วมกันรับของโจรและร่วมกันปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม

นครบาลเดินหน้าสอบคดี “ทราย”

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.5 และฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีนางสรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาภรณ์ ให้ชัดเจนว่า ผู้เสียชีวิต 1 รายในท้องที่ สน.ทองหล่อ ถูกฆาตกรรมวางยาไซยาไนด์หรือไม่ ตามคดีชันสูตรพลิกศพที่ 64/2558 เหตุเกิดที่เลอ รัฟฟิเน่ คอนโดมิเนียมชั้น 14 ดี ห้อง 7/26 ซอยสุขุมวิท 39 แขวงคลองตัน เหนือ เขตวัฒนา กทม. เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2558 เวลา ประมาณ 16.00 น. ผู้เสียชีวิต น.ส.มณฑาทิพย์ หรือทราย ขาวอินทร์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93/34 หมู่ 7 ต.สามพราน อ.สามพราน จ.นครปฐม

ทรายกลับมาทวงหนี้แอม

จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า น.ส.มณฑาทิพย์เดินทางออกจากประเทศแคนาดาเมื่อวันที่ 4 ก.ค.2558 มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ วันรุ่งขึ้น นางสรารัตน์ไปรับที่สนามบิน ต่อมาวันที่ 7 ก.ค.เวลา 16.00 น. น.ส.มณฑาทิพย์เสียชีวิตที่ห้องพัก พนักงานทำความสะอาดเข้าไปทำความสะอาดสระว่ายน้ำในห้องพัก แต่กดกริ่งแล้วไม่มีใครมาเปิดประตู แจ้งนิติบุคคลนำกุญแจสำรองมาเปิด พบผู้เสียชีวิตอยู่บนพื้นห้องนอน จากนั้นแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอบปากคำเพื่อนผู้ตายให้การว่า นางสรารัตน์รู้จักกับ น.ส.มณฑาทิพย์มานานนับ 10 ปี น.ส.มณฑาทิพย์ให้นางสรารัตน์ดูแลบ้านที่ จ.นครปฐม จ่ายค่าน้ำค่าไฟให้ ก่อนเดินทางกลับไทย น.ส.มณฑาทิพย์บอกว่าจะกลับมาเคลียร์ค่าใช้จ่ายและเงินที่นางสรารัตน์ขอยืมไป

เร่งตรวจเส้นทางการเงิน

มีรายงานว่า ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างติดตามผลการชันสูตรศพจากแพทย์นิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ เบื้องต้นผู้เชี่ยวชาญให้ข้อมูลว่า ไซยาไนด์เป็นสารที่สลายตัวเร็วในคนที่ยังมีชีวิต สลายตัวได้ 50 เปอร์เซ็นต์ ภายในเวลาครึ่งชั่วโมง ส่วนคนที่เสียชีวิตทางวิชาการมีทั้งตรวจพบในปริมาณที่เพิ่มขึ้นและลดลง รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้เสียชีวิตและนางสรารัตน์ด้วยว่า ช่วงเวลา น.ส.มณฑาทิพย์เสียชีวิตมีความผิดปกติหรือไม่ ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างสืบสวนตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว

พารองอ๊อฟเข้าคุย

ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เวลา 16.05 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเตรียมเข้าสอบสวนนางสรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาภรณ์ คณะพนักงานสอบสวนพาตัว พ.ต.ท.วิฑูรย์ หรือรองอ๊อฟ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามีนางสรารัตน์ ที่ได้รับการปล่อยชั่วคราวขึ้นรถตู้ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ทะเบียน 1 นข 1139 กรุงเทพมหานคร เข้าไปในทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อเจรจาเกลี้ยกล่อมแอมให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ต่อมาเวลา 16.40 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางไปร่วมสอบสวนภายในเรือนจำด้วยตัวเอง

เผยต่อรองขอพบญาติก่อน

ต่อมาเวลา 17.30 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกมาเปิดเผยว่า พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 และอ๊อฟอดีตสามีแอม เข้าไปเกลี้ยกล่อมให้แอมสำนึกผิด แต่แอมเสนอว่าขอเจอญาติผู้หญิงคนหนึ่งที่ไว้ใจก่อน ญาติคนนี้อยู่ในพื้นที่ บช.ภ.7 หลังจากนั้นถึงจะยอมให้การกับตนทั้งหมด นัดหมายให้อ๊อฟพาตัวญาติมาพบเวลา 10.00 น.วันที่ 5 พ.ค. จากนั้นวันที่ 6 พ.ค.จะมาสอบสวนแอมอีกครั้งว่าจะให้การอย่างไร

ร่ำไห้สำนึกผิดห่วงผัว

รอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ระหว่างการสอบสวนแอมร่ำไห้ เพราะกังวลเกี่ยวกับเรื่องสามีที่โดนให้ออกจากราชการจากการกระทำของตัวเอง ไม่รู้ว่าจะทำงานและใช้ชีวิตอย่างไร รวมถึงกังวลเรื่องลูกด้วยว่าจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร แต่วันนี้แอมยังไม่ยอมรับสารภาพในคดีฆ่าหรือให้การใดๆ ตนพยายามพูดให้เห็นว่า พยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนนั้นไปไกลแล้วที่จะเอาผิด พนักงานสอบสวนเห็นว่า การให้สามีมาเกลี้ยกล่อมจะทำให้เขาให้การรับสารภาพและเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนตัวอ๊อฟไม่มีความเครียด แต่แอมเครียดมากโดยเฉพาะความกังวลในเรื่องลูก การอยู่ในสังคมของลูก หลังออกจากราชการสามีจะไปทำงานที่ไหน แอมบอกว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นผลจากสิ่งที่เขาทำทั้งสิ้น

แม่ไอซ์–ปรีชญารับซื้อไซยาไนด์

กรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เตรียมเรียกนางเอกสาว อ.มาสอบสวนหลังพบว่าซื้อไซยาไนด์ลอตเดียวกับนางแอม ล่าสุดนางบังอร พงษ์ธนานิกร แม่ดาราสาว ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร เผยว่า ยอมรับว่าเป็นไอซ์ที่สั่งซื้อไซยาไนด์มาจริง สาเหตุที่ซื้อเนื่องจากที่บ้านมีปัญหาของสัตว์เลื้อยคลานทั้งงูและตัวเงินตัวทองเข้ามาในบ้านพยายามหาอย่างอื่นมาไล่ก็ไม่สำเร็จ ไม่อยากให้คนเข้าใจผิด ที่ซื้อไซยาไนด์มาเพราะจะเอามาไล่งูเห่าและสัตว์เลื้อยคลาน เพราะหลังบ้านทรุดมันเข้ามากัดสุนัขกัดกันเองในบ้าน บังเอิญไปหาเจอว่าไซยาไนด์ไล่ได้ ตอนแรกไม่รู้ว่าจะสั่งจากไหน เพราะเป็นยาอันตราย แต่สุดท้ายสามารถสั่งออนไลน์ได้

เอามาไล่งู–ตัวเงินตัวทอง

“จ่ายเงินไป 3 พันบาท สั่งวันที่ 25 เม.ย.ของมาส่งวันที่ 27 เม.ย. ยังไม่ได้แกะสินค้าเลย ไม่ได้คิดอะไร จนล่าสุดตำรวจแถลงว่าจะเรียกดาราที่ซื้อไซยาไนด์มาสอบสวนกลัวว่าคนจะเข้าใจผิด บ่ายวันนี้เอาหลักฐานการส่งไซยาไนด์ทั้งหมดไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ก่อนหน้านี้เราไม่เคยสั่งซื้อมาก่อนนี่เป็นครั้งแรก ทราบว่าตำรวจจะเรียกเข้าไปพบวันที่ 8 พ.ค. ไอซ์มีงานอาจเลื่อนออกไป แต่พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ยืนยันว่าเอามาไล่สัตว์มีพิษเท่านั้น” นางบังอรกล่าว