ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดหลักฐานออกหมายจับ "แอม ไซยาไนด์" นำทอง "แด้ ผัวใหม่" ไปขายหลังเสียชีวิต ก่อนขับรถออกนอกพื้นที่ไปกับ "รอง ผกก. อดีตผัว"
จากกรณีที่ นายสุทธิศักดิ์ พูนขวัญ หรือแด้ อายุ 36 ปี ชาวราชบุรี นายทุนเงินกู้ สามีใหม่ นางสิรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือแอม อายุ 36 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี เสียชีวิตที่หอพักแห่งหนึ่งใน ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่า "หัวใจเต้นผิดจังหวะ" เหตุเกิดช่วงบ่ายวันที่ 12 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งภรรยาไม่ติดใจในการเสียชีวิต ก่อนส่งศพไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดนายแด้ ส่วนนางแอมไม่ได้เดินทางกลับพร้อมศพนายแด้ แต่กลับไปจัดงานวันเกิดของตนเองที่บ้านเพื่อนในพื้นที่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ในช่วงค่ำวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา
กระทั่งมีการสืบสวนเกี่ยวกับคดีการเสียชีวิตของก้อยว่า เชื่อว่าโดน นางแอม วางยา "ไซยาไนด์" และเชื่อว่า นางแอม ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันกับเหยื่อหลายราย จึงสืบสวนหาพยานหลักฐานเชื่อมโยงอีกหลายคดี รวมทั้งการเสียชีวิตของแด้ด้วย จนพบวัตถุพยานหลักฐาน ไทม์ไลน์ เชื่อมโยงกันเจ้าหน้าที่ให้เชื่อว่า นางแอม ก่อเหตุวางยา "ไซยาไนด์" กับเหยื่อที่มีความใกล้ชิดสนิทสนม จนเสียชีวิตไปแล้วในขณะนี้ทั้งหมด 14 ราย และรอดชีวิต 1 ราย
ตำรวจสืบสวน ภ.จ.อุดรธานี และตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้ลงพื้นที่สืบสวนหาวัตถุพยานหลักฐานเชื่อมโยงคดี จนศาลจังหวัดอุดรธานีได้อนุมัติหมายจับ เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2566 ข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน" และตำรวจชุดคลี่คลายคดี นำโดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดนครปฐม จับอดีตสามีนางแอม คือ พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.สวนผึ้ง 3 ข้อหา คือ "ร่วมกันยักยอกทรัพย์, ร่วมกันฉัอโกงและใช้เอกสารราชการปลอม, และปลอมแปลงเอกสาร"
...
จากกรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ในส่วนคดีของ นางสิรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือแอม อายุ 36 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.อุดรธานี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้หาพยานหลักฐานและวัตถุพยานที่เชื่อมโยงคดี ที่เชื่อว่านางแอมเป็นคนก่อเหตุวางยา "ไซยาไนด์" ฆ่าเหยื่อที่มีความใกล้ชิด รวมทั้ง นายแด้ สามีใหม่ด้วย ซึ่งทางเราได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และสอบพยานร่วม 10 ปาก ก่อนนำไปพบหลักฐาน คือ บิลขายฝากทองรูปพรรณของนายแด้ ที่นางแอมนำทองไปขายที่ร้านทอง มีชื่อแห่งหนึ่งกลางเมืองอุดรธานี และเป็นร้านทองร้านเดียวกันถึง 2 ครั้ง หลังจากนายแด้เสียชีวิตไป
โดยครั้งแรก นางแอม นำไปขายฝากในวันที่ 13 มีนาคม 2566 จำนวน 3 บาท ในราคา 85,800 บาท ครั้งที่ 2 นำทองรูปพรรณไปขายฝากในวันที่ 18 มีนาคม อีก 3 บาท ในราคา 79,000 บาท ซึ่งทางตำรวจเชื่อว่าหลังจากนางแอมขายทองของนายแด้ไปจำนวนหนึ่งแล้ว และคืนวันที่ 13 มีนาคม 2566 นางแอมได้ไปจัดงานวันเกิดตัวเองที่บ้านเพื่อนของแด้สามีใหม่ ในเขตพื้นที่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ก่อนเดินทางไปหาอดีตสามีที่เป็นตำรวจในพื้นที่ จ.ราชบุรี และพากันเดินทางกลับมาในพื้นที่ จ.อุดรธานี ในวันที่ 18 มีนาคม 2566 นำทองรูปพรรณของ นายแด้ มาขายฝากที่ร้านทองร้านเดิม ก่อนพากันขับรถเชฟโรเลต รุ่นแคปติวา สีขาว ทะเบียน กทม.ของ นายแด้ มุ่งหน้าเข้า กทม.ไปตามถนนมิตรภาพ
"ซึ่งกล้องไลเซ่นเพลต หรือกล้องอ่านป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติของตำรวจปราบปรามยาเสพติด และตำรวจทางหลวงที่ติดตั้งไว้ในพื้นที่ อ.กุมภวาปี เพื่อป้องกันอาชญากรรม สามารถจับภาพและประมวลผลเลขทะเบียนส่งเข้า ตร. รวมทั้งหลักฐานไทม์ไลน์ที่ทางส่วนกลางได้สืบสวนสอบสวนขยายผลอีกหลายจุด จนนำไปสู่การขออนุมัติหมายจับนางแอม และอดีตสามีที่เป็นตำรวจในที่สุด ส่วนทองรูปพรรณของนายแด้นั้น ทางเราได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางแล้ว จนกว่าคดีจะสิ้นสุดลง"