“รองโจ๊ก” เรียกประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนชุดใหญ่ ทั้ง บช.ภ.7 บช.ก. บก.ป.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จ่อดำเนิน คดีนายตำรวจอีกรายร่วมก่อคดีสะเทือนขวัญ กับ “แอมทมิฬ” ขยายความเป็นคนขับรถไปรับแอมถึง จ.อุดรธานี หลังวางยาแด้เสียชีวิต แล้วขับรถเหยื่อกลับมาจำนำที่ จ.นครปฐม แฉพฤติกรรมแอมติดพนันออนไลน์งอมแงม เป็นหนี้บัตรเครดิต แถมติดแบล็กลิสต์เครดิตบูโร กองปราบฯเรียกสอบ รอง ผกก.อดีตสามีแอมอีกรอบ เจาะประเด็นรู้เห็นพฤติกรรมโหดหรือไม่ สรุปเหยื่อล่าสุดทั้งหมด 14 ศพ รอด 1 พร้อมส่งตำรวจประสานกรมโรงงานฯ และ อย. ตรวจค้นห้างหุ้นส่วน จำกัด ผู้ขายสารไซยาไนด์ ตรวจสอบพบขายไปแล้ว 32 ขวด ส่วนรอง ผกก.อดีต สามีแอม ถูกย้ายอีกรอบ แถมมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความเกี่ยวพันกับคดีที่อดีตภรรยาก่อเหตุ

กรณีชุดสืบสวนหลายหน่วย ทั้ง บช.ภ.7 บช.ก. บก.ป.และตำรวจท้องที่ที่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่าจะตกเป็นเหยื่อ ภายใต้การนำโดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. คลี่คลายคดีนางสรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 36 ปี อดีตภรรยานายตำรวจระดับรอง ผกก. ในพื้นที่ จ.ราชบุรี หลังถูกกระชากหน้ากากว่าเกี่ยวพันการเสียชีวิตของเพื่อนและคนรู้จักจำนวนมาก จนถูกจับกุมดำเนินคดีข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้และลักทรัพย์ควบคุมตัวฝากขังส่งเข้าทัณฑสถานหญิงกลางไปแล้วนั้น เบื้องต้นตรวจสอบพบว่า นางสรารัตน์กำลังตั้งครรภ์ 4 เดือน เคยมีอาการป่วยทางจิตรักษาตัวเมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่ขาดการรักษามา 2 ปี ขณะที่การคลี่คลายคดียังคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง มีผู้เข้าข่ายเป็นเหยื่อเพิ่มมากขึ้นกว่า 10 ราย เกี่ยวพันการกู้ยืมเงิน รับจำนำรถ จำนำที่ดิน และวงแชร์

...

“โจ๊ก” เรียกประชุมชุดใหญ่

ความคืบหน้าจากสมาคมพนักงานสอบสวน สโมสรตำรวจ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 พ.ค. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เรียกประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนครั้งที่ 2 คดีนางสรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาคดีวางสารไซยาไนด์ฆ่าผู้ใกล้ชิดเสียชีวิตกว่าสิบรายเพื่อล้างหนี้สิน เพื่อสรุปความคืบหน้าการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยมีคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนจากกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) และตำรวจท้องที่เกิดเหตุหลายแห่งในพื้นที่ บช.ภ.7 จำนวน 5 จังหวัด ประกอบด้วย จ.กาญจนบุรี จ.ราชบุรี จ.เพชรบุรี จ.สมุทรสาคร และ จ.นครปฐม ตำรวจ บช.ภ.4 จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำผลการรวบรวมพยานหลักฐานที่ได้เพิ่มเติมมาสรุปการทำงาน

ไล่พยานหลักฐานละเอียดยิบ

หลังจากการประชุมใหญ่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 เม.ย. คณะพนักงานสอบสวนจะรายงาน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เกี่ยวกับผลการสอบสวนพยาน ได้แก่ สามี ภรรยา พ่อแม่ ญาติพี่น้อง หรือผู้เกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต ผลการตรวจพิสูจน์ของแพทย์ไม่ว่าเป็นคดีที่ผ่าศพชันสูตรหรือไม่ได้ผ่าศพ รวมถึงผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์จากวัตถุพยานที่เก็บมาได้ ไม่ว่าจากในรถยนต์ผู้เสียชีวิต รถยนต์ผู้ต้องหา บ้านผู้ต้องหา บ้านพี่สาวผู้ต้องหา และผลการตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อสำนวนการสอบสวนรัดกุมมากขึ้น นอกจากนี้ยังพิจารณาออกหมายจับนางแอมเพิ่มเติมคดีการวางยาฆ่าอย่างโหดเหี้ยมครั้งประวัติศาสตร์นี้ และตรวจสอบด้วยว่ามีใครรู้เห็นหรือร่วมมือกับแอมอีกหรือไม่

สรุปเหยื่อตายแล้ว 14 รอด 1

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เผยก่อนเข้าประชุมว่า ตลอดการทำงานทั้งสัปดาห์ ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก วันนี้เรียกประชุมเร่งรัดสำนวนการสอบสวนคดีทั้งหมด สรุปล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 14 ราย รอด 1 ราย ออกหมายจับและแจ้งข้อหาแล้ว 10 คดี คงเหลืออีก 4 คดี พร้อมอายัดตัวผู้ต้องหาในเรือนจำเพื่อดำเนินคดีทั้งหมด

จ่อแจ้งข้อหาตำรวจคนใกล้ชิด

“ขณะเดียวกันตำรวจกำลังตรวจสอบพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงไปยังผู้ใกล้ชิดที่มีส่วนเกี่ยวข้องและร่วมกันกระทำความผิดด้วยอีก 1 คน เป็นตำรวจที่เคยเรียกสอบปากคำไปแล้ว นอกจากนี้ยังพบแหล่งที่มาของไซยาไนด์แล้วว่าอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ตำรวจขอหมายค้นจากศาล พร้อมประสานอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม และคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เข้าตรวจสอบเรื่องการนำเข้าสารพิษดังกล่าว บริษัทที่นำเข้าต้องระบุวัตถุประสงค์การนำเข้า และมีวิธีควบคุมไม่ให้สารพิษนี้หลุดออกไป ไม่ให้นำไปใช้นอกวัตถุประสงค์ หากพบการกระทำผิดจะดำเนินคดีผู้นำเข้าด้วย คาดว่าภายใน 1-2 วันนี้จะสามารถรวบรวมหลักฐานขอหมายจับผู้ร่วมกระทำผิดได้ ยืนยันตำรวจมีหลักฐานว่าแอมลงมือก่อเหตุทุกคดี ทั้งพยานแวดล้อมและผลการชันสูตรพลิกศพ” รอง ผบ.ตร.กล่าว

ผู้เสียหายเข้าแจ้งต่อเนื่อง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังมีข้อมูลจากหลายส่วนว่า มีบุคคลที่เคยติดต่อกับแอมแล้วเสียชีวิต กำลังตรวจสอบว่ามีผู้เสียหายเพิ่มเติมหรือไม่ หากมีญาติผู้เสียชีวิตรายใดที่เคยพบปะหรือดื่มกินอาหารจากแอม ให้มาติดต่อตนได้ที่สโมสรตำรวจ นอกจากนี้ยังสั่งการให้ผู้กำกับการแต่ละท้องที่ตรวจสอบคดีตายผิดธรรมชาติ เช่น ลักษณะมือและเล็บเขียว เน้นย้ำให้ต้องผ่าชันสูตรศพด้วย วันที่ 3 พ.ค. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เรียกประชุมคณะทำงาน

ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป.เผยว่า การประชุมวันนี้จะเป็นการเร่งรัดติดตามคดี พร้อมเตรียมเรียกสอบปากคำพยานเพิ่มเติมจากที่เคยสอบสวนไปแล้วอีกครั้ง เพื่อซักถามรายละเอียดเพิ่มเติม

ผัวตำรวจให้การมีพิรุธ

มีรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีนางแอมหลายหน่วยงาน เคยเรียก พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามีที่จดทะเบียนหย่ากันไปแล้ว แต่ยอมรับว่ายังมีพฤติกรรมอยู่กินร่วมกันเป็นปกติมาสอบสวนฐานะพยาน ล่าสุดถูกเรียกมาสอบสวนที่สโมสรตำรวจเมื่อวันที่ 27 เม.ย.นานกว่า 10 ชม. ครั้งนั้น พ.ต.ท.วิฑูรย์ให้การมีพิรุธ ออกมากล่าวเพียงสั้นๆว่า หลังจากที่ตกเป็นข่าวไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะยังทำใจไม่ได้ สภาพจิตใจย่ำแย่มาก จากนั้นรีบเดินขึ้นรถกลับไปทันที

...

ถ้าเกี่ยวพันให้ออกราชการด้วย

หลังประชุมนานกว่า 4 ชม. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ออกมาเผยว่า การประชุมหลักสำคัญคือการไล่เรียงคดีทั้งหมด 14 คดี รวมถึงคดีที่ออกหมายจับไปแล้ว 10 คดี เพื่อเพิ่มเติมประเด็นสำคัญของคดีให้แน่นหนา สำนวนมีความรัดกุมมากขึ้น ส่วนประเด็นของผู้เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างรอผลการตรวจของวัตถุพยานจากสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน คาดว่าผลตรวจน่าจะออกเย็นวันนี้ วันที่ 3 พ.ค.น่าจะรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ ส่วนรายชื่อต้องขอสงวนไว้ก่อน แต่ต้องเรียนสื่อมวลชนว่า หากเป็นข้าราชการท่าน ผบ.ตร.ให้ใช้นโยบายเด็ดขาดคือ ให้ออกจากราชการไว้ก่อน

แกะรอยคดีสาวกำแพงเพชร

“ส่วนคดีใหม่นางลัดดา ขาวอินทร์ อายุ 64 ปี ชาวกำแพงเพชร มารดาของ น.ส.มณฑาทิพย์ ขาวอินทร์ หรือทราย อายุ 37 ปีที่เสียชีวิตไปเมื่อ 7 ปีที่แล้วในพื้น สน.ทองหล่อ เจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบความเชื่อมโยงคดีก่อน เนื่องจากแม่ให้การว่า นางแอมเป็นคนรับมาช่วงเย็น แต่มาถึงคอนโดมิเนียมย่านทองหล่อตอนตีหนึ่ง ต้องไปสอบพยานแวดล้อมเพื่อหาความเชื่อมโยงเนื่องจากคดีเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2558 ทำให้พยานหลักฐานหลายส่วนหายไป แต่เชื่อมั่นได้ว่าเกิดจากการกระทำลักษณะเดียวกัน” รอง ผบ.ตร.กล่าว

คนใกล้ชิดช่วยสร้างฐานที่อยู่

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวต่อว่า วันนี้ร่องรอยหลายส่วนที่พบเพิ่มเติมในรถของผู้ต้องหา เช่น สัญญาปล่อยเงินกู้ จากการไล่ความเชื่อมโยงไล่เส้นทางการขับรถพบว่า บุคคลใกล้ชิดของนางแอมเป็นคนขับรถยนต์เชฟโรเลต แคปติวา ของนายสุทธิศักดิ์ หรือแด้ พูนขวัญ อายุ 35 ปีมาจาก จ.อุดรธานี เมื่อถึง จ.นครปฐม นางแอมเอารถคันดังกล่าวไปจำนำ เมื่อมาดูไทม์ไลน์สังเกตได้ว่า เหตุจะเกิดวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ทุกเหตุการณ์ และทุกครั้งที่นางแอมก่อเหตุจะกลับมาหาบุคคลใกล้ชิดทุกครั้ง และจะต้องออกไปต่างจังหวัดกับบุคคลใกล้ชิดทุกครั้ง เพื่อเป็นการสร้างพยานหลักฐานสร้างถิ่นที่อยู่ ถ้าไม่มีคนแนะนำจะไม่สามารถทำแบบนี้ได้

...

ผัวตำรวจขับรถไปรับที่อุดรฯ

พล.ต.อ.สรุเชษฐ์กล่าวอีกว่าส่วนกรณีอดีตสามีของผู้ต้องหายศ พ.ต.ท. ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ เบื้องต้นให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก ยอมรับว่าเป็นผู้ขับรถยนต์สีขาวไปรับผู้ต้องหาที่ จ.อุดรธานี หลังเหตุการณ์นายแด้เสียชีวิต ก่อนนำรถไปจำนำในพื้นที่ จ.นครปฐม แต่อดีตสามีของผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือรู้เห็นการฆาตกรรมที่เกิดขึ้น ขณะนี้สั่งการให้อดีตสามีของผู้ต้องหามาปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินคดีตามกฎหมายและให้ออกราชการทันที ขณะเตรียมขอศาลออกหมายจับคนสนิทเพิ่มเติมภายใน 1-2 วันนี้หลังพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในคดี แต่ไม่ยืนยันว่าเป็นอดีตสามีผู้ต้องหาหรือไม่

พบ “แอม” ติดพนันออนไลน์

“ส่วนแผนการประทุษกรรมจากการสอบปากคำอดีตสามีผู้ต้องหา รวมถึงการสืบหาพยานหลักฐานเบื้องต้นพบว่าผู้ต้องหาติดหนี้บัตรเครดิตและถูกติดตามทวงถาม รวมถึงติดแบล็กลิสต์เครดิตบูโร สาเหตุเกิดจากการเล่นพนันออนไลน์ ส่วนการหย่ากันระหว่างผู้ต้องหาและอดีตสามีที่เป็นตำรวจ คาดว่าน่าจะเป็นในเรื่องของสถานะทางการเงินภายในครอบครัว เบื้องต้นยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าอดีตสามีผู้ต้องหาที่เป็นตำรวจมีหนี้สินล้นพ้นตัวหรือไม่” รอง ผบ.ตร.กล่าว

...

ลุยค้น หจก.ขายไซยาไนด์

ต่อมาเวลา 12.00 น.วันเดียวกัน ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีนางแอม เจ้าหน้าที่ พฐ.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม และเจ้าหน้าที่คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอหมายค้นศาลมีนบุรีเข้าตรวจค้นห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็มแอนด์พี อิมเป็กซ์ เลขที่ 2/8 ถนนเจ้าคุณทหาร แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กทม. บริษัทนำเข้าสารไซยาไนด์ ที่เบื้องต้นมีข้อมูลว่า นางแอมสั่งซื้อสารไซยาไนด์จากที่นี่พบเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 2 คูหา ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าทางห้องปฏิบัติการ อุปกรณ์วัสดุสารเคมีเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ มีนายธิติ คล่องแคล่ว อายุ 41 ปี เจ้าของ หจก.นำตรวจค้น เพื่อหาหลักฐานยืนยันว่า ขายสารไซยาไนด์ให้นางแอมจริงหรือไม่ ขายให้ไปได้อย่างไร เนื่องจากเป็นสารอันตรายที่ต้องควบคุม

ขายลูกค้าไปแล้ว 32 ขวด

หลังใช้เวลาตรวจค้นกว่า 3 ชม. มีรายงานว่า การตรวจค้นวันนี้ตำรวจติดตามเบาะแสร่องรอยขวดสารพิษที่นางสรารัตน์ หรือแอม เคยฝากคนใกล้ชิดไปฝังดินเพื่อทำลายหลักฐาน เมื่อตรวจสอบขวดสารพิษพบว่าแหล่งที่ผู้ต้องหาซื้อมาจากห้าง หุ้นส่วนจำกัดแห่งนี้ นำหมายค้นมาตรวจสอบเพื่อสืบทราบว่า ใครเป็นผู้ที่สั่ง พบว่าห้างหุ้นส่วนนี้ สั่งไซยาไนด์มาจากโรงงานย่านสุขุมวิทที่เป็นผู้นำเข้ามาอีกต่อหนึ่ง เบื้องต้นพบว่าไซยาไนด์ถูกขายไปแล้ว 32 ขวด ไม่มีเหลืออยู่แล้ว ตำรวจจะรวบรวมรายชื่อผู้ซื้อมาสืบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง

เบื้องต้นยังไม่พบความผิดปกติ

ส่วนวัตถุประสงค์การนำเข้า พนักงานห้าง หุ้นส่วนแจ้งว่า นำมาขายให้กลุ่มลูกค้าที่ใช้ในอุตสาหกรรม หรือการเคลือบเหล็ก นอกจากนี้กรมโรงงานอุตสาห กรรมตรวจสอบแล้วไม่พบว่า ห้างหุ้นส่วนแห่งนี้นำเข้าไซยาไนด์เกินกว่า 1,000 กก. หรือ 1 ตันซึ่งจะถือว่าผิดกฎหมาย สำหรับรายละเอียดอื่นๆจะแถลงความคืบหน้าอีกครั้งในวันที่ 3 พ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

กองปราบฯสอบรอง ผกก.รอบสอง

ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ความคืบหน้าในส่วนคดีนางสรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาภรณ์ วางยาฆ่าชิงทรัพย์ น.ส.ศิริพร หรือก้อย ขันวงษ์ อายุ 33 ปี วันนี้พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป.เชิญตัว พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามีนางสรารัตน์มาสอบปากคำฐานะพยานเป็นหนที่สอง เพื่อซักถามรายละเอียดเกี่ยวกับพฤติการณ์แวดล้อมเพิ่มเติมบางประเด็น โดยมี พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.5 บก.ป. ร่วมสอบปากคำด้วยตัวเอง

เจาะประเด็นรู้เห็นพฤติกรรม

ประเด็นหลักที่พนักงานสอบสวนกองปราบปราม นำตัว พ.ต.ท.วิฑูรย์มาสอบปากคำเพิ่มเติมครั้งนี้ เป็นประเด็นความสัมพันธ์ระหว่าง พ.ต.ท.วิฑูรย์ กับ นางสรารัตน์ จากการสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่า ทั้งคู่มีปัญหากันบ่อยครั้งก่อนหย่าร้างกันเมื่อ 3 ปีที่แล้ว แต่ทั้งคู่ยังอาศัยอยู่บ้านเดียวกันแต่แยกห้องนอน เนื่องจากต้องช่วยกันดูแลลูก ระหว่างนั้น พ.ต.ท.วิฑูรย์ยังให้เงินแอมใช้ แต่แอมกลับเอาไปทำธุรกิจปล่อยเงินกู้ ได้กำไรมาจะโอนเงินมาให้ แต่ยอดเงินไม่ได้สูงมากนัก ขณะนี้ กก.5 บก.ป.กำลังตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียดอีกครั้ง นอกจากนี้ยังมีข้อเคลือบแคลงสงสัยอีกประเด็นเกี่ยวกับกรณีช่วงนางสรารัตน์ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ พ.ต.ท.วิฑูรย์รับรู้ด้วยหรือไม่

ภาพรวมหมายจับ “แอมทมิฬ”

ส่วนการดำเนินคดีนางสรารัตน์ทั้งหมดที่ก่อเหตุกับเหยื่อตามท้องที่ต่างๆ ขณะนี้ออกหมายจับแล้ว 12 หมายจับ แบ่งเป็น 11 หมายจับคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง ประกอบด้วย 1.คดี น.ส.ศิริพร หรือก้อย ขันวงษ์ 2.คดี พ.ต.ต.หญิง นิภา แสนจันทร์ 3.คดี น.ส.รสจรินทร์ หรือน้อยผัก นิลห้อย 4.คดี ร.ต.อ.หญิง กานดา โตไร่ หรือผู้กองนุ้ย 5.คดีนางมณีรัตน์ พจนารถ หรือครูต่าย 6.คดีนายสุทธิศักดิ์ หรือแด้ พูนขวัญ 7.คดีนายสุรัตน์ หรือบี ทรพับ 8.คดี น.ส.กะณิกา หรือเอ๊ะ ตุลาเดชารักษ์ 9.คดี น.ส.นิตยา หรือนิด แก้วบุปผา 10.คดี น.ส.ผุสดี สามบุญมี หรือครูอ๊อด 11.คดี นางจันทรรัตน์ หรือจุ๋ม วงศ์ไกรสิณ และอีก 1 หมายจับคดีพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนคือ คดีนางกานติมา หรือปลา แพสอาด ส่วนอีก 2 คดี คือกรณี น.ส.สาวิตรี หรือสนิม บุตรศรีรักษ์ พื้นที่ จ.มุกดาหาร และคดี น.ส.ดาริณี หรือฟ้า เทพหวี พื้นที่ จ.นครปฐม อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับเพิ่มเติม

ม.เกษตรฯตรวจหลักฐาน 400 ชิ้น

ด้าน รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรืออาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ฐานะผู้ตรวจ พิสูจน์หลักฐานหาสารไซยาไนด์ในวัตถุพยาน เผยว่า ตอนนี้มีพยานวัตถุที่เป็นหลักฐานต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมาให้ตรวจเกือบ 400 ชิ้น คาดว่าใช้เวลาตรวจพยานหลักฐานทั้งหมดอย่างเร็วที่สุดภายในวันที่ 5 พ.ค.นี้ หากหลักฐานบางชิ้นยังเกิดข้อสงสัยหรือข้อผิดพลาด กล่าวคือผลไม่ออกมา 100 เปอร์เซ็นต์ต้องส่งตรวจใหม่ด้วยเครื่องมือที่ลึกขึ้นไปอีกขั้น ใช้เวลาอีกเกือบสัปดาห์ ยืนยันว่าต้องตรวจอย่างรอบคอบที่สุด เพราะอาชญากรต้องทิ้งร่องรอยการก่ออาชญากรรม

ยันพบไซยาไนด์ในหลักฐาน

ส่วนประเด็นหลักฐานจากบ้าน น.ส.ผุสดี สามบุญมี หรือครูอ๊อด ข้าราชการครูหนึ่งในเหยื่อผู้เสียชีวิต ที่ จ.นครปฐม รศ.ดร.วีรชัยกล่าวว่า ตัวอย่างของในตู้เย็นครูอ๊อดประกอบไปด้วยของเหลวและยาสมุนไพรต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมาให้ตรวจเมื่อวันที่ 28 เม.ย. และเอาเข้าเครื่องสกรีนเมื่อวันที่ 30 เม.ย. ต้องรอผลโอเวอร์ไนต์ (overnight) ผลจะออกเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตาม ในบรรดาหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมาพบสารไซยาไนด์บางตัวอย่างแล้ว แต่ต้องรอผลตรวจอย่างเป็นทางการทั้งหมดและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงอีกที

คุมเข้มรอง ผกก.อดีตผัวแอม

ที่ จ.ราชบุรี ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง บก.ภ.จ.ราชบุรี กรณีมีคำสั่งย้าย พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ รอง ผกก.สภ.บ้านโป่ง อดีตสามีนางแอม ให้มาช่วยราชการที่ ภ.จ.ราชบุรี โดยขาดจากตำแหน่งเดิม จากการเฝ้าสังเกตตั้งแต่ 06.30-09.00 น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติงานอยู่ภายในสำนักงาน ภ.จ.ราชบุรี แต่ไม่พบ รอง ผกก.อดีตสามีของนางแอม ส่วนบริเวณหน้าห้องประชุมตำรวจ ภ.จ.ราชบุรี มีรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีดำ หมายเลขทะเบียน กข 5665 สุโขทัย ของรอง ผกก.ยังคงจอดอยู่ที่เดิม

ตั้ง กก.สอบรู้เห็นอดีตเมีย

ส่วนความเคลื่อนไหวการสืบสวนสอบสวนที่ ภ.จ.ราชบุรี ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงคำสั่งย้าย พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามีนางแอม ได้รับคำตอบว่า มีคำสั่งให้มาอยู่ที่ ภ.จ.ราชบุรี จริงโดยขาดจากตำแหน่งเดิมและขาดจากต้นสังกัดคือ สภ.บ้านโป่ง และต้องเซ็นชื่อเข้าออกงานทุกวันเพื่อรายงานตัว ยืนยันว่า รอง ผกก.อยู่ที่สำนักงาน ภ.จ.ราชบุรีไม่ได้หลบหนีไปไหน มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเกี่ยวกับคดี และความเชื่อมโยงในรูปแบบคดีว่ามีส่วนรู้เห็นหรือร่วมกับอดีตภรรยาก่อเหตุหรือไม่

พบยาต้านไซยาไนด์บ้านพี่แอม

ด้าน พ.ต.อ.สมมาตร จันทรัตน์ ผกก.สภ.บางแพ จ.ราชบุรี เผยว่า หลังเข้าตรวจสอบบ้านของ น.ส.แจง และ น.ส.ปู พี่สาวของนางแอม พร้อมตรวจยึดหลักฐาน เช่น เซิร์ฟเวอร์บันทึกกล้องวงจรปิด ยาสมุนไพรหลายชนิดที่อยู่ในขวดโหล พร้อมแคปซูลเปล่าและแคปซูลที่บรรจุสมุนไพรจำนวนหนึ่ง และสอบปากคำ น.ส.แจงและ น.ส.ปูก่อนขอเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอส่งให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ตรวจสอบแล้ว แต่สมุนไพรบางตัวมีสารโซเดียมไทโอซัลเฟต (Sodium thiosulfate) เป็นยาแก้พิษไซยาไนด์ ใช้รักษาโรคผิวหนังได้ด้วย ส่วนการสอบปากคำพี่สาวแอมทั้ง 2 คน ให้การเป็นประโยชน์เบื้องต้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับแอม