ตร.รุดตรวจสอบหลังโซเชียลแชร์พบเหยื่อ “แอม ไซยาไนด์” รอดชีวิตโผล่อีกรายเป็นหลวงตา อยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ ญาติโยมบอกปลายปี 65 มีหญิง 3 คนมาถวายน้ำสมุนไพร ด้านหลวงตาจำไม่ได้คล้ายมีอาการหลงลืม

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความเกี่ยวกับเหยื่อของ นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ "แอม ไซยาไนด์" ที่รอดชีวิตอีกรายอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยระบุข้อความว่า “ช็อกมาก! ตกใจมาก หลวงตาสนทนา เล่าให้ฟัง ว่านึกได้ เคยเป็นหนึ่งในเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่โดน แอม ไซยาไนด์ จนล้มหมดสติ ทุกวันนี้พูดไม่ชัด แขนขาหมดเรี่ยวแรง ท่านเล่าให้ฟังว่าโยมแอม เข้ามา และมาถวายน้ำดื่ม หลังจากนั้นท่านก็ล้มหมดสติ เล็บมือ เล็บเท้าเขียว ลิ้นแข็ง พอท่านมาเห็นข่าว ท่านตกใจว่าโยมคนนี้เคยเข้ามาที่วัด มาคุยถึงจะหาคนมาช่วยสร้างวัด มาถวายปัจจัยและถวายน้ำดื่ม น่าเวทนา หลวงตาไม่คิดโกรธแค้น ถือว่าเป็นกรรมของหลวงตา#แอมไซยาไนด์#เหยื่อแอมซาไนด์” จากนั้นก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น และแชร์เรื่องราวดังกล่าวต่ออย่างแพร่หลาย

...

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังผู้โพสต์เรื่องราวดังกล่าว ก็ให้ข้อมูลว่า หลวงตาที่เล่าให้ฟังอยู่ที่ที่พักสงฆ์แห่งหนึ่งใน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ โดยท่านเล่าให้ฟังขณะที่ผู้โพส์ตและญาติโยมรวมกว่า 10 คน ไปทำบุญถวายกุฏิ และภัตตาหารที่ที่พักสงฆ์ดังกล่าว

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปยังที่พักสงฆ์ตามที่ถูกแชร์ในโซเชียล ก็พบกับหลวงตาท่านหนึ่ง อายุประมาณ 70 ปี โดยสภาพร่างกายท่านดูไม่ค่อยแข็งแรง พูดไม่ค่อยชัด ซึ่งท่านอยู่ที่ที่พักสงฆ์ดังกล่าวเพียงรูปเดียว ซึ่งก็มีญาติโยมจำนวนหนึ่งที่ทราบข่าวต่างมาเยี่ยม และสอบถามเรื่องราวจากท่านด้วยความเป็นห่วง ทั้งนี้ชาวบ้านยังได้พาเดินไปดูบริเวณที่หลวงตาล้มหมดสติอยู่ฝั่งทิศตะวันออกของวัด

ขณะที่ พ.ต.อ.วิษณุ อาภรณ์พงศ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกระสัง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ที่พักสงฆ์ดังกล่าวเช่นกัน โดยจากการสอบถามหลวงตารูปดังกล่าว ว่าเคยเห็น แอม คนที่ปรากฏเป็นข่าววางยาฆ่าคนตายมาหลายศพ มาที่ที่พักสงฆ์แล้วนำน้ำดื่มหรือสมุนไพรมาถวายให้จริงหรือไม่ ซึ่งหลวงตาก็บอกว่าจำไม่ได้ เพราะมีญาติโยมทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัดมาทำบุญถวายสิ่งของอยู่เรื่อยๆ ส่วนที่เป็นลมหมดสติก็เกิดขึ้นตอนที่ไปทำความสะอาด อยู่ฝั่งทิศตะวันออกของที่พักสงฆ์ ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 กระทั่งมีญาติโยมที่มาทำบุญเห็นนอนหมดสติอยู่จึงรีบพาส่ง รพ. ซึ่งก็อาจจะเพราะอายุมาก หรือหน้ามืดเพราะทำงานหนักหรือไม่ เพราะหลวงตาชอบทำอะไรด้วยตัวเอง โดยขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานใดๆ มายืนยันว่า แอม เคยมาที่ที่พักสงฆ์แห่งนี้หรือไม่ แล้วที่ท่านเป็นลมหมดสติเกิดจากสาเหตุใด

จากการสอบถาม นางณัฐพัช์ พาแกดำ อายุ 54 ปี และ น.ส.พัชรี นุรินรัมย์ อายุ 51 ปี บอกว่า ตอนเช้าพวกตนกับชาวบ้านอีกกว่า 10 คน ได้มาทำบุญถวายกุฏิให้กับหลวงตา ซึ่งตอนที่ถวายอาหารจู่ๆ หลวงตาก็พูดขึ้นมาว่า เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เคยมีผู้หญิง 3-4 คน เอาน้ำและสมุนไพรมาถวายให้ที่ที่พักสงฆ์ แล้วพอท่านกินสมุนไพรก็เกิดหน้ามืดเป็นลม พอท่านเห็นข่าวว่า แอม ไซยาไนด์ ที่เป็นข่าววางยาฆ่าคนตายหลายคน เคยมาถวายน้ำกับสมุนไพร ซึ่งทุกคนที่มาทำบุญก็ได้ยินเหมือนกัน ซึ่งท่านอาจจะพูดช้ากว่าคนปกติ แต่ก็พอจะจับใจความได้ว่าพูดอะไร พอได้ยินแบบนั้นต่างก็ตกใจ แต่พอมีคนนำเรื่องราวที่ท่านเล่าให้ฟังไปโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ แล้วตำรวจมาสอบถามกับตัวท่านเอง หลวงตากลับบอกว่าจำไม่ได้เพราะมันนานแล้ว

...

ขณะที่ เจ้าของโพสต์ต้นเรื่อง กล่าวอ้างว่า ตอนที่มาทำบุญถวายกุฏิ หลวงพ่อท่านก็พูดขึ้นมาเอง ว่ามีผู้หญิงเหมือนกับคนชื่อ แอม ที่ปรากฏเป็นข่าววางยาคนตายหลายคน มาได้ถวายน้ำและสมุนไพรให้ท่านเมื่อปลายปี 2565 ที่ผ่านมา ด้วยความเป็นห่วงและอยากจะเตือนภัย จึงได้นำเรื่องราวตามคำพูดที่หลวงตาเล่าให้ฟังไปโพสต์ แต่ น.ส.แอม จะได้มาที่ที่พักสงฆ์แห่งนี้ หรือท่านจะเป็นเหยื่ออีกรายจริงหรือไม่ ตนเองไม่ทราบ แต่ยืนยันว่าหลวงตาท่านพูดแบบนี้จริง เพราะไม่ใช่แค่ตนเองคนเดียวที่ได้ยิน ชาวบ้านกว่า 10 คนที่มาทำบุญด้วยกัน ก็ได้ยินเหมือนกัน.