รอง ผบก.กองปราบฯ เผยมีการเรียกประชุมทีมสืบสวนคดีแอม ไซยาไนด์ โดยมีความคืบหน้าไปมาก พยาน 5 คนให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยยังไม่พบหลักฐานว่า รอง ผกก.อดีตสามีแอม ร่วมทำผิด ชี้คนคาดเดาไปเอง

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 1 พ.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดี นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือแอม วางยาฆ่าชิงทรัพย์ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ ก้อย เท้าแชร์ อายุ 33 ปี ว่า วันนี้มีการประชุมติดตามความคืบหน้าทางคดี ซึ่งคืบหน้าไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ คงเหลือเพียงผลตรวจหลักฐานบางอย่าง อย่างไรก็ตามในส่วนคดีน.ส.ศิริพร หรือ ก้อย จากหลักฐานที่มีอยู่ตอนนี้ผู้ก่อเหตุมีแค่ นางสรารัตน์ เพียงคนเดียว ยังไม่พบหลักฐานผู้อื่นร่วมกระทำผิด ทั้งนี้จากการสอบปากคำพยานทั้ง 5 คน เมื่อวานที่ผ่านมา ค่อนข้างเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ทำให้ชุดคลี่คลายคดีสามารถมองเห็นทิศทาง รูปแบบการกระทำผิดมากขึ้นกว่าเดิม

พ.ต.อ.เอนก กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการออกหมายจับคดีอื่นๆ ทราบว่าทางตำรวจท้องที่อยู่ระหว่างดำเนินการ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดเรื่องทางตำรวจกองปราบและตำรวจพื้นที่มีการประสานข้อมูล พยานหลักฐานร่วมกันมาโดยตลอดจนทำให้คดีรุดหน้าไปมาก ส่วนกรณีกระแสข่าวว่า นายตำรวจ ตำแหน่ง รอง ผกก. อดีตสามีนางสรารัตน์ มีส่วนร่วมกระทำผิดด้วยนั้น เป็นเรื่องที่คาดเดากันไปเอง เพราะจากข้อมูลพยานหลักฐานในตอนนี้ยังไม่พบข้อมูลการร่วมกระทำผิด

...

ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีปรากฏคลิป รอง ผกก.อดีตสามีนางสรารัตน์ พยายามเจรจากับเหยื่อที่ถูก นางสรารัตน์ โกงเงินหวยทิพย์ จนมีการตั้งข้อสงสัยจากสังคมว่า อดีตสามีนั้นรับรู้ถึงพฤติกรรมการกระทำผิดที่ผ่านมาของ นางสรารัตน์ และยังคงปกป้องให้การช่วยเหลือนางสรารัตน์ หรือไม่นั้น เพราะเกรงจะส่งผลต่อรูปคดี ในส่วนนี้ พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า พอรับทราบข้อมูลอยู่บ้าง แต่ต้องขอเวลาตรวจสอบให้แน่ชัด อย่างไรก็ตามขอให้สังคมมั่นใจว่า ไม่ว่าอดีตสามีนางสรารัตน์จะเป็นใคร ก็ไม่สามารถให้การช่วยเหลือทางคดีนี้ได้ เพราะตำรวจกองปราบยึดพยานหลักฐานข้อเท็จจริงเป็นที่ตั้ง.