เพื่อนเผย "แด้" เตรียมจัดงานวันเกิดเปิดตัวสถานะ "แอม" กับกลุ่มเพื่อน แต่วูบตายก่อน พอเห็นศพ รู้เลยว่ามีเงื่อนงำ พร้อมชี้แจงคลิปเป่าเค้ก HBD เพราะความตั้งใจแรกของ "แด้" ที่ต้องการจัดงานวันเกิดให้ภรรยา จึงได้หาซื้อเค้กมาฉลองวันเกิดให้เท่านั้น ด้าน ผู้การฯ อุดร เชื่ออีกไม่นานคดีจะคลี่คลาย

ความคืบหน้าคดี นางสรารัตน์ หรือ แอม อายุ 36 ปี อดีตภรรยา นายตำรวจระดับ รอง ผกก. ในพื้นที่ จ.ราชบุรี ผู้ต้องหาในคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาลักทรัพย์ ด้วยการวางยา “ไซยาไนด์” หลังพบว่ามีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 เมษายน 2566 นายเอ็ม (นามสมมติ) อายุ 35 ปี (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) ซึ่งเป็นเพื่อนของ นายสุทธิ์ศักดิ์ พูนขวัญ หรือ แด้ อายุ 36 ปี สามีนางแอม ได้เดินทางมากับ น.ส.ออย (นามสมมติ) อายุ 33 ปี ภรรยาและเพื่อน ซึ่งทั้งหมดอยู่ในคลิปวันเกิด นางแอม หลังจากนายแด้ วูบเสียชีวิต เพื่อให้ปากคำต่อ พ.ต.ท.ผลิตอรัญ บุญมาตุ่น รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี

ภายหลังสอบปากคำเสร็จ นายเอ็ม เล่าว่า ตนไม่เคยเห็นหน้า นางแอม มาก่อน แต่เคยได้ยินนายแด้พูดให้ฟังว่ามีเมียแล้ว และเมียกำลังท้องได้ 3 เดือน จนกระทั่งวันที่ 11 มีนาคม 2566 ช่วงเย็น นายแด้ได้พาภรรยามาหาตนเองที่บ้าน โดยบอกว่า วันที่ 12 มีนาคม เป็นวันเกิดของภรรยาและจะมาเลี้ยงฉลองวันเกิดให้ภรรยาที่บ้านของตน แต่ช่วงเช้าจะพาภรรยาไปทำบุญที่วัดก่อน 

แต่หลังจากนั้นช่วงบ่ายก็มาทราบว่า นายแด้ เพื่อนของตนวูบเสียชีวิต จึงได้รีบเดินทางมาดูศพที่ห้องพัก พอเห็นสภาพศพเพื่อนครั้งแรก ตนสงสัยทันทีว่าเพื่อนเสียชีวิตไม่ปกติ เนื่องจากสภาพศพนายแด้หน้าเขียวคล้ำ ซึ่งนายแด้เป็นคนที่แข็งแรง ไม่ค่อยดื่มเหล้า สูบแค่บุหรี่ แต่ไม่จัด รวมทั้งไม่ได้มีโรคประจำตัวอะไร แต่ทำไมถึงได้เสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งก็ไม่มีหลักฐานมายืนยันสาเหตุการเสียชีวิตของนายแด้ 

...

“ก็ได้แต่มานั่งจับกลุ่มคุยกันในกลุ่มเพื่อนว่าสงสัยว่าจะเป็นฝีมือของ น.ส.แอม ภรรยาของเพื่อน ที่เป็นคนทำให้นายแด้เสียชีวิต รวมทั้งไม่มีใครเห็นใบชันสูตรศพของนายสุทธิศักดิ์ จึงได้ปล่อยเรื่องเลยตามเลย”

ส่วนคลิปงานวันเกิด ตนเองยืนยันว่า ไม่ได้ตั้งใจจัดงานวันเกิดให้ น.ส.แอม แต่แรก วันนั้นที่บ้านก็นั่งกินข้าวกันปกติ หลังจากที่ น.ส.แอม จัดการส่งศพนายสุทธิศักดิ์ กลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดเรียบร้อยแล้ว น.ส.แอม มาขอภรรยาตนนอนที่บ้านด้วย เนื่องจากกลัว ไม่กล้านอนห้องของนายสุทธิศักดิ์  

ส่วนที่ซื้อเค้กมาเป่า เนื่องด้วยเพราะความตั้งใจแต่แรกของนายสุทธิศักดิ์ ที่ต้องการจัดงานวันเกิดให้ภรรยา จึงได้ซื้อเค้กมาฉลองวันเกิดให้ก็เท่านั้น

ส่วนในช่วงที่ นางแอม อยู่ที่บ้านของตน ก็ไม่ได้กินอะไรเลย กินแต่น้ำ มีสีหน้าท่าทางกเรียบเฉย จากนั้นไม่นาน นางแอมก็เข้าไปนอน จนกระทั่งตี 4 ก็ออกจากบ้านไป และไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย 

หลังจากที่มีข่าวของนางสาวก้อย ตนเชื่อได้ทันทีเลยว่า นางแอมเป็นคนวางยานายแด้แน่นอน ตอนนี้รู้สึกช็อกและตกใจมาก ไม่คิดว่าคนเป็นเมียจะฆ่าสามีได้ ส่วนเรื่องที่ทั้งคู่รู้จักกันได้อย่างไร และได้ชักชวนกันมาลงทุนทำธุรกิจปล่อยเงินกู้ที่จังหวัดอุดรธานีได้อย่างไร ตนเองไม่ทราบรายละเอียดเลย 

นอกจากนี้ตนและเพื่อนๆ กำลังตามหารถยนต์เชฟโรเลต แคปติวา สีขาว ทะเบียนราชบุรี จำหมวดอักษรไม่ได้ ของนายสุทธิศักดิ์ ที่หายไป หลังจากที่นางแอมขับเป็นคนสุดท้าย 

ต่อมาเวลา 17.00 น. วันเดียวกัน ที่ห้อง ศปก.สภ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ได้เรียกประชุมตำรวจชุดคลี่คลายคดีการเสียชีวิต นายสุทธิศักดิ์ พูนขวัญ หรือ แด้ อายุ 36 ปี สามี น.ส.แอม ที่วูบเสียชีวิต โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อเข้าร่วมรับฟัง 

หลังประชุมเสร็จ พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากที่สอบพยานไปแล้ว 8-9 ปาก เริ่มสามารถคลี่คลายคดีได้มากพอสมควรแล้ว และเชื่อว่าอีกไม่นานจะสามารถคลี่คลายคดีของนายสุทธิศักดิ์ได้ แต่มีเรื่องหนักใจคือ ญาติของนายสุทธิศักดิ์ ที่จังหวัดราชบุรี ยังไม่ให้ความร่วมมือมากหนัก แต่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นเพื่อไปสอบปากคำญาติเพิ่มเติมแล้ว 

พล.ต.ต.พิษณุ เปิดเผยอีกว่า ส่วนประเด็นไซยาไนด์ที่ถูกส่งจากจังหวัดอุดรธานี ปลายทางที่บ้านเกิดของสุทธิศักดิ์ ผู้ตาย โดยผู้ต้องหาส่งไปพร้อมกับข้าวของเครื่องใช้ของผู้ตาย จนกระทั่งมีวัยรุ่นเป็นผู้รับ ในเรื่องดังกล่าวตำรวจก็จะต้องมีการสืบสวนกันอีกครั้งหนึ่ง ว่า “ไซยาไนด์” ได้ถูกซื้อจากไหน ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี หรือจากที่อื่น แต่ก็คาดว่าผู้ต้องหาสั่งซื้อไซยาไนด์มาจากที่อื่น เพื่อมาใช้กับผู้ตายที่นี่ ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีการลงพื้นที่หาพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีกหลายอย่าง เพื่อมาประกอบสำนวนคดีให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ถึงแม้ว่าผู้ตายจะได้มีการประกอบพิธีฌาปนกิจศพไปแล้วก็ตาม แต่เจ้าหน้าที่ก็จะมีการสอบถามพยานในที่เกิดเหตุ และผู้ที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อนำลักษณะอาการไปให้ผู้เชี่ยวชาญได้วิเคราะห์ว่าผู้ตายถูกวางยาหรือไม่

...