"บิ๊กเด่น" ยัน "อิคคิว" ตายจริง พร้อมกำชับ "ผบช.น.-ผบก.น.1" ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา เพื่อตอบสังคมให้ได้ และหลังงานศพจะเชิญ "พลเอก" บิดาเจ้าของปืนมาสอบปากคำ ทั้งนี้วอนการโพสต์รูปผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นเยาวชน อาจเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เปิดเผยถึงกรณีเหตุการณ์ชีวิตของ นางสาวสุพิชชา ปรีดาเจริญ หรือ จีจี้ เน็ตไอดอลชื่อดัง และ นตท.ภูมิพัฒน์ ชัยวณิชยา หรือ อิคคิว ว่า ได้รับรายงานจาก ผบช.น. และ ผบก.น.1 ยืนยันว่า นตท.ภูมิพัฒน์ เสียชีวิตจริง เนื่องจากมีพยานรู้เห็นจำนวนมาก ซึ่งพนักงานสอบสวนและฝ่ายสืบสวนจะต้องชี้แจงละเอียดของคดีให้เกิดความชัดเจน เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ จะเอาผิดใครได้หรือไม่นั้น ต้องรอผลการสอบสวนให้ชัดเจนก่อนเช่นกัน ซึ่งได้กำชับ ผบช.น.และผบก.น.1 ไปแล้ว ให้ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา และสามารถชี้แจงความคืบหน้าแก่สื่อมวลชนอย่างต่อเนื่อง

กรณีอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้น ต้องเชิญบิดาของ นตท.ภูมิพัฒน์ ซึ่งเป็นเจ้าของปืนมาให้ปากคำเพื่อให้ทราบว่า นตท.ภูมิพัฒน์ ได้ปืนมาอย่างไร ซึ่งต้องรอหลังงานศพจึงจะเข้ามาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน

ส่วนเรื่องพฤติการณ์การก่อเหตุนั้น เบื้องต้นเชื่อว่า นตท.ภูมิพัฒน์ เป็นผู้ก่อเหตุ เนื่องจากมีภาพกล้องวงจรปิดเห็นผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนเข้าไปในห้อง ซึ่งต้องรอผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ของกองพิสูจน์หลักฐานก่อน

สำหรับการฟ้องร้องทางแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายของญาตินางสาวสุพิชชานั้นสามารถทำได้ เพราะถือว่าเป็นการละเมิดจากการทำผิดกฎหมายอาญา ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง

การที่ในโลกโซเชียลมีความสงสัยว่า นตท.ภูมิพัฒน์ เสียชีวิตจริงหรือไม่ มีความพยายามปกปิดความจริงเพื่อให้หลบหนีไปนั้นหรือไม่ ยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ ซึ่งตำรวจต้องทำคดีอย่างตรงไปตรงมาเพื่อตอบสังคมให้ได้ อีกทั้งยังเห็นว่าเป็นเรื่องปกติในโลกโซเชียลที่มีการตั้งข้อสงสัยในคดีต่างๆ สุดท้ายก็จะต้องจบด้วยการพิสูจน์ตามพยานหลักฐานให้ความจริงปรากฏ จึงขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม

...

อีกทั้งยังฝากเตือนเนื่องจากหนึ่งในผู้เสียชีวิตยังเป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 18 ปี ยังอยู่ในความคุ้มครองของ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก การโพสต์ข้อมูลต่างๆ ที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงแก่ผู้เสียชีวิตนั้นอาจเข้าข่ายความผิดได้ จึงต้องโพสต์ข้อมูลด้วยความระมัดระวัง.