พงส.แจ้งข้อหาเพิ่มแก๊งสาวอดีตผู้เข้าประกวดฯ ร่วมกันปล้นทรัพย์-พ.ร.บ.คอมฯ หลังถูกจับคดีอุ้มหนุ่มจีนเทา แฟนหนุ่มเรียกค่าไถ่ ส่งฝากขังก่อน 1 คน ด้านเพื่อนไม่เชื่อ "น้ำเพชร" มีเอี่ยวในเรื่องนี้ เพราะวันเกิดเหตุอยู่ด้วยกัน และยังไปแจ้งความคนหายที่ สน.ลุมพินี ด้วย 

กรณี MR.WANG NANFENG อายุ 33 ปี ผู้เสียหายชาวจีนถูกคนร้ายจับยัดใส่กล่องพลาสติกลงจากห้องพัก ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. แล้วนำไปกักขังที่รีสอร์ตในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เรียกค่าไถ่จากเพื่อนและญาติ เป็นเงินจำนวน 3.93 ล้านบาท จากนั้น MR.YU JIE อายุประมาณ 30 ปี เพื่อนผู้เสียหายชาวจีน ได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ให้ช่วยติดตามคนร้าย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 เม.ย. 66

ต่อมา พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.สส.บช.น. ร่วมกับ สืบ บก.น.5 และ สน.ลุมพินี เข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ประกอบด้วย นายณัฐภัทร สวัสดี หรือกบ อายุ 27 ปี นายณัฐพงศ์ ฆ้องคำอยู่ หรือจูน อายุ 24 ปี น.ส.เพชรลดา แสงสกุล หรือน้ำเพชร อายุ 24 ปี นายศุภพล ฮาลมัน หรือบอส หรือกาย อายุ 24 ปี แฟนหนุ่มชาวไทย น.ส.สริตา ดอนม่วง อายุ 28 ปี และ นายโจ (ยังไม่ทราบชื่อและนามสกุล) อายุ 35-40 ปี ซึ่งทั้งหมดถูกจับกุมเมื่อวานนี้ 17 เม.ย. ที่ผ่านมานั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 เม.ย. พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.ลุมพินี เปิดเผยว่า ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ทั้ง 6 คน ซึ่งผู้ต้องหาให้การเพียงว่า เป็นบุคคลตามหมายจับ ยังไม่ให้การเกี่ยวกับพฤติการณ์ในคดีแต่อย่างใด และผู้ต้องหาบางรายให้การว่า มีการประชุมวางแผนกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้อายัดบัญชีบางส่วน แต่ยังมีเงินอีกจำนวนหนึ่งที่ยังเหลืออยู่ โดยเมื่อวานนี้หลังจากสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติม ได้แจ้งข้อหาเพิ่มกับกลุ่มผู้ต้องหาในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์, พ.ร.บ.คอมฯ ส่วน น.ส.เพชรลดา หรือน้ำเพชร ขณะนี้ยังไม่ให้การใดๆ แต่เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานเพียงพอ สามารถขอศาลอนุมัติหมายจับได้

...

โดยวันนี้จะนำตัวผู้ต้องหา 1 คน ไปยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอฝากขังคือ นายณัฐภัทรหรือกบ ที่ถูกจับกุมรายแรก ส่วนผู้ต้องอีก 5 คน จะสอบปากคำในวันนี้ และจะขยายผล จากนั้นจะส่งตัวไปยื่นขอฝากขังต่อศาล ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีญาติของผู้ต้องหาคนใดเข้ามาติดต่อเยี่ยมที่ สน. ส่วนรายละเอียดทั้งหมดอยู่ในสำนวนการสอบสวน ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากยังเป็นคดีที่อยู่ในระหว่างการสืบสวนขยายผล พ.ต.อ.นิมิตร กล่าว

ขณะเดียวกันเพื่อนๆ ของ น.ส.น้ำเพชร พร้อมครอบครัวและทนายความ เดินทางนำอาหารเตรียมเข้าเยี่ยม โดยทางครอบครัวน้ำเพชร ไม่ขอให้ข้อมูลใดๆ กับผู้สื่อข่าว ขณะที่เพื่อนน้ำเพชร เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าน้ำเพชรจะทำเรื่องดังกล่าว และในวันเกิดเหตุ น้ำเพชรอยู่กับตน ก่อนจะแยกย้ายกันกลับคอนโดฯ อีกทั้งในช่วงเวลาที่ Mr.Wang หายไป น้ำเพชรก็เป็นคนช่วยตามหา และเดินทางเข้าแจ้งความคนหายที่ สน.ลุมพินี แต่ตอนนั้นตำรวจไม่รับแจ้ง เพราะยังไม่ครบ 24 ชั่วโมง

โดยเพื่อนของ น.ส.น้ำเพชร ได้เล่ารายละเอียดว่า เมื่อวันที่ 14 เม.ย. เวลาประมาณ 19.00 น. น้ำเพชรไปเที่ยวกับพี่ๆ ที่สยาม จนกระทั่งเวลาประมาณ 01.50 น. ของวันที่ 15 เม.ย. น้ำเพชรได้โทรหาตน และเล่าว่า ตอนนี้ยังไม่ได้นอนเลย เพราะเพื่อนๆ ของพี่หวังโทรมาว่า ติดต่อพี่หวัง แฟนหนุ่ม ไม่ได้ ทั้งที่เมื่อช่วงเย็นน้ำเพชรยังคุยกับพี่หวังอยู่เลย โดยพี่หวังโทรมาว่า ไม่ต้องมาที่ห้อง เพราะพี่หวังจะไปเที่ยวพัทยา ซึ่งตอนนั้นน้ำเพชรยังสงสัยว่า แฟนหนุ่มอาจจะแอบไปเที่ยวกับสาวๆ จึงชักชวนตนไปที่คอนโดฯ ของแฟนหนุ่ม โดยขอเช็กกล้องวงจรปิด แต่ทางนิติฯ ของคอนโดฯ ปฏิเสธ เพราะก่อนหน้านี้มีคนจีนมาขอดูกล้องไปแล้วรอบหนึ่ง จากนั้นเวลาประมาณ 02.30 น. พี่หวังได้โทรมาหาน้ำเพชรอีกครั้ง โดยครั้งนี้บอกว่า ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะอยู่พัทยากับเพื่อนแล้ว ตนเองจึงแยกย้ายกับน้ำเพชรกลับไปพักผ่อน จนกระทั่งช่วงเช้าวันเดียวกัน ก็ไม่สามารถติดต่อพี่หวังได้ จึงตัดสินใจแจ้งความกับตำรวจ สน.ลุมพินี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความ เนื่องจากยังไม่ครบ 24 ชั่วโมง

ส่วน นายกาย ที่หลายคนเข้าใจว่า เป็นกิ๊กของ น.ส.น้ำเพชร จริงๆ แล้วชื่อ บอส ซึ่งก่อนหน้านี้ น้ำเพชรคบหากับพี่หวังมาประมาณ 1 ปี โดยรู้จักกันผ่านการทำงาน ไม่ใช่การเกาะผู้ชายกินอย่างที่คนอื่นเข้าใจ เพราะน้ำเพชรไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน จนกระทั่งเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว น้ำเพชรได้เลิกลากับพี่หวัง และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ นายบอสเข้ามาพอดี จึงได้คบหากับนายบอส ต่อมาเมื่อช่วงเดือน เม.ย. ก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 อาทิตย์ พี่หวังได้ตามมาง้อ และน้ำเพชรได้เลือกพี่หวัง ทั้งคู่จึงกลับมาคบกัน ซึ่งในจุดนี้อาจจะทำให้นายบอสเกิดหึงห่วง ประกอบกับช่วงหลังๆ รู้สึกว่านายบอสจะมีปัญหาเรื่องเงิน จึงอาจจะวางแผนก่อเหตุดังกล่าว ส่วนเรื่องที่นายบอสใช้รถยนต์และคีย์การ์ดของน้ำเพชรในการก่อเหตุนั้น โดยปกติแล้วนายบอสมักจะใช้รถยนต์ของน้ำเพชร เดินทางไปไหนมาไหนโดยตลอดอยู่แล้ว ส่วนคีย์การ์ดก็อยู่ในรถ ส่วนเลขที่ห้องพักเป็นข้อมูลพื้นฐานอยู่แล้ว เพราะคนเป็นกิ๊กก็ต้องเคยไปมาหาสู่ หรือสอบถามพูดคุยเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ซึ่งในระหว่างที่น้ำเพชรคบหานายบอส ตนเองก็ตักเตือนมาโดยตลอด เพราะไม่ชอบพฤติกรรมส่วนตัวของนายบอส ส่วนที่ตนเชื่อว่าน้ำเพชรไม่ได้กระทำเรื่องแบบนี้ เพราะเพื่อนตนเป็นคนรักครอบครัว ช่วยเหลือครอบครัวทุกอย่าง เป็นคนเฟรนด์ลี่ เชื่อว่าน้ำเพชรไม่รู้เรื่องนี้ อยากให้สังคมอย่าเพิ่งตัดสินเพื่อนของตนจากเพียงแค่คำให้การของนายบอส.