ตำรวจชุดสืบเปลี่ยนแผนจู่โจมค้น เร่งสืบสวนหาข่าวแหล่งกบดาน ด.ต.อรรถพร เชื่อยังหลบซ่อนในพื้นที่ โดยมีบุคคลอื่นให้ความช่วยเหลือ ตั้งรางวัลผู้แจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายเพิ่มเป็น 1 แสนบาท

ความคืบหน้ากรณี ด.ต.อรรถพร วิเชียร อายุ 46 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมพวกรวม 4 คน ใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และอาวุธปืนลูกซองยิงถล่มบ้านพัก นายธรรมรงค์ นิลนิยม ในสวนปาล์มเลขที่ 91 หมู่ที่ 8 ต.กะเปา อ.คีรีรัฐนิคม และมีการยิงต่อสู้กัน มีผู้เสียชีวิตรวม 4 ศพ ประกอบด้วย นายธรรมรงค์ หรือผู้ใหญ่รงค์ เจ้าของบ้าน อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.บางงอน อ.พุนพิน, นางนิลทิพย์ ปาลคะเชนทร์ หรือแตง อายุ 49 ปี ภรรยา, นายพรศักดิ์ เพชรชู หรือผู้ใหญ่เกราะ อายุ 56 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 ต.ท่าขนอน และนายธรรมรัตน์ วิเชียร อายุ 48 ปี พี่ชาย ด.ต.อรรถพร เหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 8 เมษายน

ต่อมาพบศพ นายอรรพล หรือบาส วิเชียร อายุ 25 ปี ลูกชาย ด.ต.อรรถพร กับภรรยาคนแรก ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม. เสียชีวิตอยู่ในฮอนด้ารุ่นซิตี้ หมายเลขทะเบียน กร 3948 สุราษฎร์ธานี และพบศพ น.ส.พนิดา หรือตั๊ก นิลนิยม อายุ 34 ปี ลูกสาวผู้ใหญ่รงค์ ภรรยา ด.ต.อรรถพร ถูกยิงเสียชีวิตด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. ทิ้งศพไว้ในห้องพักลีลาวดีรีสอร์ท ต.ท่าขนอน อ.คีรีรัฐนิคม และจับกุม นายมานพ ว่างงาน อายุ 57 ปี ชาว อ.คีรีรัฐนิคม 1 ในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับได้ที่ อ.ทับปุด จ.พังงา ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษร่วม 200 นาย ได้เปิดปฏิบัติการกระจายกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 2 จุด ในพื้นที่ ต.กะเปา และ ต.ท่าขนอน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามตัว ด.ต.อรรถพร วิเชียร ผู้ต้องหาตามหมายจับ แต่ยังไม่พบตัว โดยจุดแรกที่เข้าค้นซึ่งเป็นบ้านของญาติของ ด.ต.อรรถพร พบร่องรอยการกินนอนของบุคคลอื่นที่คาดว่าอาจจะเป็น ด.ต.อรรถพร ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 8 ได้เข้าเก็บตัวอย่าง DNA เพื่อเปรียบเทียบแล้ว

...

พลตำรวจตรี นภัณวุฒิ เลี่ยมสงวน ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการติดตามคนร้าย กล่าวว่า ล่าสุดได้ปรับแผนจากการเข้าตรวจค้นตามสถานที่ต่างๆ มาเป็นการสืบสวนหาข่าว เนื่องจากพื้นที่เป้าหมายที่เชื่อว่าคนร้ายใช้เป็นที่หลบซ่อนตัว มีพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง และมีสภาพเป็นป่าเขา ประกอบกับพื้นที่ที่คาดว่าคนร้ายหลบหนี ส่วนใหญ่เป็นญาติพี่น้องของผู้ก่อเหตุ หากมีการเคลื่อนกำลังเข้าไปยังจุดต่างๆ ก็จะสามารถทำให้ทราบความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ได้ ซึ่งเรายังเชื่อว่าผู้ที่ก่อเหตุยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ โดยมีบุคคลอื่นให้ความช่วยเหลือ โดยพลตำรวจตรี ศรัญญู ชำนาญราช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประกาศเพิ่มเงินรางวัลสำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสไปสู่การสืบจับคนร้าย เป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท.