ผบช.ภ.8 เผย ปมคนร้ายยิงถล่มบ้านอดีต ผญบ. 4 ศพ มาจาก ผู้ใหญ่รงค์ให้ลูกสาวเลิกกับดาบตำรวจปืนโหด โดยตำรวจกำลังเร่งขอออกหมายจับทั้ง 3 คนแล้ว ยังไม่ชัดปืนเอ็ม 16 เป็นของราชการหรือไม่ คาดมี 2 กระบอก
คืบหน้าคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงถล่ม 4 ศพ ที่บ้านพักในสวนปาล์ม เลขที่ 91 หมู่ที่ 8 ต.กะเปา อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเย็นวันที่ 8 เมษายน ประกอบด้วย นายธรรมรงค์ นิลนิยม หรือผู้ใหญ่รงค์ อายุ 60 ปี เจ้าของบ้าน อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ต.บางงอน อ.พุนพิน นางนิลทิพย์ ปาลคะเชนทร์ หรือ แตง อายุ 49 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 8 ต.กะเปา อ.คีรีรัฐนิคม ภรรยา นายพรศักดิ์ เพ็ชรชู หรือผู้ใหญ่เกราะ อายุ 56 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 13 ต.ท่าขนอน ญาตินางนิลทิพย์ และ นายธรรมรัตน์ วิเชียร อายุ 48 ปี นั้น
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 9 เมษายน ที่ห้องประชุม สภ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ บินด่วนมาร่วมประชุมกับ พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 8 พล.ต.ต.ศรัญญู ชํานาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนทั้งหมด เร่งติดตามคลี่คลายคดี เนื่องจากเป็นเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ใช้อาวุธสงครามในการกระทำผิด และคนร้ายที่ก่อเหตุเป็น ด.ต.อรรถพร วิเชียร อายุ 46 ปี สังกัด ผบ.หมู่ (ป) สภ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี เป็นตำรวจในพื้นที่
...
จากการสืบสวนและตรวจสอบจากภาพวงจรปิดหน้าบ้านที่เกิดเหตุ พบว่า ก่อนเกิดเหตุ เวลา 13.06 น.นายพรศักดิ์ เพ็ชรชู หรือผู้ใหญ่เกราะ ญาติของนางนิลทิพย์ ได้เดินเข้าไปในบ้านของ นายธรรมรงค์ ต่อมาเวลา 13.10 น. ได้มีรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีเทาดำ ไม่ทราบป้ายทะเบียน ขับเข้ามาจอดที่บริเวณรั้วหน้าบ้าน โดยคนร้ายมีทั้งหมดประมาณ 4 คน มีคนขับรถ ด.ต.อรรถพร กับ นายธรรมรัตน์ พี่ชาย ถืออาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 ส่วนอีกรายชื่อ นายมานพ ว่างงาน อายุ 57 ปี ถือใช้อาวุธปืนลูกซองแฝด
ต่อมาทั้งหมดได้ลงจากรถเก๋งถืออาวุธปืนในลักษณะพร้อมยิง เมื่อลงจากรถได้ประมาณ 1 นาที 1 ในคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ นางนิลทิพย์ ที่นั่งอยู่ที่เปลในศาลาหน้าบ้าน โดย นางนิลทิพย์ วิ่งล้มไปเสียชีวิตที่ข้างโอ่ง จากนั้นคนร้ายทั้ง 3 คนวิ่งกรูเข้าไปยังบ้านที่มี นายธรรมรงค์ เจ้าของบ้าน กับ นายพรศักดิ์ อยู่ข้างใน พร้อมระดมกราดยิงใส่ตัวบ้าน และวิ่งเข้าไปยิงคนในบ้านทั้งหมด จนเกิดการยิงต่อสู้กัน ใช้เวลาประมาณ 10 นาที เสียงปืนเงียบลง และเห็นคนร้าย 2 คน คือ ด.ต.อรรถพร กับ นายมานพ วิ่งกลับไปขึ้นรถที่มีคนร้ายอีก 1 คน ขับติดเครื่องจอดรออยู่นอกรั้วหน้าบ้าน ขับออกไปอย่างรวดเร็ว
พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากเหตุการณ์นี้จากการสอบสวนพบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายธรรมรงค์ หรือ ผู้ใหญ่รงค์ เจ้าของบ้าน กับ นายพรศักดิ์ หรือผู้ใหญ่เกราะ ญาติภรรยา นั่งคุยกันอยู่ในบ้าน ส่วน นางนิลทิพย์ หรือแตง ภรรยาผู้ใหญ่รงค์ นั่งอยู่ที่ศาลาหน้าบ้าน ได้มี ด.ต.อรรถพร วิเชียร อายุ 46 ปี สังกัด ผบ.หมู่ (ป) สภ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี เป็นลูกเขยนายธรรมรงค์ ต้องการจะเข้าไปขอเจรจา โดย ด.ต.อรรถพร ได้หย่าร้างกับภรรยา เมื่อปลายเดือนตุลาคม 2565 ส่วน น.ส.พนิดา นิลนิยม หรือตั๊ก เป็นลูกสาวคนเดียวของนายธรรมรงค์ ได้หย่ากับสามี ตั้งแต่กลางปี 2565 ทั้ง 2 คน ด.ต.อรรถพร กับ น.ส.พนิดา ได้มาอยู่กินจดทะเบียนสมรสกัน แต่ นายธรรมรงค์ ไม่ชอบ ด.ต.อรรถพร ที่เป็นตำรวจ และมีฐานะด้อยกว่า พยายามบอกให้ลูกสาวเลิกกับ ด.ต.อรรถพร ที่พยายามจะเข้าไปคุยกับพ่อตา
...
ผบช.ภ.8 กล่าวว่า จริงๆ ทั้ง 2 คน เคยรู้จักกันมาก่อนกว่า 10 ปี เพราะ ด.ต.อรรถพร เป็นตำรวจที่ สภ.คีรีรัฐนิคม แต่ ด.ต.อรรถพร น่าจะมีอารมณ์ร้อน โดยพา นายธรรมรัตน์ วิเชียร หรือวัฒน์ พี่ชาย เข้าไปด้วย จึงเกิดการใช้อาวุธยิงกัน และ นายธรรมรงค์ เจ้าของบ้าน กับ นายพรศักดิ์ ที่อยู่ในบ้าน เสียชีวิตทั้งคู่ นางนิลทิพย์ เสียชีวิตที่หน้าบ้าน และ นายธรรมรัตน์ ที่เข้าไปช่วยเจรจา ถูกยิงเสียชีวิตในบ้าน รวม 4 ศพ ลักษณะเป็นการยิงต่อสู้กัน ซึ่ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้กำชับให้ตนรีบลงมาเร่งรัดคลี่คลายคดี เพราะมีผู้เสียชีวิต 4 ศพ และใช้อาวุธปืนหลายขนาด
"การสืบสวนชุดคลี่คลายคดีวันนี้ มีการสอบสวนพยานต่างๆ มีความคืบหน้าไปมากในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุ จะต้องรอการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์นิติเวช ส่วน ด.ต.อรรถพร ที่หลบหนีไป พยายามติดตามตัวอยู่ ยังจับตัวไม่ได้ อาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ มีทั้งอาวุธปืนเล็กยาว เป็นอาวุธปืนลูกซอง อาวุธปืนขนาด 5.56 มม. (กระสุนปืนเอ็ม 16) และขนาด 9 มม. เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานกำลังเร่งตรวจสอบอยู่ ส่วนอาวุธปืนเป็นของทางราชการหรือไม่ กำลังตรวจสอบอยู่" พล.ต.ท.สุรพงษ์ กล่าว
...
ผบช.ภ.8 กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นความขัดแย้งอื่นยังไม่ตัดทิ้ง หากมีแหล่งข่าวที่จะส่งให้พนักงานสอบสวนที่จะเป็นประโยชน์ พร้อมรับฟัง การสืบสวนพบการใช้อาวุธปืนขนาด 5.56 มม. (กระสุนปืนเอ็ม 16) ที่คาดว่ามี 2 กระบอก ไม่อาจสันนิษฐานได้ ต้องดูจากพยานหลักฐาน และยังบอกไม่ได้ว่ามาจากไหน เกรงจะมีผลต่อสำนวนคดี ทุกอย่างยังเดินไปได้อีก 2 วัน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จะลงมาติดตามผล
"ในกล้องวงจรปิดยังยืนยันไม่ได้ว่า คนร้ายเป็นใครบ้าง แต่ยืนยันได้ว่า มีมากกว่า 3 คน ขออย่านำภาพวงจรปิดไปเผยแพร่ก่อน ไม่ถูกต้อง เพราะอยู่ในสำนวนการสืบสวน สำหรับอาวุธปืนทางราชการ จะมีการตรวจสอบเบิกนำไปใช้อะไร ส่วน ด.ต.อรรถพร ผู้ก่อเหตุ ไม่ได้ไปช่วยราชการที่ตำรวจภาค 8 ยังทำงานเป็นชุดปราบปรามยาเสพติดอยู่ที่ สภ.คีรีรัฐนิคม สาเหตุหลักมาจากเรื่อง นายธรรมรงค์ ให้ลูกสาวเลิกกับ ด.ต.อรรถพร ส่วนสาเหตุอื่นกำลังสืบสวน อย่างไรก็ตามพบว่า นายธรรมรงค์ เป็นคนมีฐานะดี" พล.ต.ท.สุรพงษ์ กล่าว
รายข่าวแจ้งว่า ล่าสุด พ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมพนักงานสอบสวน สภ.คีรีรัฐนิคม นำคำร้องและสำนวนสอบสวนไปขออนุญาตศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อออกหมายจับ ด.ต.อรรถพร วิเชียร อายุ 46 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ป้องกันปราบปราม สภ.คีรีรัฐนิคม และ นายมานพ ว่างงาน อายุ 57 ปี ชาว อ.คีรีรัฐนิคม ในความผิดข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืน ซึ่งทางราชการไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง.
...