รู้ตัวแล้วแก๊งมังกรจีนอำมหิต ฆ่าโหด อำพรางศพนักศึกษาสาวเพื่อนร่วมชาติ ทั้ง 3 คน เป็นหนุ่มวัยรุ่นหน้าตาดี วางแผนล่อลวงให้ผู้ตายหลงรัก สบโอกาสช่วงเหยื่อเข้ามาเรียนในเมืองไทยบินตามมาเช่าบ้าน เช่ารถเตรียมไว้ก่อเหตุ ก่อนโทร.ลวงให้มาพบแล้วอุ้มไปกักขังทรมานรีดค่าไถ่จากพ่อแม่ คาดพลั้งมือทำร้ายจนฝ่ายหญิงเสียชีวิต นำศพยัดถุงสายรุ้งไปโยนทิ้งสวนบัวแล้วเผ่นกลับเมืองเฉิงตู ประเทศจีน ตำรวจจ่อขอศาลออกหมายจับล่าตัวข้ามประเทศ ส่งกลับมาดำเนินคดีในไทย

จากเหตุสะเทือนขวัญ พบศพหญิงสาวนิรนามถูกฆาตกรรมอำพรางยัดถุงพลาสติกสีรุ้ง นำไปทิ้งในสวนบัว ริมถนนวัดต้นเชือกศาลายา หมู่ 6 ต.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ภายหลังทราบว่าผู้ตายคือ น.ส.จิน ซ่าน อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะดนตรี มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. หลังถูกกลุ่มคนร้ายชาติเดียวกัน อุ้มไปเรียกค่าไถ่จำนวน 500,000 หยวน หรือราว 2,500,000 บาทจากพ่อแม่ผู้ตายที่เป็นอาจารย์สอนวิชาดนตรีอยู่ในประเทศจีน แต่ยังไม่ได้โอนเงินให้กลุ่มคนร้าย ลูกสาวกลับถูกคนร้ายสังหารอย่างเลือดเย็น

ความคืบหน้าของคดี เมื่อเช้าวันที่ 2 เม.ย. ตำรวจภูธรภาค 1 และตำรวจสืบสวนนครบาล ได้ตั้งคณะทำงานสอบสวนสืบสวนชุดคลี่คลายคดีฆาตกรรมอำพราง นำโดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธรรศกร ก้อนทอง ผกก.สภ.บางแม่นาง จ.นนทบุรี พ.ต.อ.รณภัฏ ทับทิมธงไชย ผกก.สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พร้อมตำรวจฝ่ายสืบสวนภาค 1 และสืบสวนนครบาล ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง แบ่งหน้าที่กันทำงานและประสานข้อมูล เพื่อให้การทำงานสอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

แนวทางการสืบสวนคลี่คลายคดีพบว่า น.ส.จิน ซ่าน เดินทางเข้ามาประเทศไทย เพื่อเรียนปี 3 ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เมื่อวันที่ 8 มี.ค. พักอยู่หอพักภายในมหาวิทยาลัยฯ ก่อนเกิดเหตุวันที่ 28 มี.ค. น.ส.จิน ซ่าน เดินออกมาจากมหาวิทยาลัย เวลา 18.46 น.ไปนั่งกินข้าวที่ร้านอาหารใกล้มหา วิทยาลัยฯ หลังกินข้าวเสร็จเวลา 20.48 น. ได้เรียกรถแท็กซี่ สีเขียวเหลือง ทะเบียน 1 มข 8847 กรุงเทพ มหานคร มาลงที่หน้าหมู่บ้านบางใหญ่ ซิตี้ ริมถนนกาญจนาภิเษก ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เวลา 21.30 น. แล้วเดินข้ามสะพานลอยไปฝั่งห้างเซ็นทรัล เวสต์เกต ไปขึ้นรถเก๋งมาสด้า สีแดง แล้วหายตัวไป ก่อนมาพบเป็นศพถูกฆ่ายัดถุง ขณะนี้ศพถูกส่งไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิต พร้อมตรวจหาร่องรอยการล่วงละเมิดทางเพศ และเก็บดีเอ็นเอเป็นหลักฐานที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม คาดใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์จะทราบผล

...

ต่อมาตำรวจได้เชิญตัวนายสมจิตร พันธุ์มั่น อายุ 56 ปี คนขับแท็กซี่ที่รับผู้ตายไปส่งมาสอบปากคำให้การว่าได้รับ น.ส.จิน ซ่าน จากหน้ามหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ไปส่งที่หน้าหมู่บ้านบางใหญ่ซิตี้ ฝั่งตรงข้ามห้างเซ็นทรัล เวสต์เกต จริง หลังเกิดเหตุตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางพบว่ารถเก๋งคันดังกล่าวมีชาวจีน 3 คน ขับเข้า-ออกหมู่บ้านพฤกษาวิลเลจ 38 ดีไลท์ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี สอบถามพนักงานร้านสะดวกซื้อหน้าหมู่บ้านให้ข้อมูลว่า พบเห็นชายชาวจีนวัยรุ่น 3 คน อายุประมาณ 20-25 ปี มาพักอาศัยที่หมู่บ้านแห่งนี้ ล่าสุดคืนวันที่ 30 มี.ค. เวลาประมาณ 01.30 น. พบชายชาวจีนทั้ง 3 คน เข้าไปซื้อสินค้าที่ร้านสะดวกซื้อ แต่ไม่พบเห็น น.ส.จิน ซ่าน พนักงานร้านสะดวกซื้อยังได้ชี้ยืนยันภาพถ่ายชายชาวจีนทั้ง 3 คนว่ามาซื้อสินค้าที่ร้านเป็นประจำ

เวลา 12.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.บริบูรณ์ จำปาดี รอง ผกก.สส.สภ.บางแม่นาง จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.นนทบุรี เดินทางไปตรวจสอบบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น เลขที่ 68/75 ภายในหมู่บ้านพฤกษาวิลเลจ 38 ดีไลท์ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ที่ผู้ต้องสงสัยชาวจีน 3 คน เช่าพักอาศัย และคาดว่าน่าจะเป็นสถานที่ใช้ก่อเหตุฆ่า น.ส.จิน ซ่าน ก่อนนำศพไปทิ้งอำพราง เพื่อเก็บพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ อาทิ เส้นผม เส้นขน ลายนิ้วมือแฝง ทั้งของผู้ตายและกลุ่มคนร้าย ส่งไปตรวจดีเอ็นเอไว้เปรียบเทียบกับผู้ตายและกลุ่มผู้ก่อเหตุ

ต่อมาเวลา 16.00 น. ตำรวจชุดสืบสวน บก.น.7 ได้ไปตรวจยึดรถเก๋งมาสด้า 2 สีแดง ทะเบียน 1 ขร 1472 กรุงเทพมหานคร มาจากคอนโดแห่งหนึ่งริมถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เป็นรถที่ชาวจีนทั้ง 3 คน เช่ามาจากนายวิลเลียมส์ อายุ 40 ปี และนายฟาง อายุ 42 ปี ชาวจีน สัญญาเช่า 10 วัน ราคาวันละ 2,000 บาท ตำรวจได้เชิญตัวนายวิลเลียมส์และนายฟางมาสอบปากคำ จากการตรวจสอบพบว่าชาวจีนทั้ง 3 คน นำรถไปล้างทำความสะอาดใหม่ทั้งคัน ก่อนส่งคืนเจ้าของ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ยังหลงเหลืออยู่ภายในรถไปตรวจสอบแล้ว

มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน สภ.บางแม่นาง เตรียมขออำนาจศาลจังหวัดนนทบุรี ออกหมายจับผู้ก่อเหตุ 3 คน คือ นายโจว เผิงเฟย (ZHOU PENGFEI) อายุ 24 ปี นายเฉิน ไซกัง (CHEN SAIKANG) อายุ 23 ปี และนายโจว เซี่ยวเฟย (ZHOU XIONGFEI) อายุ 23 ปี ทั้งหมดเป็นชาวเมืองเหอเป่ย ประเทศจีน ก่อเหตุอุ้ม น.ส.จิน ซ่าน ไปเรียกค่าไถ่และสังหารทิ้งอย่างโหดเหี้ยม พฤติการณ์คือ วันเกิดเหตุ 28 มี.ค.ช่วงหัวค่ำ น.ส.จิน ซ่าน ผู้ตายนั่งรถแท็กซี่จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี มุ่งหน้าไปหากลุ่มผู้ก่อเหตุ ลงรถแท็กซี่ฝั่งตรงข้ามห้างเซ็นทรัล เวสต์เกต จากนั้นผู้ตายเดินข้ามสะพานลอยไปฝั่งห้างสรรพสินค้า ขึ้นรถเก๋งมาสด้า 2 สีแดง ไม่ทราบทะเบียน ออกจากจุดเกิดเหตุไป

รถเก๋งคันดังกล่าวทราบข้อมูลว่า เช่ามาจากเต็นท์แห่งหนึ่งย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุคนร้ายได้นำรถไปคืนเต็นท์แล้ว ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน พบข้อมูลว่าก่อนหน้านี้ได้เช่าบ้านอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรท้องที่ สภ.บางใหญ่ หลังก่อเหตุได้คืนบ้านเช่าแล้วหลบหนีไป ตรวจสอบพบว่าทั้งหมดออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. ปลายทางมุ่งหน้าสู่เมืองเฉินตู ประเทศจีน

จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนเชิงลึกของตำรวจพบว่า คนร้ายชาวจีนแก๊งนี้ เป็นกลุ่มวัยรุ่นหน้าตาดี ได้สืบประวัติ น.ส.จิน ซ่าน ตั้งแต่ช่วงเรียน ปี 1 ปี 2 มหาวิทยาลัยในจีน จนทราบว่าผู้ตายมีพ่อเป็นอาจารย์สอนวิชาดนตรี มีฐานะเข้าขั้นเศรษฐี คนร้ายได้วางแผนพูดคุยล่อลวงให้ผู้ตายหลงรักยอมคบหากับ 1 ในแก๊ง เมื่อ น.ส.จิน ซ่าน เข้ามาเรียนร่วมในปีที่ 3 ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ช่วงต้นเดือน มี.ค. แก๊งคนร้ายได้ซื้อตั๋วเครื่องบินบินตามมา และมาเช่าบ้าน เช่ารถยนต์ไว้เตรียมก่อเหตุ กระทั่งจับตัว น.ส.จิน ซ่านไปกักขังทรมานเรียกค่าไถ่จากพ่อผู้ตาย แต่ยังไม่ทันได้โอนเงิน คาดว่าคนร้ายอาจพลั้งมือสังหารเหยื่อจนเสียชีวิต เลยอุ้มศพไปทิ้งอำพรางก่อนหลบหนีกลับเมืองจีน

...

ขณะเดียวกันมีรายงานด้วยว่า หลังเกิดเหตุแก๊งคนร้ายยังติดต่อผ่านแอปพลิเคชันวีแชทจากโทรศัพท์มือถือของ น.ส.จิน ซ่าน ผู้ตาย ไปยังมือถือของพ่อผู้ตายเพื่อเรียกค่าไถ่อย่างต่อเนื่อง แต่พ่อผู้ตายทราบความจริงแล้วว่าลูกสาวถูกสังหารไปแล้ว ตำรวจไทยได้ประสานตำรวจจีน ให้พูดคุยกับพ่อผู้ตายแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าลูกสาวตายแล้ว เพื่อถ่วงเวลาให้กลุ่มคนร้ายตายใจ พร้อมวางแผนสะกดรอยไล่ล่าจับตัวมาดำเนินคดี หากศาลอนุมัติหมายจับในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ จะส่งหมายจับให้ตำรวจจีนติดตามจับกุมส่งกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยต่อไป

ชุดสืบสวนคลี่คลายคดียังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากการสอบสวนพยานเป็นเพื่อนบ้านในหมู่บ้านเกิดเหตุให้ข้อมูลอ้างว่าบ้านดังกล่าวมีชาวจีนเข้าออกมานานกว่า 10 วัน นอกจากชายวัยรุ่นชาวจีนทั้ง 3 คนแล้ว ยังเคยเห็นผู้หญิงจีนด้วย แต่ไม่ใช่ผู้ตาย ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 มี.ค. หลังจากกลุ่มคนร้ายคืนบ้านและเดินทางออกจากบ้านหลังนี้ไปแล้ว มีผู้หญิงวัยรุ่นชาวจีน พูดภาษาจีน รูปร่างเล็ก ขับรถยนต์ ฮอนด้า สีดำ ไม่ทราบรุ่นและทะเบียน มาจอดขวางหน้าบ้านของเพื่อนบ้านคนดังกล่าว ตั้งแต่เวลา 17.00 น. และใช้โทรศัพท์ติดต่อหาบุคคลในบ้านเกิดเหตุตลอดเวลา แต่ติดต่อใครไม่ได้ เนื่องจากคนในบ้านเก็บข้าวของออกไปหมดแล้ว

หญิงจีนดังกล่าวจอดรถรอด้วยท่าทางกระวน กระวายอยู่นานถึง 3 ชั่วโมง ก่อนจะขับรถออกไปจากหมู่บ้านอย่างรวดเร็วและไม่ได้ย้อนกลับเข้ามาอีกเลย กระทั่งพยานทราบข่าวพบศพถูกฆ่าในท้องที่ สภ.บางแม่นาง และคดีพัวพันกับพฤติการณ์ของกลุ่มคนจีนที่มาเช่าบ้านหลังนี้ พยานเชื่อว่าหญิงชาวจีนที่มาปรากฏกายด้วยท่าทีร้อนรนน่าจะเป็นนางนกต่อล่อลวงเหยื่อให้กับกลุ่มคนร้ายชาวจีน หรืออาจเป็นผู้จัดหาบ้านเช่าและเช่ารถยนต์ให้กลุ่มผู้ก่อเหตุ ฝ่ายสืบสวนจะหาเบาะแสหญิงจีนคนดังกล่าว และเชิญตัวมาสอบปากคำต่อไป

...