สลด หนุ่ม 33 ยกพวกไปหาอริถึงบ้าน หวังเคลียร์ปัญหา ถูก 9 มม.กระหน่ำยิงดับ 1 ส่วนเพื่อนอีก 2 หนีตายกระเจิง เผยผู้ตายถูกผู้ก่อเหตุเบิ้ลเครื่องรถใส่หน้าบ้าน จึงมาหาเพื่อคุยเรื่องบาดหมาง

เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 66 พ.ต.อ.วิวัฒนชัย์ ธรรมวิทยาภูมิ ผกก.สภ.นาหม่อม พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนและฝ่ายปราบปราม ร่วมกับชุดปฏิบัติการ 3 กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 เข้าตรวจสอบเหตุยิงกันเสียชีวิต ที่หน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.1 ต.นาหม่อม อ.นาหม่อม จ.สงขลา

ที่เกิดเหตุพบศพ นายภัทรวัต สุวรรณะ อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดสงขลา สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่ลำคอ 1 นัด นอนเสียชีวิตอยู่ที่พื้น ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. 1 ปลอก และหัวกระสุนปืนขนาดเดียวกันอีก 1 หัว ตกอยู่บนพื้น เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายจตุรงค์ เดชศรี อายุ 25 ปี เป็นลูกชายเจ้าของบ้าน หลังก่อเหตุได้หลบหนีออกไปจากบ้าน พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขับรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ทะเบียน กทม. มาที่บ้านหลังดังกล่าวกับเพื่อนอีก 2 คน ทราบชื่อคือ นายจักรี คันทะโณ และนายมานพ ชูกำเนิด เพื่อมาเคลียร์ปัญหาบาดหมางกับ นายจตุรงค์ (ผู้ก่อเหตุ) ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุได้ขับรถกระบะไปเบิ้ลเครื่องใส่หน้าบ้านผู้ตาย จนเกิดความไม่พอใจ จึงยกพวกมาที่บ้านหลังเกิดเหตุ พอลงจากรถปรากฏว่า นายจตุรงค์ ที่ยืนอยู่หน้าบ้าน ได้วิ่งไปหยิบอาวุธปืนออกมายิงใส่ทันที 4-5 นัด กระสุนถูกผู้ตายล้มลงจนเสียชีวิตคาที่บริเวณหน้าบ้าน ส่วนเพื่อนอีก 2 คนที่มาด้วยกันต่างวิ่งหนีตายไปคนละทาง

...

จากการสอบถามหนึ่งในเพื่อนผู้ตาย ให้การว่า พวกตนแค่ต้องการไปเคลียร์ปัญหาเท่านั้น ไม่ได้พกปืนไปด้วย มีแต่ไม้เบสบอลอยู่ในรถ ขณะที่ผู้ตายลงจากรถแล้วเดินไปที่หน้าบ้าน ผู้ก่อเหตุก็วิ่งไปหยิบอาวุธปืน ที่ขึ้นลำกล้องรอไว้มากระหน่ำยิงใส่ทันที โดยยังไม่ทันพูดคุยอะไรกันเลย คาดว่าผู้ก่อเหตุคงคิดว่าพวกตนมีปืน ซึ่งขณะที่ผู้ก่อเหตุวิ่งไปหยิบปืนนั้น ผู้ตายได้บอกให้พวกตนทั้ง 2 วิ่งหนีออกมาก่อน  

อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุไม่นาน พ่อของ นายจตุรงค์ (ผู้ก่อเหตุ) ได้นำตัวลูกชายพร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาหม่อม เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนผู้ก่อเหตุอย่างละเอียด จากนั้นได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป