ตำรวจไพศาลี จับกลุ่มวัยรุ่น 14 คน คะนองก่อเหตุใช้มีดฟันสาววัย 22 ปี ที่ขี่ จยย.ดับ พบว่าผู้ต้องหาส่วนใหญ่เป็นเยาวชนทั้งหมด อ้างว่าแกว่งมีดโชว์แล้วดันไปโดนทำให้เสียชีวิต

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 18 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงพัก สภ.ไพศาลี อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ หลังมีรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมแก๊งวัยรุ่น รวมกลุ่มไปก่อเหตุใช้อาวุธมีดไปทำร้ายหญิงสาววัยรุ่นจนเสียชีวิต ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ทะเบียน ขนง 634 สระบุรี พาเพื่อนสาวรุ่นน้องกลับบ้านพัก โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเที่ยงคืน (18 มี.ค.) ที่ผ่านมา บริเวณใกล้ตู้สายตรวจไดตาล พื้นที่หมู่ 1 ต.โคกเดือ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์

ซึ่งการก่อเหตุพบว่ามีผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ทั้งหมด 14 คน เป็นวัยรุ่นเยาวชน ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมปลาย ในโรงเรียนแห่งหนึ่งของพื้นที่ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ส่วนคนที่เสียชีวิตทราบชื่อคือ น.ส.สุวนันท์ แพไม้ หรือโบ อายุ 22 ปี ถูกฟันเข้าที่หัวไหล่ข้างขวาจนเกือบขาด และทนพิษบาดแผลไม่ไหว จึงสิ้นใจในจุดเกิดเหตุ โดยขณะนี้ศพของ น.ส.สุวนันท์ ถูกส่งไปไว้ยังวัดหนองปล้องโพช ต.สายลำโพง อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ เพื่อทำพิธีรดน้ำ และสวดอภิธรรมศพแล้ว

ขณะที่การสอบปากคำของตำรวจในขณะนี้ ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากมีผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชนหลายราย แต่พอจะทราบตัวผู้ก่อเหตุที่ใช้อาวุธมีดฟันแล้ว คือ นายเปา ซึ่งให้การอ้างว่าได้ขี่รถจักรยานยนต์จากบ้านพักในพื้นที่ อ.ท่าตะโก พร้อมกับกลุ่มเพื่อนที่ถูกจับกุมทั้งหมด ไปเที่ยวงานงิ้วในพื้นที่ อ.ไพศาลี แล้วในช่วงขากลับบ้าน ได้นำมีดยาวที่พกมาด้วยนำมาแกว่งโชว์ไปมา ระหว่างที่รถจักรยานยนต์กำลังวิ่งด้วยความเร็ว จึงทำให้แกว่งไปโดน น.ส.สุวนันท์ อย่างแรง จนทำให้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตดังกล่าว แต่ทางตำรวจยังไม่เชื่อในคำให้การ

...

จากการสอบถาม นายมนู พิมพา เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่มไทรไพศาลี เปิดเผยว่า ตอนที่ตนได้เดินทางเข้าไปถึงจุดเกิดเหตุ เจอ น.ส.สุวนันท์ กำลังนอนหายใจรวยริน เนื่องจากมีบาดแผลฉกรรจ์จากของมีคม ฟันเข้าที่ไหล่ยาวจนเกือบถึงคอ ซึ่งทางกู้ภัยก็พยายามช่วยปั๊มหัวใจ ปฐมพยาบาลอย่างเต็มที่แล้ว แต่เสียเลือดมาก จึงไม่สามารถยื้อชีวิตน้องเขาไว้ได้

ส่วนการสอบถามเพื่อนสาวของ น.ส.สุวนันท์ ที่มาด้วย ให้การว่า ขณะที่ผู้ตายขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากงานงิ้วเพื่อกลับบ้าน ก็ได้ไปเจอกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ในระหว่างทาง แล้วหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที น.ส.สุวนันท์ ที่กำลังขี่รถ ก็ไปโดนของมีคมเข้ามากระทบร่างอย่างแรงจนเลือดโชก ซึ่ง น.ส.สุวนันท์ ก็ยังแข็งใจทั้งที่ตัวเองบาดเจ็บหนัก รีบขี่รถไปยังป้อมตำรวจจุดสี่แยกไดตาล ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 4 กิโลเมตร เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่าตอนนั้นไม่มีตำรวจอยู่ประจำป้อม เนื่องจากไปดูแลความสงบเรียบร้อยในงานงิ้วกันหมด กว่าจะรีบออกจากงานงิ้วมาถึง ก็ช่วยไม่ทันการณ์เสียแล้ว

ด้านญาติของกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งเป็นน้าชายของนายเปา ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า พอรู้เรื่องว่านายเปาถูกจับ เรื่องก่อเหตุใช้อาวุธมีดทำร้ายคนจนตาย ตนก็รีบมาโรงพักทันที เพราะต้องการจะถามว่าไปก่อเหตุอย่างนั้นทำไม ทำไปเพื่ออะไร แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้คุยกับหลาน เนื่องจากยังถูกสอบปากคำ และโดยส่วนตัวมองว่าหลานและกลุ่มเพื่อนน่าจะทำด้วยความคะนอง เรื่องจากหลานและกลุ่มเพื่อนที่ถูกจับทั้งหมด ยังมีอายุเพียงแค่ 16-17 ปีเท่านั้น และทั้งหมดยังเรียนอยู่แค่ชั้น ม.4

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดบนเส้นทางถนนสายไพศาลี-ท่าตะโก ซึ่งเป็นเส้นทางที่เกิดเหตุ พบว่ามีกล้องวงจรปิดของอู่ตรวจสภาพรถแห่งหนึ่ง จับภาพไว้ได้ ว่ามีกลุ่มแก๊งรถจักรยานยนต์ ลักษณะคล้ายแต่งซิ่ง เนื่องจากแต่ละคัน มีความสูงของรถต่ำกว่ารถจักรยานยนต์แบบปกติ ซึ่งในกล้องจะเห็นว่ามีการจับกลุ่มขี่วนเวียนไปมาด้วยความเร็ว แต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า เป็นกลุ่มของผู้ก่อเหตุใช้มีดฟัน น.ส.สุวนันท์ หรือไม่

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดหนองปล้องโพช ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานสวนอภิธรรมศพ น.ส.สุวนันท์ พบว่า ครอบครัว รวมถึงญาติพี่น้อง ต่างพาการเดิมทางมาร่วมพิธีรถน้ำศพด้วยความโศกเศร้าเสียใจ โดยมี นางกัลยา แพรไม้ อายุ 47 ปี มารดาของ น.ส.สุวนันท์ เปิดเผยทั้งน้ำตานองหน้าว่า รู้สึกช็อกตกใจอย่างมาก หัวใจแทบสลายที่ต้องมาเสียลูกสาวไป เนื่องจากเป็นลูกคนเดียวของตน

“ฉันและลูกสาวคนนี้ อยู่ด้วยกันไม่เคยห่าง และปัจจุบัน ฉันพักอาศัยอยู่กับลูกในพื้นที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เนื่องจากฉันทำงานอยู่ที่นั่น และลูกสาวก็ช่วยฉันทำงานด้วย แต่เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา ลูกฉันได้ขอเดินทางกลับมาที่ อ.ท่าตะโก เพื่อจะมาหาเพื่อนๆ ของเขา เพื่อร่วมเลี้ยงฉลองวันเกิด ซึ่งในวันเกิดเขา ฉันก็เดินทางกลับมาหาเขาด้วยนะ แล้วฉันก็รีบเดินทางกลับเขาใหญ่ไปทำงานก่อน จนกระทั่งเมื่อคืนนี้ มารู้ตอนตี 1 ว่าลูกสาวคนเดียวของฉันถูกฟันจนตาย ซึ่งฉันช็อกแบบล้มทั้งยืน และตอนนี้รู้สึกหัวใจสลายมาก จึงขอให้ทางตำรวจดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่มันทำลูกสาวของฉันอย่างเด็ดขาดด้วย ฉันไม่ให้อภัยพวกมันอย่างแน่นอน ขอให้มันตายตามกรรมที่มันก่อไว้” นางกัลยา กล่าว

ส่วน นางบังออน ทองแท่ง ป้าของ น.ส.สุวนันท์ ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ได้เข้าไปสอบถามตำรวจถึงสาเหตุที่หลานสาวโดนฟันจนตายแล้ว ตนยิ่งอึ้งหนัก เพราะไม่เชื่อในคำให้การที่อ้างว่า แกว่ง และเขวี้ยงมีดไปกลางถนน จนไปถูกหลานสาวตายด้วยความบังเอิญ ไม่ได้ตั้งใจนั้น มันฟังไม่ขึ้น และญาติทุกคนไม่เชื่อในคำให้การเลย จึงขอให้ตำรวจเจ้าของคดี สอบปากคำอย่างละเอียด และทำหน้าที่ของท่านอย่างตรงไปตรงมาด้วย เพราะญาติๆ เริ่มชักจะไม่ไว้ใจแล้ว

ขณะที่ น.ส.จ๋า (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นผู้ซ้อนท้ายผู้ตายแล้วมาประสบเหตุด้วยกัน ระบุยืนยันว่า ขณะที่ตนซ้อนท้ายรถผู้ตายเพื่อเดินทางกลับบ้าน ปรากฏว่าพบเจอกลุ่มผู้ก่อเหตุกลุ่มใหญ่ ยืนจับกลุ่มกันอยู่ที่ริมทางถนน ประมาณ 20 คน จอดรถจักรยานยนต์เรียงรายอยู่ริมทางเต็มไปหมด และเห็นว่ามีผู้ก่อเหตุคนหนึ่ง เดินถือมีดดาบยาวออกมาจากข้างทางก่อนจะเขวี้ยงใส่เข้ามากระแทกร่างของผู้ตาย

...

“วินาทีนั้น หนูเห็นกลุ่มพวกมันแต่ไกลแล้ว จึงรีบบอกพี่โบให้รีบเร่งรถขี่ไปให้พ้นจุดที่พวกมันอยู่ เพราะหนูกลัวว่าพวกมันจะตามมาทำมิดีมิร้าย แต่เมื่อพี่หนูเร่งเครื่อง ก็พบว่ามีวัยรุ่นคนหนึ่งรีบปรี่ออกมาจากข้างทาง แล้วเขวี้ยงมีดดาบยาวสวนมาโดนพี่หนูทันที ซึ่งตอนนั้น พี่หนูบอกกับหนูว่าโดน แต่ยังไม่รู้สึกเจ็บอะไร พี่บอกหนูว่ามันชาๆ แต่หนูก็เห็นว่าไหล่ของพี่เริ่มมีเลือดออกมา หนูจึงรีบคร่อมตัวพี่โบว์ มาขี่รถต่ออีกประมาณ 4 กิโลเมตร เพื่อไปขอความช่วยเหลือที่ป้อมตำรวจ แต่สุดท้ายพี่โบว์สิ้นใจตายที่จุดนั้น”

น.ส.จ๋า ยังระบุด้วยว่า กลุ่มคนที่ทำร้ายพี่โบ เป็นแก๊งวัยรุ่น ซึ่งถือว่าก๋ากั่นพอสมควร และทราบว่าเพิ่งจะไปก่อเหตุทะเลาะวิวาทจนต้องขึ้นโรงพักเมื่อไม่นานมานี้ด้วย ส่วนสาเหตุที่กลุ่มเขามาเขวี้ยงมีดใส่พี่โบนั้น คนที่ทำชื่อเปา อ้างว่ามันก็ไม่รู้สาเหตุ บอกแค่ว่ามันเมาแค่นั้น