ดีเอสไอ สั่งฟ้อง "ปราปต์ปฎล" พร้อมคนอื่นๆ รวม 9 คน ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน พร้อมจ่อส่งสำนวนให้อัยการ 23-24 มี.ค. นี้
กรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดยกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ตั้งคดีพิเศษเลขที่ 36/2563 ในคดีฟอกเงิน เป็นคดีที่ผูกพันเชื่อมโยงมาจากคดีมูลฐาน Forex-3D โดยเกี่ยวกับการติดตามทรัพย์สินที่ได้มาจากเงินในธุรกิจดังกล่าว เป็นเหตุให้ดีเอสไอแจ้งข้อหาร่วมกันฟอกเงินต่อนายปราปต์ปฎล สุวรรณบาง หรือ ปราปต์ นักแสดงชายชื่อดัง เนื่องจากมีพฤติการณ์เคลื่อนย้ายรถยนต์หรู แอสตัน มาร์ติน เป็นทรัพย์สินของนายอภิรักษ์ โกฎธิ อดีตผู้บริหาร และน.ส.ชนกวนันท์ สีลุน หรือ กู๋กี๋ โดยทั้งคู่เป็นผู้ต้องหาหลักในคดีแชร์ Forex-3D ต่อมาวันที่ 5 ต.ค. 65 นักแสดงหนุ่มเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมปฏิเสธ ก่อนยื่นเอกสารชี้แจงเพิ่มเติมเป็นลายลักษณ์อักษรกับพนักงานสอบสวนวันที่ 19 ต.ค. 65 ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเวลา 15.00 น. วันที่ 18 มี.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวภายในกระทรวงยุติธรรม ว่า วันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา คณะพนักงานสอบสวนมีการประชุมร่วมกันและมีมติสั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฟอกเงิน จำนวน 9 ราย แบ่งเป็นผู้ต้องหาในเรือนจำ 7 ราย และผู้ต้องหาข้างนอก 2 ราย ประกอบด้วย นายปราปต์ปฎล และนายธีร์ภัสกร หรือ มาร์ค กิมวังตะโก ส่วนสาเหตุที่คณะพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องนายปราปต์ปฎลนั้น เนื่องจากมีพฤติการณ์ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินเพื่อปกปิดหรือเปลี่ยนแปลงฐานที่ตั้ง แหล่งที่ตั้งของทรัพย์ไม่ว่าจะโดยการกระทำการใดๆ ซึ่งก็คือรถแอสตัน มาร์ติน (Aston Martin) ไปจอดไว้ที่ จ.ราชบุรี โดยรู้หรือควรรู้ว่ารถคันดังกล่าวเป็นทรัพย์ที่ซื้อโดยนายอภิรักษ์ โกฎธิ และน.ส.ชนกวนันท์ สีลุน ถือเป็นทรัพย์สินที่มาจากการทำธุรกิจ Forex-3D และในช่วงนั้น นายปราปต์ปฎลย่อมรู้ว่า "ปอนด์" เพื่อนของกู๋กี๋ ได้มีการแจ้งให้ดีเอสไอเข้ายึดทรัพย์สินของกู๋กี๋ภายในห้องพักคอนโดมิเนียม ซึ่งก็เป็นทรัพย์จากเงินของธุรกิจ Forex-3D เช่นเดียวกัน
...
แหล่งข่าว เผยอีกว่า ส่วนผู้ต้องหาอื่นๆ ที่อยู่ภายในเรือนจำ ที่ถูกพนักงานสอบสวนสั่งฟ้องข้อหาร่วมกันฟอกเงินนั้นก็มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินที่มาจากเงินในธุรกิจ Forex-3D เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ช่วงประมาณวันที่ 23-24 มี.ค. พนักงานสอบสวนจะมีการส่งสำนวนคดีฟอกเงินต่อพนักงานอัยการ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณารายละเอียดภายในสำนวนต่อไป.