ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง ดำเนินคดี 3 ข้อหา "ป้านา" ฐานขัดคำสั่ง ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และทำให้เกิดเสียงหรือกระทำความอื้ออึงในที่สาธารณะ หลังยืนดักขบวน "บิ๊กตู่" ขนทีม รทสช.ออนทัวร์ราชบุรี เพื่อร้องเรียนปัญหาปากท้อง เจ้าตัวเตรียมร้องกองปราบ เอาผิดเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เกี่ยวข้อง

จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามดูโครงการแนวทางแผนพัฒนา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท โดยขณะที่ขบวนรถนายกรัฐมนตรีกำลังจะเข้าสู่ศาลาประชาคม เพื่อรับฟังความคืบหน้าของโครงการ มีประชาชนที่เห็นต่างจำนวน 2 คน มายืนอยู่ด้านหน้าลานจอดรถ ก่อนที่หนึ่งในนั้นคือ น.ส.วันทนา โอทอง อายุ 61 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงรวบตัว พร้อมกับใช้มือปิดปาก ลากเข้าไปหลบบริเวณซอกรถ โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้ร่มมากางปิด เพื่อกันไม่ให้ถ่ายภาพเหตุการณ์ แล้วนำตัวขึ้นรถไปยัง สภ.บ้านโป่ง ส่วนผู้หญิงอีกคนหนึ่งได้แสดงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้ว ท่ามกลางชาวบ้านที่ยืนคอยต้อนรับนายกรัฐมนตรี ทำให้เกิดปากเสียงกันเล็กน้อย โดยไม่ได้มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น


เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ ผกก.สภ.บ้านโป่ง ถึงกรณีการควบคุมตัว น.ส.วันทนา ทราบว่า ขณะที่ขบวนรถยนต์ของนายกรัฐมนตรีใกล้จะเดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงพบ น.ส.วันทนา ไม่ยืนอยู่ในจุดที่กำหนดไว้สำหรับประชาชน ได้แจ้งให้ขึ้นไปอยู่บนฟุตปาท ซึ่งเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่กำหนดไว้ แต่ น.ส.วันทนา ไม่เชื่อฟัง และไม่ยอมเดินขึ้นไปยืนที่จุดดังกล่าว จนเมื่อขบวนรถยนต์ของนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ น.ส.วันทนา ได้แสดงพฤติกรรมด้วยการถอดเสื้อตัวนอกออก เหลือเพียงเสื้อคอกระเช้า พร้อมส่งเสียงร้องเอะอะโวยวาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปขอความร่วมมือให้ใส่เสื้อ และอยู่ในความสงบ แต่ น.ส.วันทนา กลับไม่เชื่อฟัง และยังพยายามส่งเสียงเอะอะโวยวาย ตะโกนด่าทอนายกรัฐมนตรีด้วยถ้อยคำหยาบคาย

...

นอกจากนี้ ยังพยายามวิ่งเข้าไปขวางขบวนรถของนายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงจึงเข้าควบคุมพร้อมกับใช้มือป้องปาก เพื่อหยุดการกระทำดังกล่าว แต่ น.ส.วันทนา ต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ ด้วยการใช้มือดึงผม และใช้ปากกัดนิ้วของเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกนายจึงใช้มือบีบ เพื่อให้ น.ส.วันทนา หยุดการกระทำและยอมคลายปากจากการกัดนิ้ว

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลที่บริเวณนิ้วก้อยและเข่า ก่อนคุมตัว น.ส.วันทนา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านโป่ง พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “ผู้ใดทราบคำสั่งของเจ้าพนักงาน ซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้น โดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร และส่งเสียง ทำให้เกิดเสียง หรือกระทำความอื้ออึงในที่สาธารณะ และต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงาน หรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย”

ต่อมาเมื่อเวลา 19.30 น. น.ส.วันทนา ได้รับการประกันตัว ก่อนเปิดเผยว่า ตนมายืนรอพบนายกรัฐมนตรีอยู่ที่บริเวณลานจอดรถหน้าศาลาประชาคม จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินมาสอบถาม พร้อมกับให้ตนไปยืนรวมกับชาวบ้านที่บริเวณฟุตปาท แต่ตนยืนยันที่จะอยู่ตรงนี้ เพราะต้องการร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตทั้งต่อตนและครอบครัว ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม และแจ้งความที่ สภ.บ้านโป่ง มาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ได้

“ครั้งนี้เห็นว่านายกฯ จะเดินทางมาที่ อ.บ้านโป่ง ด้วยตัวเอง จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะแจ้งความทุกข์ร้อน ซึ่งในความเป็นจริง นายกฯ ควรจะรับฟังความทุกข์ของประชาชน ไม่ใช่แค่มารับฟังเสียงปรบมือ แต่กลายเป็นว่าตนกลับโดนเจ้าหน้าที่ 5-6 คน อุ้มตัวออกไป ทั้งที่ยังไม่มีความผิด แถมถูกทำร้ายร่างกาย ทั้งกระชาก ปิดปาก จนได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า และข้อเท้าข้างซ้ายจนบวม พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาว่าตนไปทำร้ายเจ้าหน้าที่”

ในส่วนของเรื่องการถอดเสื้อที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวถึงนั้น น.ส.วันทนา ชี้แจงว่า ตนได้บอกกับเจ้าหน้าที่เองว่า “อย่าเข้ามาใกล้ตัวป้า ไม่อย่างนั้นป้าจะถอดเสื้อ” เพราะตนไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่จะเข้ามาทำอะไร แต่ก็ยังไม่ได้ถอด เจ้าหน้าที่ก็รุมเข้ามาจับแล้ว ส่วนกรณีวิ่งขวางขบวนรถ น.ส.วันทนา ตอบว่า “บ้าแล้ว ขบวนรถยังไม่มา ยังไม่เห็นเงารถเลย ป้าก็โดนจับแล้ว” และยังกล่าวต่ออีกว่า “ถ้าวันนี้ไม่เหนื่อย ป้าอยากจะปีนหลังคาโรงพักบ้านโป่ง แล้วกระโดดลงมาให้มันจบๆ ไปเลย”

สำหรับด้านคดีความหลังจากนี้ ตนได้รับความช่วยเหลือจากทนายสิทธิมนุษยชนที่จะเข้ามาดูแล

จากนั้น ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จะหวนกลับลงเล่นการเมืองอีกครั้งหรือไม่ เพราะเมื่อปี 2562 น.ส.วันทนา เคยเป็นอดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ราชบุรี เขต 4 อ.บ้านโป่ง สังกัดพรรคเพื่อชาติ โดยได้รับคำตอบว่า “ตนแก่แล้ว ไม่คิดจะกลับไปเล่นการเมือง แต่จะขอใช้สิทธิ์ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ที่ช่วยแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน และรับฟังปัญหาที่แท้จริงของประชาชน ไม่ใช่นั่งญาณแบบท่านประยุทธ์”

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ผู้ใช้ทวิตเตอร์ อานนท์ นำภา @arnonnampa ได้ทวีตข้อความระบุว่า พรุ่งนี้ ป้านา วันทนา โอทอง จะเดินทางจากราชบุรีมาแจ้งความเอาผิดเจ้าหน้าที่ในทุกข้อหาที่เกี่ยวข้อง โดยจะเดินทางมาแจ้งความที่กองปราบฯ ถนนพหลโยธิน (ติดแดนเนรมิตเดิม) เวลา 13.00 น.