สาววัย 35 ปี ที่โพธาราม อยู่กินกับสามีเก่าและสามีใหม่แบบสามคนผัวเมีย ไปหาปลาด้วยกัน เจออริเก่าขี่จยย.ผ่าน เลยเรียกขอเคลียร์ ก่อนบานปลายแทงอีกฝ่ายไส้ไหลไปสิ้นใจ รพ. ผู้หญิงหนีไม่ไหวโดนจับคนแรก ตามด้วยผัวเก่าที่เข้ามอบตัว ส่วนผัวใหม่คนแทงยังหนี 

เวลา 23.30 น. วันที่ 1 มี.ค. 66 ร.ต.อ.พิชัย เชิงดี รอง สว.(สอบสวน) สภ.โพธาราม รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายอาวุธมีดแทงกันจนมีผู้บาดเจ็บ บริเวณปากซอย 8 ถนนเลียบคลองชลประทาน ม.5 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานให้ พ.ต.อ.ชัชชน นราวุฒิพร ผกก.สภ.โพธาราม ทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมชุดสืบสวน สภ.โพธาราม และกู้ภัยสว่างราชบุรี

ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บเป็นชาย ทราบชื่อ นายปัญญา หรือ น๊อต สาจิตร อายุ 32 ปี พักอยู่หมู่ 6 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม ถูกแทงเข้าที่ท้องด้านซ้าย 1 แผล จนไส้ไหลออกมา ที่หลัง 1 แผล และบริเวณศีรษะอีก 1 แผล อาการสาหัส กู้ภัยสว่างราชบุรีรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตัวส่ง รพ.โพธาราม แต่ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลา 00.30 น. ที่โรงพยาบาล

จากการสอบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายจีรวัฒน์ หรือ วัฒน์ อยู่หนู อายุ 32 ปี บ้านอยู่ ม.5 ต.คลองตาคต หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไปพร้อม น.ส.พลอย อายุ 35 ปี ภรรยาของผู้ก่อเหตุ และนายหนึ่ง (ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งเป็นแฟนของ น.ส.พลอยอีกคน ทั้งหมดได้หนีเข้าไปหลบซ่อนตัวในป่าหลังบ้านของนายวัฒน์ มือแทง ตำรวจและกู้ภัยสว่างราชบุรีช่วยกันค้นหาตัวจนสามารถจับกุม น.ส.พลอย ที่แอบอยู่ในพงหญ้า ได้นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.โพธาราม ส่วนนายวัฒน์ และนายหนึ่ง เจ้าหน้าที่ค้นหาค้นหานานกว่า 4 ชั่วโมง แต่ไม่พบ จึงยกเลิกการค้นหา

จากการสอบสวน น.ส.พลอย ให้การว่า เธออยู่กับกินนายวัฒน์ และนายหนึ่ง แบบสามคนผัวเมีย นายวัฒน์ สามีของตนได้ใช้อาวุธมีดแทงผู้ตายจริง ส่วนสาเหตุเกิดจากทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะกันเกี่ยวกับของรถจยย.ของสามี ซึ่งก่อนหน้านี้ น.ส.พลอยและสามีได้ขอยืมรถจักรยานปั่นสองล้อของผู้ตายมาใช้ แต่ทำรถจักรยานหาย ทางสามีจึงเอารถจยย.ของตนไปค้ำประกันไว้เพื่อความสบายใจ แต่ผู้ตายได้ถอดเอาชิ้นส่วนรถจยย.ของสามีไปใส่รถของตนเอง ทำให้สามีไม่พอใจ และเกิดมีปากเสียงกันมาตลอด

...

จนเมื่อคืนที่ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ น.ส.พลอยและสามีกำลังออกหาปลาในคลองแถวบ้าน เห็นผู้ตายขับขี่รถจยย.มาเพียงลำพัง จึงดักรอทวงถามเรื่องชิ้นส่วนของรถจยย.ที่ถอดไป ทำให้ทั้งคู่มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ก่อนสามีใช้มีดพกที่ติดตัวมาจ้วงแทงผู้ตายหลายครั้ง จากนั้น น.ส.พลอยและสามี พากันหลบหนีเข้าป่าหลังบ้าน แต่ น.ส.พลอยหนีไม่ไหวจึงหลบซ่อนตัวใกล้บ้านพัก และตำรวจตามจับตัวได้ ส่วนสามีทั้ง 2 ไม่รู้ว่าหลบหนีไปทางไหน

เบื้องต้นตำรวจได้นำตัว น.ส.พลอย ไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย เนื่องจากสามคนผัวเมียมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด พบปัสสาวะเป็นสีม่วง จึงแจ้งข้อกล่าวหาเสพยาเสพติด และร่วมกันฆ่าผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. ตำรวจสามารถจับตัว นายหนึ่ง สามีอีกคนของ น.ส.พลอย ที่ร่วมก่อเหตุได้แล้วที่บริเวณบ้านพักนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.โพธาราม ก่อนจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และค้นหาอาวุธมีดที่นายหนึ่งใช้ข่มขู่ญาติผู้ก่อเหตุ ขณะที่ นายวัฒน์ จ้วงแทง นายน๊อต จนเสียชีวิต

นายหนึ่ง ให้การว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุ ตนพร้อม นายวัฒน์ และ น.ส.พลอย ได้ได้หาปลาบริเวณจุดเกิดเหตุ นายวัฒน์ เห็นนายน๊อต ผู้ตายขี่รถจยย.ผ่านมา จึงพูดกับตนว่า เดี๋ยวจะไปดักถามมันว่าเมื่อไหร่จะเอาอะไหล่รถมาคือ เมื่อผู้ตายขับรถกลับมา นายวัฒน์ ได้ตะโกนเรียกผู้ตายให้มาเคลียร์ก่อน และดึงกุญแจรถจยย.ผู้ตายออกมา ผู้ตายเห็นท่าไม่ดีจึงทิ้งรถเดินหนี พร้อมโทรไปตามภรรยาและญาติให้มาเอากุญแจรถ แต่ขณะที่ภรรยาผู้ตายมาถึงที่เกิดเหตุและเคลียร์อยู่กับ น.ส.พลอย นายวัฒน์ก็ได้ชกต่อยผู้ตาย ตนจึงนำมีดที่พกมายกขึ้นมาขู่ญาติผู้ตาย เพราะกลัวญาติผู้ตายจะมารุมนายวัฒน์ ทำให้ญาติผู้ตายวิ่งหนี และเมื่อหันกลับมาก็เห็น นายวัฒน์ จ้วงแทงผู้ตายจนล้มลง ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้ร่วมกันทำร้ายผู้ตายจนเสียชีวิต ส่วนนายวัฒน์ตอนนี้ไม่ทราบว่าหลบหนีไปที่ใด เพราะหลังเกิดเหตุได้แยกกันหลบหนี โดยตนนำมีดไปซ่อนไว้ในเต็นท์นอน ก่อนจะหนีไปแอบซ่อนตัวอยู่กับเพื่อนบ้าน แต่ทนแรงกดดันจากตำรวจไม่ไหวจึงยอมออกมามอบตัว ส่วนประเด็นตนและนายวัฒน์เป็นอะไรกับ น.ส.พลอยแบบสามคนผัวเมียนั้น ตนเป็นแฟนเก่า นายวัฒน์เป็นแฟนใหม่ น.ส.พลอย ได้มาพูดคุยปรับความเข้าใจกับตน และชวนมาอยู่ด้วยกันที่บ้านนายวัฒน์ ก่อนเกิดเหตุไม่ถึง 2 อาทิตย์.