ผบ.ตร. ยันไม่เตะถ่วงกฎหมายอุ้มหาย รับเป็นห่วงลูกน้องอุปกรณ์ไม่พร้อม หวั่นทำรูปคดีเสีย พร้อมน้อมรับทุกคำวินิจฉัยศาล รธน. สั่งประชุมออกระเบียบถี่ทุกสัปดาห์ ลั่น จะทำให้ดีที่สุด

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สภาผู้แทนราษฎร ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ตีความพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 พ.ศ. 2566 (พ.ร.ก.  แก้ไข พ.ร.บ.ป้องกันทรมานอุ้มหายฯ) หากยึดให้มีผลบังคับใช้ตามเดิม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จะมีความพร้อมหรือไม่ ว่า ตอนนี้จะพยายามแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด ซึ่งต้องยอมรับว่า อุปกรณ์ในการบันทึกภาพและเสียงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ยังมีไม่เพียงพอ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ใช่เหตุเร่งด่วน จนต้องออก พ.ร.ก. ฉบับดังกล่าวให้มีผลบังคับใช้ในทันที อาจจะต้องมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนอุปกรณ์ ให้กับผู้ที่มีตำแหน่งหน้าที่ที่ต้องใช้ในการจับกุมดำเนินคดีก่อน เช่น อาจมีการโยกย้ายอุปกรณ์มาจากงานจราจร ให้งานสืบสวนสอบสวนหรือสายตรวจ เป็นหลัก

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวยอมรับว่า การดำเนินการดังกล่าวค่อนข้างยุ่งยากพอสมควร และการจัดเก็บข้อมูลก็ยังคงมีปัญหา จึงจำเป็นต้องมีการจัดสรรงบประมาณลงไป เพื่อจัดหาอุปกรณ์ ทั้งนี้ ไม่ทราบในรายละเอียดของแต่ละมาตราที่มีการกำหนดการใช้อุปกรณ์ตั้งแต่ต้น จึงยังไม่ได้มีการเตรียมความพร้อม เนื่องจากการจับกุม ในแต่ละวันของเจ้าหน้าที่มีจำนวนมากหลายแสนคดีต่อปี และตำรวจที่เกี่ยวข้องอีกแสนกว่าคน จึงไม่ใช่เรื่องที่ง่าย เพราะหากเกิดข้อผิดพลาด อาจทำให้เสียรูปคดีได้ แต่จะทำให้ดีที่สุด

...

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวยอมรับว่า รู้สึกเป็นห่วงลูกน้อง แต่ก็จะพยายามให้มีการประชุมเกี่ยวกับเรื่อง ระเบียบ และข้อบังคับในทุกสัปดาห์ เพราะไม่รู้ว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาในรูปแบบใด แต่จะต้องมีการเตรียมการให้ดีที่สุด ยืนยัน การดำเนินการทั้งหมด ไม่ใช่การเตะถ่วงแต่อย่างใด.