เกิดเหตุอุกอาจ 2 คนร้ายขี่ จยย.บุกมายิงหนุ่มสถาปนิกอนาคตไกลวัย 28 ปี หน้าบ้านพักย่านพระสมุทรเจดีย์ บาดเจ็บสาหัสเร่งนำส่ง รพ.แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป

เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา 22.30 น. วันที่ 25 ก.พ. 2566 พ.ต.ต.วงศ์ธวัช เดชเดโช สว.สอบสวน สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกัน ที่บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 3 หมู่บ้านวรารมย์ วิลล่า ซอย 2 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสาน ชุดสืบสวน และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะทาวน์เฮาส์ ชั้นเดียว บริเวณชานหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่พบผู้ได้รับบาดเจ็บถูกอาวุธปืน ไม่ทราบขนาด ยิงเข้าตามร่างกายหลายแห่งอาการสาหัส นอนจมกองเลือด เจ้าหน้าที่กู้ชีพต้องเร่งช่วยเหลือปฐมพยาบาล ปั๊มหัวใจ ก่อนเร่งรัดนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง แต่ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล ทราบชื่อ นายพงษ์อนันต์ พุทธทวี อายุ 28 ปี มีบาดแผลถูกยิงที่หน้าท้อง จำนวน 2 นัด และ ที่แผ่นหลัง 4 นัด ส่วนในจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบหัวกระสุนปืน ไม่ทราบขนาด จำนวน 2 หัว เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

...

โดยที่ขณะเกิดเหตุ ผู้ตายนั่งดูฟุตบอลกับเพื่อนอีก 2 คน บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ ได้มีคนร้าย ขี่จักรยานยนต์มาด้วยกัน 2 คน สวมหมวกกันน็อก สีดำ เต็มใบ ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงขายาว ขี่รถจักรยานยนต์มาวนดู อยู่ 2 รอบ ก่อนที่จะมาจอดรถจักรยานยนต์หน้าบ้านผู้ตาย และ เดินลงไปยิงผู้ตาย จำนวน 4-5 นัด ก่อนที่จะหลบหนีออกไปทางปากซอย หลังจากที่ผู้ตายถูกยิงได้วิ่งหลบเข้าไปในบ้านก่อนล้มลงหมดสติ ชาวบ้านที่ได้ยินเสียงจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือ โดยหลังรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ ในบ้านที่เกิดเหตุมีรอยคราบเลือดตั้งแต่หน้าบ้านเก้าอี้ที่นั่งเล่นจนไปถึงภายในบ้านหน้าห้องของผู้ตาย และที่เกิดเหตุตำรวจตรวจพบหัวกระสุนจำนวน 2 นัด จากนั้นจะไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุรวมทั้งเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายหลบหนี เพื่อติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถาม นายเอกศิลป์ พุทธวี อายุ 30 ปี พี่ชาย กล่าวว่า เหตุการณ์เป็นยังไงตนเองไม่รู้ เนื่องจากน้องชายกับตนเองอยู่บ้านคนละหลังกัน ซึ่งห่างกันไม่ไกล แต่หลังก่อเหตุแล้วผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าบ้านตนเอง มีคนในกลุ่มน้องชายได้ตะโกนบอกว่ารถคันดังกล่าวได้ยิงน้องชายตนเอง ตนเองจึงได้กระโดดถีบไม่โดน ตนเองจึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามแต่ก็ตามไม่ทัน ตนเองจึงกลับมาที่บ้านเพื่อจะพาน้องไปโรงพยาบาล แต่เขาบอกไม่ต้องไปเดี๋ยวรถพยาบาลมา โดยที่น้องชายตนเองอยู่ในอาการสาหัสมาก ก่อนน้องชายจะบอกกับแม่ว่า เขาไม่ไหวแล้ว น้องชายถูกยิง 4-5 นัด เข้าที่ตัวหมดเลย ส่วนเรื่องปัญหานั้นไม่เคยมีกับใครเลย ตนเองอยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามผู้ก่อเหตุมาให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากเป็นเหตุที่อุกอาจ



ด้าน นายวิทวัส ซาบำเหน็จ อายุ 32 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ขณะนั้นตนเองกำลังนั่งซักผ้าอยู่หน้าบ้าน ตนเองเห็นวัยรุ่น 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดบริเวณจุดเกิดเหตุ ก่อนที่คนซ้อนท้ายจะชักปืนออกมายิง ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งตอนเกิดเหตุตนเองได้ยินเสียงปืนดังขึ้น จำนวน 4 นัด โดยที่ผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน ลักษณะสวมเสื้อแจ็กเกต สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ส่วนรถจักรยานยนต์นั้นตนเองไม่ทราบว่าเป็น รุ่น หรือ ยี่ห้อ อะไร หลังสิ้นเสียงปืน ตนเองจึงออกมาดู แต่ก็ไม่ได้เข้าไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเกรงว่าจะเข้าไปทำลายหลักฐานในจุดเกิดเหตุ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เหตุการณ์นี้เป็นครั้งแรก

...

ขณะที่ น.ส.ชนัดดา วาสิงห์หน อายุ 53 ปี น้าสาว กล่าวว่า หลานชายได้นั่งดูบอลกับเพื่อนอีก 2 คน อยู่บริเวณหน้าบ้านตามปกติ ก่อนที่ จู่ๆ จะคนร้ายมายิงหลานชาย ซึ่งตนเองได้ยิงเสียงปืน ประมาณ 4-5 นัด ส่วนผู้ก่อเหตุตนเองไม่ทราบว่าเป็นใคร โดยที่ตอนนี้อยู่ระหว่างดูกล้องวงจรปิดที่อยู่ในหมู่บ้าน โดยคนร้ายลักษณะขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนกันมา 2 คน ซึ่งคนซ้อนท้ายได้ลงจากรถจักรยานยนต์ก่อนที่จะมายิงหลานชาย ก่อนที่ทั้งคู่จะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกทางหน้าปากซอย 2 ซึ่งคนร้ายเข้ามาจากปากซอย 1 โดยหลานชายมีบาดแผลโดนยิงเข้าที่ท้อง 2 แผล ที่หลังอีก 4 แผล

ส่วน น.ส.ชลธิชา ทองย่อม อายุ 28 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า จากที่พี่ชายเล่าให้ตนเองฟังว่า คนร้ายได้จอดรถจักรยานยนต์ก่อนที่จะเดินมาจ่อยิงเลย โดยที่เล็งยิงคนเดียว โดยที่ตนเองได้ยินเสียงปืน จำนวน 4 นัด โดยตอนเกิดเหตุนั้น ผู้ตาย ได้นั่งกันอยู่ 3 คน รวมพี่ชายตนเองด้วย ซึ่งโดยปกตินั้นก็จะนั่งเล่นกันบริเวณนี้กันอยู่แล้ว ซึ่ง ผู้ตายทำงานเป็นสถาปนิกอยู่บริษัทแถวถนนพระราม 2 โดยที่คนร้ายมากัน 2 คน ลักษณะเป็นวัยรุ่น ส่วนตัวของคนตายนั้น ไม่เคยมีเรื่องกับใครในซอยดังกล่าว.

...