ลูกแชร์ บุก สภ.ชุมพวง ทวงถามความคืบหน้าคดี "โกงแชร์ 100 ล้าน" หลังแจ้งความ 4 เดือนผ่าน คดียังไม่คืบหน้า หวั่นมวยล้มต้มคนดู เนื่องจาก เท้าแชร์ "บ้านของขวัญ" พร้อมพวกรวม 6 คน 1 ในนั้นมีผัวเป็นตำรวจ ด้าน ผกก.แจงอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน อาจล่าช้าบ้าง เพราะผู้เสียหายจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหาย หอบเอกสารหลักฐานไปที่ สภ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ น.ส.ชุลีพร จันทศร อายุ 41 ปี เท้าแชร์ “บ้านของขวัญ” พร้อมพวกรวม 6 คน ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ซึ่งก่อนหน้านี้มีกลุ่มผู้เสียหายมากกว่า 50 คน ทยอยแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2565 แต่คดีนั้นไม่มีความคืบหน้า ตำรวจยังไม่มีการสอบสวน หรือรวบรวมพยานหลักฐานที่พร้อมดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายแต่อย่างใด ผู้เสียหายเกรงว่าจะกลายเป็นคดีมวยล้มต้มคนดู เนื่องจากหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา มีสามีเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทั้งนี้ คดีฉ้อโกงเงินในวงแชร์ บ้านของขวัญ เริ่มตั้งแต่ น.ส.ชุลีพร เปิดวงแชร์ครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 หรือเมื่อ 1 ปีที่แล้ว ได้ชักชวนเพื่อนฝูง เพื่อนเก่า เพื่อนใหม่ คนรู้จักมาร่วมวงออมเงิน-ออมทอง ผ่านทางเฟซบุ๊ก มีสมาชิกเครือข่าย 580 คน
ตั้งเงื่อนไขการลงทุนสุดล่อตาล่อใจ คือ ลงทุน 100,000 บาท จะได้รับดอกเบี้ยเงินปันผลกลับคืน 33,000 ต่อเดือน หรืออัตราดอกเบี้ยร้อยละ 33 ต่อเดือน จึงมีคนหลงเชื่อจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างทั่วไป ทั้งในเขต อ.ชุมพวง, อ.คง, อ.ประทาย, อ.พิมาย และพื้นที่ใกล้เคียง อีกทั้งมีการขยายเครือข่ายไปถึงต่างจังหวัด ทั้งชลบุรี และเชียงใหม่
โดยการลงทุนในช่วงแรก จะได้รับเงินปันผลทุกเดือน แต่ถูกล่อลวงให้ลงทุนเพิ่มขึ้นอีกเป็นทวีคูณ ด้วยกลยุทธ์แจกทองคำ และเสนอดอกเบี้ยสูง สุดท้ายก็เป็นไปตามรูปแบบเดิมๆ ของวงแชร์ คือ ช่วงหลังลูกแชร์ไม่ได้รับเงินปันผล เมื่อทวงถามก็บ่ายเบี่ยง หลบหลีก และท้าทายให้ไปฟ้องเอา ผู้เสียหายจึงรวมกลุ่มแจ้งความเอาผิด ตรวจสอบจากหลักฐานการโอนเงิน มีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท แต่ผ่านไปกว่า 4 เดือน คดีกลับเงียบเฉย
...
ด้าน พ.ต.อ.นรวิชญ์ จุลวานิช ผกก.สภ.ชุมพวง กล่าวว่า คดีนี้มีความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท อาจล่าช้าบ้าง เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก และแจ้งความในหลายท้องที่ วันนี้จะเร่งรัดคดีโดยเร็วที่สุด เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เตรียมออกหมายเรียกผู้ต้องหามาสอบสวนรับทราบข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.