ผู้การภูเก็ต ยันไม่นิ่งนอนใจ เร่งเช็กวงจรปิดตรวจสอบข้อเท็จจริง ปม "หนุ่มแคนาดา" เที่ยวหาดป่าตอง อ้างถูกรุมทำร้าย-ชิงทรัพย์ ซ้ำร้ายจวกตำรวจไทย ไม่ยอมพาไปแจ้งความ เพราะไม่มีเงิน ขณะที่เจ้าของบาร์ เตรียมขึ้นโรงพัก สภ.ป่าตอง แจ้งความและชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้น


จากกรณีนาย William Lamarche-Saint-Louis อายุ 28 ปี นักท่องเที่ยวชาวแคนาดา แต่พูดภาษาฝรั่งเศส ได้เข้ารับการรักษาดั้งจมูกหักที่ รพ.สิริโรจน์ภูเก็ต อ.เมือง ซึ่งอ้างว่าถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 5 คนรุมทำร้ายแล้วชิงนาฬิกาและเงินสดไป เหตุเกิดภายในซอยย่านหาดป่าตอง ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เมื่อกลางดึกวันที่ 10 ก.พ. 66 และได้พบกับเจ้าหน้าที่แต่งกายคล้ายตำรวจไม่ยอมพาไปแจ้งความ ถ้าไม่มีเงิน ต่อมาได้มีชาวบ้านแนะนำให้ไปร้องเรียนกับนักข่าว เพื่อขอความเป็นธรรม เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

สำหรับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 พล.ต.ต.เสริมพันธ์ุ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า หลังจากที่นักท่องเที่ยวต่างชาติคนดังกล่าว เข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บที่บริเวณดั้งจมูก ที่ รพ.แล้ว ได้ประสานไปยังนักท่องเที่ยวคนดังกล่าว ซึ่งพักอยู่โรงแรมย่าน ต.กะรน อ.เมือง แต่เจ้าตัวยังไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูล เพราะต้องเดินทางไปเที่ยวที่เกาะพีพี จ.กระบี่ ในวันนี้ (13 ก.พ.) จากนั้นจะติดต่อเจ้าหน้าที่อีกครั้ง

"เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้มีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบที่นักท่องเที่ยวต่างชาติระบุว่าถูกทำร้ายร่างกายและมีการชิงทรัพย์ แต่ยังไม่พบเบาะแสเพิ่มเติม ซึ่งต้องรอเจ้าตัวมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมผ่านล่ามแปลภาษาอีกครั้ง" ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวย้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณ ถ.ทวีวงศ์ หรือ ถนนเลียบชายหาด ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ซึ่งจะมีบาร์เล็กๆ โดยเจ้าของบาร์ อ้างว่าก่อนเกิดเหตุนาย William ได้ไปนั่งดื่มกิน จากนั้นไม่ยอมจ่ายค่าอาหารและค่าเครื่องดื่ม จึงเกิดมีปากเสียงกับกลุ่มชายที่อยู่บริเวณใกล้เคียง โดยนาย William ได้ท้าต่อยกับกลุ่มชายดังกล่าว จึงเกิดเหตุการณ์ชกต่อยกันขึ้น จนนาย William ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว แต่ไม่มีการชิงทรัพย์ไป ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาหรือเงิน ตามที่นาย William กล่าวอ้าง

...

ซึ่งในวันนี้ 13 ก.พ. ช่วงบ่าย เจ้าของบาร์ที่นาย William ไปนั่งและไม่ยอมจ่ายเงิน จะเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เกิดขึ้น