"บิ๊กหิน" รับลูก "ผบ.ตร." เตรียมลงพื้นที่สุ่มตรวจตำรวจตั้งด่าน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ทั้งการแต่งกายที่ชัดเจน การติดตั้งกล้อง Bodycam หากจุดตรวจไหนไม่มีมาตรฐาน เรียกผลประโยชน์ จะถูกลงโทษถึงผู้บังคับบัญชา

จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจห้วยขวางตั้งด่านรีดเงินนักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวัน จนเป็นเหตุให้มีการดำเนินคดีตำรวจชุดดังกล่าว สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของ สตช. อย่างรุนแรง 

เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 66 พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดเผยว่า ตามที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ จตช. ลงตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการเด็ดขาดทั้งวินัย อาญา และปกครอง ขณะนี้ ตนได้มีหนังสือสั่งการให้ พล.ต.ท.วรัตม์ชัย ศรีรัตนวุฑฒิ หัวหน้าจเรตำรวจ จัดทีมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว พร้อมสั่งการให้ กองตรวจราชการ 1-10 จัดกำลังออกสุ่มตรวจการตั้งด่านตรวจของตำรวจทั่วประเทศ 
 
พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวว่า สตช. ได้เคยมีข้อสั่งการในการกำหนดมาตรฐานการตั้งด่านตรวจของตำรวจไว้อย่างชัดเจน ตามหนังสือสั่ง ตร.ที่ 0007.22/1572 ลง 31 พ.ค. 2564 เรื่องแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจ และจุดสกัด ป้องกันปราบปรามอาชญากรรม โดย การตรวจ จะลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบด่านตรวจต่างๆ โดยเฉพาะสิ่งที่ ผบ.ตร. กำชับคือ การแต่งกายแสดงตัวของตำรวจที่ชัดเจน การติดตั้งกล้อง Bodycam ติดตัว จนท. เพื่อบันทึกภาพ และเสียงให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้

ที่สำคัญคือ การตั้งด่านตรวจเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนและสังคมหรือไม่ มีการอนุมัติการตั้งจุดตรวจ ซึ่งเป็นอำนาจของผู้บังคับการขึ้นไปในการอนุมัติหรือไม่ อย่างไร หากจุดตรวจไหน ไม่มีมาตรฐาน มีการเรียกรับผลประโยชน์ จะมีการลงโทษ ผู้บังคับบัญชา และหัวหน้าสถานีตำรวจที่ปล่อยปละละเลย ไม่ใส่ใจในการตรวจสอบควบคุมดูแล และผู้บังคับการตามลำดับ หากไม่มีมาตรการควบคุม กำกับดูแลอย่างใกล้ชิด โดยให้รายงานผลภายใน 15 วัน

...

"การตั้งด่านตรวจ มีจุดประสงค์เพื่อลดอาชญากรรม สร้างความมั่นใจ เป็นที่พึ่งให้ประชาชน แต่ถ้าตั้งด่านตรวจแล้วกลับสร้างปัญหาและสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ตำรวจที่ตั้งด่าน และหัวหน้าหน่วย ต้องรับผิดชอบ ทั้งนี้ตนจะลงพื้นที่สุ่มตรวจด่านต่างๆ ทั่วประเทศด้วยตนเองด้วย" จตช. กล่าว