ตำรวจสอบสวนกลางยึดรถของกลางเครือข่าย “เจ๊พลอยชลบุรี” ผู้ต้องหาหลอกจำนำรถ แต่เมื่อนำเงินมาไถ่ถอนไม่ได้รถคืน โดย ตร.ขยายผลได้เพิ่มอีก 70 คัน เป็นรถในคดี 39 คัน ก่อนส่งคืนเหยื่อ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 ม.ค.2566 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ต.หญิง กัญจิรา นรสาร สว.ปรก.กก.2 บก.ป. พร้อมชุด ศปจร.บก.ป. ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนขยายผลขบวนการหลอกจำนำรถของกลุ่ม “เจ๊พลอยชลบุรี” หลังสามารถตรวจยึดรถยนต์ได้จากเครือข่ายดังกล่าวได้เพิ่มเติมอีกจำนวน 70 คัน

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2565 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้จับกุม น.ส.แพรวศิญา ธนคุปต์ไพศาล หรือ “เจ๊พลอยชลบุรี” ผู้ต้องหาขบวนการหลอกจำนำรถ ที่มีพฤติกรรมโพสต์ประกาศรับจำนำรถผ่านสื่อออนไลน์ จนมีหลงเชื่อ นำรถยนต์ที่ได้เช่าซื้อ หรือเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์มาวางประกันเงินกู้ยืม แต่เมื่อผู้เสียหายนำเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยมาไถ่ถอนรถยนต์คืนกลับไม่ได้รับกลับคืนเนื่องจากกลุ่มขบวนการดังกล่าวได้นำไปขายต่อให้กับนายทุนรถเถื่อนจนได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก หลังการจับกุมผู้ต้องหาได้ขยายผลเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 7 จุด ทั่วประเทศ สามารถตรวจยึดรถได้จำนวน 64 คัน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถของกลางในคดีตามพื้นที่ต่างๆ ถึง 56 คัน

...

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวต่อว่า หลังการจับกุมครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ยังคงขยายผลต่อเนื่อง เนื่องจากมีผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนจากขบวนการดังกล่าวมีมากถึง 509 ราย และมีรถยนต์ที่ถูกประทุษร้ายไปกว่า 511 คัน จนกระทั่งได้รับแจ้งจากผู้ดูแลลานจอดรถยนต์แห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี ว่า ยังมีรถอีกจำนวนหนึ่งที่กลุ่มผู้ต้องหาได้นำมาฝากจอดไว้ โดยไม่ทราบว่าเป็นรถที่ถูกประทุษร้ายไปหรือไม่ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบจนสามารถติดตามรถได้กลับคืนอีก 70 คันดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบพบเป็นรถของกลางในคดีนี้ จำนวน 39 คัน ส่วนรถที่เหลืออีกจำนวน 31 คัน เบื้องต้นได้ประสานไปยังเจ้าของรถให้เดินทางมาร้องทุกข์กับ กก.2 บก.ป. เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตามภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว ยังได้มีพิธีส่งมอบรถกลับคืนให้กับผู้เสียหาย โดยมี พล.ต.ท.จิรภพ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เป็นตัวแทนส่งมอบรถ ท่ามกลางความดีใจของกลุ่มผู้เสียหายจำนวนมากที่มายืนรอรับรถ และติดตามความคืบหน้าของคดีตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา

นายเหลือง (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ก่อนหน้าได้นำรถเก๋ง ฮอนด้า รุ่นแจ๊ส ไปจำนำกับกลุ่มผู้ต้องหา 1 หมื่นบาท เพราะต้องการหาเงินมารักษาอาการป่วยโรคไต เบาหวาน แต่เมื่อหาเงินมาใช้คืนจนครบพร้อมดอกเบี้ยอีก 2 พันบาท กลับไม่ได้รถของตัวเองกลับคืน กลุ่มผู้ต้องหาอ้างว่าติดปัญหาเรื่องโควิด ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าจะได้รถคืนกลับมา เพราะหายสาบสูญไปเป็นปีแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหายเป็นหญิงรายหนึ่งนำรถมาจำนำกับกลุ่มขบวนการดังกล่าวเพราะต้องการหาเงินมารักษาอาการป่วยจากโรคมะเร็ง เมื่อนำเงินมาใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ยจนครบ กลับไม่สามารถไถ่ถอนรถกลับคืนได้เช่นเดียวกัน.