***ภาพประกอบข่าว***

ข่าวฉาวสะท้อนศรัทธาวงการผ้าเหลือง หลวงตา เพื่อนเจ้าอาวาส ลวงสามเณรน้อยเข้าไปหาในกุฏิ แล้วล่วงละเมิดทางเพศนานติดต่อกัน 6 เดือน ให้โทรศัพท์ 2 เครื่องปิดปาก เรื่องแดงเพราะเณรน้อยติดโรค ขณะที่ชาวบ้านสุดทน ร้องสื่อเพราะกลัวเรื่องเงียบ

เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดข่าวฉาวสะท้อนศรัทธาวงการผ้าเหลืองที่ถดถอยอีกครา เมื่อชาวบ้านใกล้วัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บ้านพระ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี สุดทนกับพฤติกรรมของหลวงตาถาวร (ไม่ทราบนามสกุล) ใช้กลวิธีหลอกลวงสามเณร อายุ 11 ปี ให้ขึ้นไปพบที่กุฏิในเวลากลางวันและกลางคืนก่อนที่จะลงมือล่วงละเมิดทางเพศจนสำเร็จความใคร่ถึง 6 ครั้ง เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน จนถึงเดือนธันวาคม 2565

โดยที่ หลวงตาถาวร ได้ให้โทรศัพท์เก่าๆ กับสามเณรมาใช้ 2 เครื่อง เพื่อเป็นการปิดปาก พร้อมกำชับสามเณรเหยื่อราคะ ว่าห้ามนำเรื่องดังกล่าวไปบอกกับใครเด็ดขาด และในขณะล่วงละเมิดยังบอกให้อยู่เฉยๆ ด้วยความกลัว สามเณรจึงไม่กล้าบอกใคร จนกระทั่งเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2565 สามเณรเกิดป่วย เพราะการอักเสบของช่องทวารหนัก ญาติทางแม่จึงติดต่อมาให้ นางสาวบี (นามสมมติ) ผู้เป็นแม่ อาชีพรับจ้างทั่วไป อาศัยอยู่ในห้องเล็กๆ ตำบลหน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี พาไปหาหมอที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร หลังจากแพทย์ตรวจพบว่าทวารหนักอักเสบรุนแรงจนเป็นไข้ มีร่องรอยคล้ายการถูกล่วงละเมิดทางเพศ จึงตรวจอย่างละเอียดและซักถาม จึงทราบว่า สามเณร ถูกพระในวัดกระทำการล่วงละเมิดดทางเพศมาถึง 6 ครั้ง จนทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อรุนแรง

หลังแพทย์ยืนยันแล้วว่า สามเณรลูกชายป่วยเพราะถูกล่วงละเมิด นางสาวบี (นามสมมติ) ผู้เป็นแม่ จึงพาเข้าแจ้งความพร้อมกับผลการตรวจของแพทย์ ต่อ พ.ต.ท.จุมพล ทฤษฎีสุข สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี เพื่อดำเนินคดีกับหลวงตาถาวร เพื่อนเจ้าอาวาสวัด เมื่อคืนวันที่ 31 ธ.ค. 2565 ที่ผ่านมา

...

แต่หลังจากเข้าแจ้งความผ่านมา 16 วัน ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ กับผู้ก่อเหตุ ไม่มีสหวิชาชีพมาพูดคุยกับเณรลูกชาย ตนเกรงว่าเรื่องจะเงียบ เพราะล่าสุดทราบว่า หลวงตาถาวร คนก่อเหตุได้หลบหนีไปพร้อมกับเจ้าอาวาส ออกจากวัดไปแล้ว

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับสามเณรที่ย้ายมาอยู่ที่วัดใกล้บ้าน ซึ่งอยู่ในสภาพซึม บอกแต่ว่าอยากสึก ส่วนหนึ่งมาจากการกระทำของหลวงตาบ้ากาม เพราะต้องมาอยู่ในวัดตามลำพัง ส่วนหนึ่งอยากออกไปใช้ชีวิตเยี่ยงเด็กทั่วไป เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผู้สื่อข่าวฟังทั้งหมด รวมทั้งความรู้สึกถึงขณะนี้ว่า เสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว