"โกน้อง" เจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างพร้อมทนาย ดอดมอบตัว สภ.เวียงสระ คดีสั่งฆ่า "เสี่ยสมพร" เจ้าของบริษัทรับเหมาคู่แข่ง หลังถูกออกหมายจับ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ตร.มั่นใจหลักฐานที่มีเอาผิดได้
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ม.ค. 66 ที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ รอง ผบก. พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ร่มไทร รอง ผกก.สอบสวน และ พ.ต.ท.สุทิน รักงาม สว.สอบสวน สภ.เวียงสระ ร่วมกันรับมอบตัวและซักปากคำ นายปฏิภาณ ปลื้มสุทธิ์ หรือ โกน้อง อายุ 43 ปี ชาวบ้าน หมู่ 1 ต.ทุ่งหลวง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างเอสพีเอ 2017 จำกัด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลเวียงสระที่ จ 235/2565 ลงวันที่ 9 ธันวาคม 2565 ข้อหาร่วมกันด้วยการใช้ จ้าง วาน หรือยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์
...
ในการเข้ามอบตัวของ นายปฏิภาณ ได้เดินทางมาพร้อมด้วยทนายความ และให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และประสงค์จะให้ปากคำในชั้นสอบสวนและชั้นศาล โดยภายหลังการซักปากคำ เจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกจับกุม ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.เวียงสระ นำตัวไปสอบสวนปากคำเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 พ.ย. 2565 ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มคนร้ายร่วมกันก่อเหตุขับรถยนต์เก๋งขับประกบและใช้อาวุธปืนยิง นายสมพร สินทอง อายุ 44 ปี ชาว ต.ทุ่งหลวง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าของบริษัทมงคลชัย 99 การโยธาจำกัด รับเหมาก่อสร้างถนนและอาคาร และเจ้าของร้านสมพรแซทเทิลไลน์ จำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าและการสื่อสาร เสียชีวิตคารถยนต์กระบะ หน้าโรงพยาบาลยุพราชเวียงสระ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประกอบด้วย กองปราบปราม, บก.สส.ภ.8 เข้าร่วมสืบสวนคลี่คลายคดีร่วมกับชุดสืบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และชุดสืบสวน สภ.เวียงสระ นำโดย พล.ต.ต.นภณวุฒิ เหลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 พบว่าพฤติกรรมที่คนร้ายก่อเหตุในลักษณะของมือปืนรับจ้าง
โดยประเด็นความขัดแย้งมาจากปมประมูลก่อสร้าง และสืบสวนจนนำไปสู่การออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหา 4 ราย คือ 1)นายเอกรินทร์ แสงหิรัญ 2)นายกรัณต์ จูดหอม อายุ 30 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ทำหน้าที่ขับรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 3)นายธนากร อักขบุตร อายุ 30 ปี ชาว จ.ตรัง มือปืน 4)นายธรรมรินทร์ แสงหิรัญ อายุ 55 ปี ชาว จ.ตรัง ผู้ร่วมวางแผน และจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย โดยนายเอกรินทร์ ผู้ต้องหาที่ 1 ยังหลบหนี
ต่อมาชุดสืบสวนสอบสวนขยายผลกลุ่มผู้ต้องหาที่ใช้อาวุธปืนก่อเหตุให้การซัดทอดว่ามี นายธีรยุทธ์ บุญชนะ และนายอัสดายุทธ ศักดิ์จิรพาพงษ์ หรือ ผู้ใหญ่แม็ก เป็นผู้ว่าจ้างให้ก่อเหตุ จึงขออนุมัติหมายจับ ต่อมา นายอัสดายุทธ หรือ ผู้ใหญ่แม็ก ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจเพื่อต่อสู้ทางคดี ขณะที่ นายธีรยุทธ์ ยังหลบหนี และล่าสุดพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายจับนายปฏิภาณ ฐานความผิดผู้ใช้จ้างวานดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ในคดีนี้ศาลได้ออกอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 7 ราย จับกุมได้ 3 ราย และเข้ามอบตัว 2 ราย ส่วนอีก 2 ราย ยังหลบหนี ซึ่งการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่าได้กบดานอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนของ ตม.ในการประสานตำรวจท้องถิ่น ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี และถึงแม้ว่าในชั้นสอบสวนผู้ต้องหา 2 รายหลังที่เป็นผู้ใช้จ้างวานจะให้การปฏิเสธ แต่เรามั่นใจในพยานหลักฐานว่าจะสามารถมัดตัวผู้ต้องหาให้รับโทษทางกฎหมายได้.