หนุ่มมือมีดแทงเด็ก เปิดปากสารภาพยอมรับผิด บันดาลโทสะ ที่คิดว่าผู้ตายวางยาทำให้ตัวเองท้องเสีย เลยบันดาลโทสะลงมือแทง ตร.แจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา เผยผลตรวจไม่พบแอลกอฮอล์ หรือเสพยาเสพติด

จากกรณีเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2566 เวลา 08.00 น. ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งว่ามีเหตุถูกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดภายในโรงเรียนบ้านล้าวิทยาคาร ตำบลหนองแก้ว ตำบลหนองแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด จึงรุดตรวจสอบพร้อมกู้ชีพ อบต.หนองแก้ว กู้ชีพพีร์คำทอน โรงพยาบาลร้อยเอ็ด

ถึงจุดเกิดเหตุบริเวณประตูหน้าโรงเรียน พบรถหกล้อรับส่งนักเรียนจอดอยู่ พบเด็กหญิง อายุ 14 ปี 2 ราย ถูกแทงที่ร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ อาการสาหัส หมดสติไม่รู้สึกตัว มีแผลถูกแทงที่ต้นคอ 1 แผล บริเวณหน้าอก 2 แผล เจ้าหน้าที่กู้ชีพเร่งให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาล เร่งนำส่งโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ทราบภายหลังในเวลาต่อมา เด็กหญิงอายุ 14 ปี เสียชีวิต 1 ราย

พบชาวบ้านรุมล้อมจับผู้ก่อเหตุ นายปรีชา วิชัยศร อายุ 37 ปี ชาวบ้าน ต.หนองแก้ว อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด พร้อมอาวุธมีดทำครัว ยาวประมาณ 30 เซนติเมตร รวมด้าม พบคราบเลือดเปื้อนที่บริเวณมีด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน คุมตัวผู้ก่อเหตุพร้อมอาวุธมีด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อทำการสอบสวนเพิ่มเติม ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

...

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 6 ม.ค.66 พ.ต.อ.ศิรสัณห์ เยื้อนสงวนชัย รอง ผบก.ภจว.ร้อยเอ็ด พ.ต.ท.สุดจิต ศรีศิริ รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด พ.ต.ท.บุญสืบ ไชยน้ำอ้อม สว.ปราบปราม สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้นำตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายปรีชา มาสอบปากคำเพิ่มเติม

ผู้ต้องหาให้การว่า เมื่อวานช่วงเช้า (5 ม.ค.) ในขณะที่ตนนั่งเช็ดหน้าไก่ชน (เข้าน้ำไก่) อยู่หน้าบ้าน จู่ๆ ตนได้ยินเสียงแว่วๆ ว่า ผู้ตายพูดว่า "เอายาหมาแดงให้มันกิน" ตนจึงคิดว่าที่ตนมีอาการท้องเสียมาแล้วหลายวัน คงเป็นเพราะผู้ตายเอายาหมาแดงมาให้ตนกิน เช้าวันนี้ (6 ม.ค.) จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์พร้อมกับพกมีดทำครัวที่อยู่ในบ้าน ขับตามรถรับส่งนักเรียนคันที่ผู้ตายนั่งอยู่ จนไปถึงบริเวณหน้าโรงเรียนอาศัยช่วงที่นักเรียนกำลังจะลงจากรถ บุกขึ้นไปแทงผู้ตาย ก่อนจะลากลงมาจากรถ นั่งคร่อมแล้วแทงซ้ำอีกจนผู้ตายนอนแน่นิ่งไป

"ตัวเองอยากขอโทษไปยังญาติของผู้เสียชีวิต ที่ได้ลงมือก่อเหตุคงไป ไม่ได้ตั้งใจ แต่เป็นเพราะบันดาลโทสะ ที่คิดว่าผู้ตายวางยาหมาแดงให้ตนกินแล้วทำให้ท้องเสียตนจึงได้ตัดสินใจลงมือก่อเหตุดังกล่าว" ผู้ต้องหา กล่าว

เบื้องต้น ตำรวจได้คุมตัวผู้ก่อเหตุ ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และตรวจสารเสพติด ไม่พบว่ามีแอลกอฮอล์และไม่พบสารเสพติดในร่างกาย จึงแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกมีดไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ หลังจากนี้จะส่งตัวผู้ต้องหาตรวจโรคหูแว่วเพิ่มเติมที่ รพ.ร้อยเอ็ด หากแพทย์ระบุว่าไม่ได้เป็นผู้ป่วย จะทำการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมภายหลัง คุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.