เขยใหญ่ลั่นไกสังหารเขยเล็กด้วยปืนแก๊ป แล้วขี่ จยย.แบกปืนมาโรงพักมอบตัว อ้างมีเหตุขุ่นเคืองใจกันหลายเรื่อง ก้มกราบพ่อตาขอโทษ ขณะที่เมียเขยเล็กประกาศลั่น กูไม่อภัยให้มึง
เวลา 13.00 น. วันที่ 5 ม.ค. ร.ต.อ.อภิชาติ โคตรวิชา พนักงานสอบสวน สภ.ส่องดาว อ.ส่องดาว จ.สกลนคร กำลังเข้าเวรอยู่ที่ สภ. จู่ๆ ได้มีชายทราบชื่อต่อมาว่า นายสุพจน์ บัวศรี อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 187 ม. 3 ต.ส่องดาว อ.ส่องดาว จ.สกลนคร ขี่ จยย.ฮอนด้า เวฟ 100 สีเลือดหมู ทะเบียน กก.6015 สกลนคร จอดที่หน้า สภ. แล้วเดินถืออาวุธปืนแก๊ปยาวขึ้นโรงพักเพื่อเข้ามาแจ้งความประสงค์จะมามอบตัว เนื่องจากได้ใช้อาวุธปืนกระบอกดังกล่าวยิงนายทรงชัย หล้าพันธุ์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 262 ม.3 ต.ส่องดาว ที่เป็นเขยเล็ก ถึงแก่ความตาย เหตุเกิดที่ถนนซอยริมคลองชลประทาน ม.3
หลังจากรับมอบตัวเขยใหญ่แล้ว จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.พยุงศักดิ์ นามวรรณ รอง ผบก.ภ.จว.สกลนคร ทราบ จากนั้นได้ร่วมกันตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ส่องดาว เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และกู้ภัยสว่างแดนดิน พบผู้ตายนุ่งกางเกงยีนส์ ไม่ใส่เสื้อ นอนหงายอยู่กลางถนนดินแดง ที่แผ่นหลังใต้ด้านบนซ้ายมีรูกระสุนปืนขนาดเท่าปลายนิ้วก้อยไปตุงอยู่ด้านหน้าอกซ้ายเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง โดยกระสุนตัดขั้วหัวใจ
พ.ต.อ.พยุงศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพพร้อมทั้งไปมอบตัวเองกับพนักงานสอบสวน ที่ สภ.ส่องดาว แต่ยังไม่ได้ให้ปากคำ เพียงแต่บอกว่าเก็บกดมานานแล้ว เรื่องแรกเรื่องที่ดินที่ซื้อมาจากเขยเล็กจำนวน 10 ไร่ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มารังวัดพบว่ามีเพียง 8 ไร่กว่า อีกเรื่องเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาวัวของตนไปทำรถยนต์ของเขยเล็กเสียหาย ช่างตีราคา 4,000 บาท เขยใหญ่ไม่จ่าย ทางเขยเล็กจึงไปแจ้งความดำเนินคดี ก็ยิ่งสร้างความขุ่นเคืองมากขึ้น วันเกิดเหตุนายสุพจน์ เขยใหญ่ เห็นเขยเล็กขี่ จยย.ผ่านหน้าบ้านจึงวิ่งเข้าไปเอาปืนมายิงจนรถล้มลง พอได้สติวิ่งเข้าไปอุ้มเขยเล็กจะนำส่ง รพ.แต่อุ้มไม่ไหวจึงตัดสินใจขี่ จยย.เขยเล็กพร้อมแบกปืนไปมอบตัว พร้อมกล่าวว่าความโกรธมันสะสมมานานแล้วก็ไม่พูดอะไรอีก
...
ต่อมาทาง พ.ต.อ.พยุงศักดิ์ ได้นำตัวนายสุพจน์ บัวศรี ผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมก้มกราบนายบุญตา จำมี อายุ 74 ปี พ่อตาขอโทษและกล่าวว่าตนผิดไปแล้ว ขณะนั้นมี นางระพิน จำมี อายุ 47 ปี ภรรยาผู้ตายยืนอยู่ด้วยบอกว่า “กูไม่อภัยให้มึง” จะดำเนินคดีถึงที่สุด พร้อมทั้งเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าสาเหตุที่สามีถูกพี่เขยยิงจนเสียชีวิตครั้งนี้ไม่น่าจะใช่เรื่องที่ดิน เนื่องจากขายไปนานแล้วจนยางพาราโตกรีดได้แล้ว และเคยขอซื้อคืนก็ได้เพื่อไม่ให้เกิดความบาดหมางกัน แล้วเรื่องก็เงียบไป ครั้งนี้ที่ก่อเหตุน่าจะมาจากเรื่องที่วัวพี่เขยมาเตะรถยนต์จนได้รับความเสียหาย พี่เขยปฏิเสธไม่ยอมรับจนมีการนำกล้องหน้ารถไปปรึกษาตำรวจ ตำรวจชี้ว่าผิด จึงแค้นแล้วก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
ส่วนนายบุญตา พ่อตานายสุพจน์ และเป็นพ่อตานายทรงชัยด้วย กล่าวว่าเสียใจที่เรื่องเกิดขึ้นกับครอบครัว ทั้งๆ ที่เป็นพี่น้องกันแท้ๆ เมียของนายสุพจน์ คือนางออมสิน จำมี อายุ 49 ปี เป็นลูกสาวคนโต ตอนนี้ไม่ทราบหลบไปไหน