“พิทักษ์ 1” เป็นตำแหน่งสำคัญที่ถูกจับจ้องของผู้คนในสังคมไทยกับบทบาทผู้นำตำรวจกว่า 2.3 แสนนายทั่วประเทศ แบกรับสภาพปัญหาภายใน และ “คนนอก” กดดันฉกฉวยประโยชน์กับตำแหน่งหน้าที่ตำรวจ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รับตำแหน่ง ผบ.ตร.คนที่ 13 ของประวัติศาสตร์ ชีวิตที่เติบโตมากับงานในพื้นที่และหน่วยงานสนับสนุน ทำให้เข้าใจขอบเขตงานตำรวจพื้นที่ หน่วยปฏิบัติการพิเศษและฝ่ายอำนวยการ ทันทีที่เข้ารับตำแหน่งไม่ต้องรีรอ กำหนดนโยบายและลงมือบริหารงานทุกหน่วยได้ทันที
ชูวิสัยทัศน์ “ความเป็นมืออาชีพในหน้าที่ ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน”

นโยบายเร่งด่วนทำให้ประชาชนคนไทย 3 เรื่อง คือ การแก้ไขปัญหายาเสพติด การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ และ การยกระดับการให้บริการประชาชนของสถานีตำรวจ
กว่า 3 เดือน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ขับเคลื่อนนโยบายระดับ ตร.และสนองนโยบายสำคัญของรัฐบาล
ทำหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุข สืบสวนจับกุมคดีอาชญากรรม ปัญหายาเสพติด อาวุธปืน สถานบริการ พนันออนไลน์ หลอกออนไลน์และเครือข่ายคนต่างด้าวฝ่าฝืนกฎหมาย ยึดมาตรการบังคับใช้ทางกฎหมาย
...
บุคลิก “อ่อนนอก แข็งใน” และแนวคิดในการทำงาน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เกาะติด ลงลึกรายละเอียดในทุกเรื่องทุกคดี ทำให้เห็นความชัดเจนทิศทางงานตำรวจที่ทำเป็นระบบ มีผลงานต่อเนื่อง
นโยบายเร่งด่วนแก้ไขปัญหายาเสพติดทั้งป้องกัน ปราบปราม จับกุม สกัดกั้น และนำผู้เสพ ในชุมชนเข้าบำบัดเพื่อไม่ให้ออกไปสร้างปัญหาให้สังคม สถิติเดือน ต.ค.-พ.ย. จับกุมยาเสพติด 47,310 คดี ผู้ต้องหา 46,453 คน ของกลางยาบ้า 34,827,953 เม็ด ยาไอซ์ 67.88 กิโลกรัม เฮโรอีน 125.9 กิโลกรัม เคตามีน 406.5 กิโลกรัม โคเคน 2.4 กิโลกรัม และยาอี 1,217 เม็ด ดำเนินการตามยึดทรัพย์ ตามมาตรการฟอกเงิน 3 ราย

ค้นหาและนำผู้สมัครใจเข้าสู่กระบวนการบำบัด 72,716 ราย ผู้เสพที่มีอาการทางจิตประสาท 21,143 ราย รวมทั้งสิ้น 93,859 ราย นำผู้เสพเข้า สู่กระบวนการทางกฎหมาย 140,839 ราย คิดเป็นร้อยละ 54 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับปีงบประมาณ 2565 ดำเนินโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรในพื้นที่ 1,483 หมู่บ้าน และชุมชนไม่น้อยกว่า 15,000 ราย เริ่มดำเนินการเดือน ม.ค.-เม.ย.
จับกุมอาวุธปืนและวัตถุระเบิด 22,027 คดี 20,316 คน อาวุธปืนสงคราม 220 คดี อาวุธปืนไม่มีทะเบียน 6,466 คดี อาวุธปืนมีทะเบียน 529 คดี คดีเกี่ยวกับการพนัน 15,407 คดี ผู้ต้องหา 18,170 คน จับกุมความผิดเกี่ยวกับสถานบริการ 1,032 คดี จับกุมผู้ต้องหา 1,024 คน

คดีคนต่างด้าวใช้เมืองไทยเป็นฐานกระทำผิด ผบ.ตร. สั่ง สตม.เพิ่มความเข้มคัดกรอง กวาดล้างและจัดระเบียบกลุ่มคนต่างด้าวฝ่าฝืนกฎหมายที่อยู่ไทย คัดกรองคนต่างด้าวมีการปฏิเสธคนต่างด้าวเข้าเมือง 3,395 ราย คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 2,005 ราย ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น 21 ราย และจัดระเบียบคนต่างด้าวไม่รายงานตัว 582 ราย ไม่ได้แจ้งที่พักอาศัย 8,770 ราย และ จับกุมคนต่างด้าวอนุญาตสิ้นสุด 1,073 ราย
ขยายผลจับกุมทลายเครือข่ายผลประโยชน์ของกลุ่ม “ทุนจีนสีเทา” ฝังรากอยู่ในเมืองไทย
ขับเคลื่อนระบบการแจ้งความออนไลน์และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รับแจ้งความออนไลน์ตั้งแต่ 1 มี.ค.-29 พ.ย. รับแจ้งความ 134,268 คดี ติดตามอายัดบัญชี 49,765 บัญชี อายัดได้ทัน 385,759,583 บาท
...

ภาพรวมคดีตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.-8 พ.ย. รับคำร้องทุกข์ 142,740 คดี จับกุมได้ 131,349 คดี คิดเป็นร้อยละ 92 เปอร์เซ็นต์ ทุกคดีอาชญากรรมสำคัญที่เกิดขึ้น ฝ่ายสืบสวนติดตามปิดคดีได้เกือบทั้งหมด
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ใช้เวลาไม่นานขับเคลื่อนนโยบายมีผลการปฏิบัติสอดรับนโยบายสำคัญของรัฐบาลและ ตร. สืบสวนจับกุมคดีอาชญากรรมสะเทือนขวัญ การป้องกันปราบปรามยาเสพติด การหลอกลวงช่องทาง “สื่อออนไลน์” และ
การปรับรูปแบบการบริการและรับแจ้งความบนสถานีตำรวจ ให้กำลังใจตำรวจปฏิบัติหน้าที่เข้มแข็ง ตามหลักยุทธวิธี จัดโครงการ “ทำดีมีรางวัล” ให้ตำรวจที่มีผลงานและได้รับเสียง ชื่นชมจากพี่น้องประชาชน
ผบ.ตร.เป็นแม่งานขับเคลื่อนภารกิจในการดูแลความปลอดภัยและอำนวยการจราจรการประชุมเอเปก 2022 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ไม่มีเหตุรุนแรง ได้รับเสียงชื่นชมจากนานาประเทศ เป็นหน้าตาของรัฐบาล
ใช้ยุทธวิธี “ทำคนน้อยให้เป็นคนมาก” ใช้ขวัญและกำลังใจตำรวจที่เป็นพลังพิเศษและขอความร่วมมือประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม สร้างความสงบเรียบร้อยในสังคม
...
ที่สำคัญเป็น ผบ.ตร. ขยันทำงาน เอางานสู้กับทุกปัญหา ไม่เชื่อข้อมูลจนกว่าจะได้ลงมือทำงาน ลงไปดูลงไปร่วมประชุมให้เห็นด้วยตัวเอง ไม่ปล่อยผ่านทุกเรื่องความเดือดร้อนของ ประชาชน

กำชับทีมโฆษก ตร.ติดตามทุกกระแสสังคม ทุกความต้องการของประชาชน ทุกความคาดหวังของสังคม พร้อมชี้แจงสั่งการทำตามความต้องการของประชาชน เพื่อให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นไปในทิศทางที่สังคมต้องการ ไม่ได้วัดผลงาน ที่ตัวเลขจับกุม สิ่งที่ ผบ.ตร.ต้องการ คือวัด ผลงานที่ความพึงพอใจประชาชนเป็นที่ตั้ง
ทิศทางบริหารงานภายใต้อำนาจของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ใช้เวลาไม่สิ้นเปลืองเข้ามาปรับกลยุทธ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เข้ากับสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคม
...สมควรได้รับการยกย่องเป็น “สีกากีแห่งปี”.
ทีมข่าวอาชญากรรม