เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ภาค 3 ร่วมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองมายัง สภ.เดชอุดม ยื่นหมายจับทนายอาสา เอี่ยวเครือข่ายสวมบัตรประชาชนคนจีน ขณะทำหน้าที่บนโรงพัก แต่เจ้าตัวไหวตัวหนีไปได้ ตามหาทั้งคืนยังไร้วี่แวว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น.วานนี้ (22 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ภาค 3 (ส่วนหน้า) นำโดย นายศานต์ชาติ ตึดสันโดษ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ ป.ป.ท.ภาค 3 เจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.เดชอุดม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอเดชอุดม นำหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 โดยศาลจังหวัดเดชอุดมทำการแทน เข้าจับกุมนายปารเมศ สามิลา 59 ปี ทนายอาสาประจำสถานีตำรวจภูธรเดชอุดม พร้อมพวกรวม 3 คน ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต (สวมบัตรประชาชน) ขณะปฏิบัติหน้าที่ทนายความอาสาบน สภ.เดชอุดม แต่นายปารเมศ ไหวตัวทันชิงหลบออกด้านหลังของโรงพักก่อนจะแอบเข้ามาเอารถยนต์ขับหลบหนีออกไปเจ้าหน้าที่พยายามไล่ตามแต่ก็ไม่ทัน
สำหรับเหตุการณ์สวมบัตรประชาชนในพื้นที่เดชอุดมนั้น เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2557 โดยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ได้มีการสอบสวนขยายผลจนพบว่า นอกจากปลัดอำเภอในขณะนั้นแล้วยังมีผู้สมรู้ร่วมคิดสนับสนุนจัดหาคนมาทำการสวมบัตรอีก 4 ราย ซึ่งมี นายปารเมศ ทนายความและทนายความอาสาประจำ สภ.เดชอุดม เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วยทุกราย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานายปารเมศ พร้อมพวกได้หลบหนีไม่ไปพบพนักงานอัยการเพื่อเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามติดตามหลายครั้งจนต้องให้พนักงานสอบสวน สภ.เดชอุดม ออกหมายจับเมื่อช่วงเที่ยงวาน (22 ธ.ค.)
...
ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า ตลอดทั้งวันที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ดำเนินการขอหมายจับ นายปารเมศ ยังคงใจเย็นปฏิบัติหน้าที่ทนายอาสาอยู่บนโรงพัก แต่เมื่อหมายจับออกมาเหมือนมีพรายกระซิบ ซึ่งไม่ทราบว่าใครทำให้นายปารเมศ รู้ว่าตัวเองจะต้องโดนจับจึงได้หนีออกไปทางด้านหลังของโรงพักแล้วแอบกลับเข้ามาเอารถยนต์ที่จอดไว้ออกไป เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามไล่ตามแต่ก็ไม่ทัน
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ภาค 3 (ส่วนหน้า) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และชุดสืบสวน สภ.เดชอุดม ได้ออกติดตามไปยังสำนักงานทนายความของนายปารเมศ แต่ก็ไร้วี่แววมีเพียงเจ้าหน้าที่ออกมาบอกว่าไม่อยู่ ไม่ได้เข้ามาที่สำนักงาน จากนั้นชุดสืบสวนจึงได้เข้าไปบ้านเลขที่ 119 ตำบลเมืองเดช อำเภอเดชอุดม เพื่อจับกุม นางจำนงค์ ดวงจำปา และ นายสัตยา ขัยฤทธิ์ แต่ก็ไม่พบ สอบถามจากเพื่อนบ้านทราบว่านางจำนงค์ออกไปรับหลาน ที่โรงเรียนแต่เมื่อเพื่อนบ้านข้างเคียงโทรไปหานางจำนงค์ กลับได้ถามกลับมาว่า “มีคนมาหาใช่ไหม บอกไปว่าไปไหนไม่รู้” เบื้องต้นคาดว่านายปารเมศ อาจจะโทรแจ้งเครือข่ายให้ทราบและหลบหนีไปก่อนหน้าแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้มีการออกติดตามยังพื้นที่ต้องสงสัยที่ ผู้ต้องหาที่ 3 จะไปหลบหนีไปซ่อนตัวจนดึกจึงได้ยุติการค้นหา และใช้การสืบสวนหาข่าวให้ทั้งหมดเข้ามอบตัว และจะวางแผนออกติดตามใหม่ในเช้าวันนี้.