คดีวิสามัญ เปา กระนวน พ่อค้ายาเสพติด วัย 27 ปี เพื่อนร่วมแก๊งที่อยู่ในรถด้วยหนีไปได้ 1 คน ส่วนภรรยาคนร้ายถูกกระสุน 5 นัด อาการสาหัส ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์ ด้านเจ้าของรถที่นายเปาเอาไปใช้ เผย น้องสาวถูกผู้ชายหลอกเอารถไป 3 คัน แจ้งความแล้วแต่ยังจับไม่ได้ กระทั่งรู้ข่าวรถตัวเองถูกยิงพรุน

ความคืบหน้า เหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องหาเสียชีวิตบนถนนสายบ้านโคกสว่าง ต.คำม่วง ไปบ้านคำตานา ต.เขาสวนกวาง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ในที่เกิดหตุ พบศพ นายอานนท์ หรือ เปา อ่อนสาคร หรือ “เปา กระนวน” อายุ 27 ปี พ่อค้ายาบ้า ชาวบ้านคำครึ่ง คำเจริญ ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหา หมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ จ.267/2565 ลงวันที่ 27 ส.ค. 2565 ข้อหา "ต่อสู้ หรือขัดขวางเจ้าพนักงาน ได้กระทำโดยใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย, พยายามในข้อหาฆ่าผู้อื่น, มีใช้อาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืน โดยมิได้อนุญาต และหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ.44/2565 ลงวันที่ 24 ก.พ. 2565 ข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้นั้นสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ สภาพศพนอนคว่ำหน้าอยู่บนถนน สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว กางเกงขาสามส่วนสีน้ำตาล ใส่รองเท้าแตะ ถูกยิงเข้าที่แผ่นหลังหลายนัด ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร พบรถยนต์ยี่ห้อ อีซูซุ มิวเซเว่น มิวเอ็กซ์ สีแดง ทะเบียน กบ 126 เพชรบุรี จอดอยู่ในสภาพถูกยิงจนพรุนรอบคัน ยางหลังด้านซ้ายถูกยิงจนแตก มีรอยเลือดในเบาะรถ

ล่าสุดเวลา 09.00 น. วันที่ 8 ธ.ค. น.ส.วัน (นามสมมติ) ชาว อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร ผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความรถคันเกิดเหตุถูกขโมยมา เผยว่า น้องสาวของตนเองเลิกกับแฟน เพระแฟนมีชู้ ก่อนที่น้องสาวจะมารู้จักกับผู้ชายชื่อ นายเอ อายุ 20 ปี ชาว อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ และชายดังกล่าวรู้ว่าน้องมีรถ 3 คัน เพราะรู้จักกันในแอปติ๊กต่อก ลักษณะเหมือนสามารถให้คำปรึกษาเรื่องแฟนที่เลิกกัน และตีสนิทน้องคุยกันสักพัก ก่อนจะมีการนัดเจอน้องที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน จ.เพชรบุรี โดยน้องขับรถอีซูซุ มิวเอ็กซ์ สีแดงคันเดียวกันกับในข่าว ไปหานายนายเอที่ปั๊มน้ำมันจุดนัดพบแล้ว นายเอก็ลงจากรถ พาน้องตนขึ้นรถไปแล้วไม่ปล่อยกลับมา ซึ่งน้องเล่าให้ฟังว่าตลอดเวลาที่อยู่กัน นายเอจะบอกว่าเป็นคนรวยใช้เงินวันละหมื่น ครอบครัวรวยมาก ซึ่งในวันนั้นที่เจอกันครั้งแรก พอขับรถออกจากปั๊มไปแต่รถไปชนฟุตปาท ด้านหน้ารถพัง จึงเอารถไปซ่อม แล้วเอารถอีกคันของน้องมาวิ่งแทนบอกว่าเอาไปขับรับสับปะรดไปส่งขาย พร้อมทั้งเอารถยนต์ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สีแดง ไปด้วยอีกคัน ไม่รู้ว่าเอาไปจำนำหรือเอาไปขาย ทั้งซ้อม ทำร้ายร่างกายน้องสาว ก่อนที่น้องจะหนีออกมาได้ในสภาพสะบักสะบอมขึ้นรถตู้กลับมา แต่นายเอรู้จักคนมีสีบอกตำรวจให้ดักรถตู้น้อง แต่น้องรู้ตัวจึงหนีออกไปโดยให้น้องอีกคนมารับกลับ และหนีออกมาได้

...

น.ส.วัน กล่าวอีกว่า พอรู้ว่าไม่ได้รถคืน เมื่อกลับมาที่บ้านที่ จ.กำแพงเพชร ก็ขอรถคืน พร้อมทั้งขับรถไปที่ประจวบคีรีขันธ์ ตามคำกล่าวอ้างต่างๆ นานาของชายดังกล่าว ที่ล่าสุดบอกรถอยู่สมุทรสงคราม แต่ไม่มีน้ำมันให้มาเอาไปเติมเองทั้ง 3 คัน แต่ก็ไม่ได้คืนไม่พบตัวและติดต่อไม่ได้อีกเลย พอมาทราบอีกทีก็เห็นข่าวนายเปา กระนวน ขับรถน้องสาวไป แล้วก็ทราบรายละเอียดต่างๆ จากในข่าว ก่อนที่จะมีทางตำรวจโทรศัพท์มาหาเพื่อตามหาเจ้าของรถ ซึ่งวันนี้ตนเองก็จะดำเนินการตามขั้นตอนโดยให้ทางประกันเป็นคนจัดการ ซึ่งทำประกันชั้นหนึ่งเอาไว้ โดยรถทั้ง 3 คันนั้นถูกผู้ชายชื่อนายหลอกเอารถไป อ้างเหตุผลต่างๆ นานาว่าจะเอาไปทำนั่นนี่ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา จนถึงเดือนกันยายน ทยอยไปทีละคัน คันแรกวันที่ 5, 8, 12 โดยเอาไปเลย โดยรถคอกจะเอาไปวิ่งสับปะรดให้ค่าจ้างวันละ 3,000 บาท เห็นว่าได้ดีก็ให้ไป คันแดงบอกเอาไปซ่อม คันที่ 3 บอกพ่อเอาไปวัดไอ้ไข่ เลยเริ่มเอะใจหาวิธีหนีออกมาเพราะมีพิรุธ จึงบอกน้องให้รีบหนีออกมาให้ได้ ก่อนจะเข้าแจ้งความ เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2565 ที่ สภ.ปากน้ำปราณ จ.ประจวบคีรีขันธ์ กระทั่งมาพบในข่าว ส่วนตัวคิดว่าผู้ชายชื่อ นายเอ กับ นายเปา เป็นพ่อค้ายาเสพติดเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าเส้นสายเดียวกันไหม ก็อยากให้ทางตำรวจดำเนินการเอาผิด นายนาย หรือ นายเอ ที่หลอกน้องสาวเอารถไปทั้ง 3 คัน ดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุดด้วย

ส่วนเหตุวิสามัญคนร้าย "เปา กระนวน" พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบและเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น และ บก.สส.ภ.4 สืบทราบว่า นายเปา ผู้ต้องหาตามหมายจับ พร้อมพวกเข้าพื้นที่ อ.เขาสวนกวาง โดยนายเปาจะมาหาภรรยาและเยี่ยมลูก โดยได้มาเปิดรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลคำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น เป็นที่พักเพื่อให้ภรรยา ชื่อ นางสาว ธิญาตา ทวิลา มาหา

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังพร้อมหมายจับไปที่รีสอร์ตดังกล่าวเพื่อจับกุม และขอทำการตรวจค้นห้องพัก เพราะสงสัยว่าจะมียาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย และสันนิษฐานว่านายเปาน่าจะมีอาวุธสงคราม และอาวุธปืน อาจจะยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจเหมือนครั้งที่ผ่านมาได้ จึงได้เรียกแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น ปรากฏว่านายเปาพร้อมภรรยาและเพื่อนชายอีก 1 คน พากันวิ่งขึ้นรถแล้วขับฝ่าวงล้อมตำรวจ ชนรั้วรีสอร์ตจนพังหนีออกไปบนถนน กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับรถไล่ตามไปจนมาถึงบนถนนสายดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดที่ไล่ล่าตามจึงตัดสินใจยิงใส่รถของนายเปา และยิงยางรถยนต์ จนยางหลังข้างซ้ายแตก นายเปายังพยายามขับหนี แต่หนีไม่ได้ จึงเปิดประตูหนีลงจากรถ และก็หนีไม่ได้ ล้มลงเสียชีวิตกลางถนน ขณะที่ภรรยาถูกยิงตามร่างกาย 5 นัด บาดเจ็บสาหัส ถูกนำส่ง รพ.เขาสวนกวาง และส่งต่อไปที่ รพ.ศรีนครินทร์ ขณะเพื่อนที่นั่งมาทราบชื่อว่า นายประดิษฐ์พร บุญโก วิ่งเข้าป่าหลบหนีไป และในช่วงที่ขับรถหลบหนี นายเปาได้ใช้ปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดเส้นทาง ซึ่งภายหลังจากสกัดได้ และ นายเปา ถูกวิสามัญ จึงทำการตรวจค้นในรถ พบอาวุธปืน M16 จำนวน 3 กระบอก ตกอยู่นอกรถ จึงยึดไว้เพื่อส่งตรวจสอบดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว และในส่วนของคนที่มากับนายเปาอีกคน สามารถหลบหนีการจับกุมไปได้ ซึ่งทางตำรวจจะเร่งติดตามตัวคนที่เหลือที่มากับนายเปา มาดำเนินคดีต่อไป