ตำรวจสอบปากคำ "พัชรินทร์-หลิน" เกือบ 8 ชั่วโมง ปมนอมินี "ตู้ห่าว-ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์" เพื่อติดตามเส้นทางการเงินยึดทรัพย์กลุ่มธุรกิจจีนสีเทา เจ้าตัวยืนยันโรงแรมดีวาลักซ์ จ.สมุทรปราการ ถูกต้องตามกฎหมาย กู้เงินมาจากธนาคาร 500 ล้าน ส่วนที่ดินตั้งโรงแรมเป็นของแม่
กรณี คณะทำงานชุดคลี่คลายคดีธุรกิจทุนจีนสีเทา เรียกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเข้าให้ปากคำ กรณีเกี่ยวข้องกับการออกวีซ่ากลุ่มธุรกิจทุนจีนสีเทาว่า ดำเนินการถูกต้องหรือไม่ พร้อมเรียกนางพัชรินทร์ และนางสาวหลิน ที่มีข้อมูลว่า เป็นนอมินีของนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว มาให้ปากคำ เกี่ยวกับความเชื่อมโยงกับนายตู้ห่าว รวมถึงประเด็นที่มาของทรัพย์สิน เส้นทางการเงิน การทำธุรกิจ โดยมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เดินทางมาร่วมสอบสวนด้วย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 6 ธันวาคม 2565 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เปิดเผยภายหลังเข้าสอบสวนเบื้องต้น ว่า ตำรวจออกหมายเรียกกลุ่มกรรมการบริษัทและคนใกล้ชิด ของนายตู้ห่าวรวม 4 คน 2 คนนี้ ตำรวจติดตามพบตัวที่สปาแห่งหนึ่งเมื่อวันเสาร์ที่ 3 ธ.ค. ผ่านมา นัดหมายให้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูล ประเด็นการสอบสวนก็เป็นรายละเอียดธุรกรรมการเงินของบริษัท
ส่วนอดีตตำรวจนายหนึ่ง และนางสุชาดา นัดหมายเข้าให้ปากคำ ในวันพฤหัสบดี ที่ 8 ธ.ค.นี้ ประเด็นสอบสวนใกล้เคียงกัน
รอง ผบ.ตร.เผยอีกว่า นอกจากนี้ได้เรียกหัวหน้าสถานีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 27 แห่ง ที่พบข้อมูลการออกวีซ่าประเภทนักเรียนให้กับกลุ่มชาวจีนเข้ามาให้ข้อมูลด้วย โดยจะสอบถามข้อมูลย้อนหลัง ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา เพื่อตรวจสอบก่อนพิจารณาว่า มีความต้องสงสัยหรือเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือกลุ่มชาวจีน ให้มีวีซ่าประเภทนักเรียน นักศึกษาด้วยหรือไม่
...
เนื่องจากมีการตรวจสอบ พบว่า กลุ่มชาวจีนบางส่วนไม่มีการเดินทางเข้าออกประเทศและมีเอเย่นต์รับต่อวีซ่าให้ รวมถึงมีการเรียกรับผลประโยชน์กรณีออกและใช้วีซ่าผิดประเภท โดยการตรวจสอบจะมีชุดทำงานเข้าตรวจค้นมูลนิธิ ที่พบหลักฐานว่า อาจจะเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ด้วยประมาณ 10 แห่งทั่วประเทศ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวถึงประเด็นชาวต่างชาติซึ่งพบส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ซื้อบ้านหรู ในโครงการหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในซอยลาซาล ประมาณ 50 หลัง ด้วยว่า เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจนำหมายค้นเข้าตรวจค้น บ้านหรูต้องสงสัยเป็นเครือข่ายทางธุรกิจของนายตู้ห่าว จำนวน 4 หลัง ซึ่งได้อายัดไว้ตรวจสอบทั้งหมดแล้ว แต่ในขณะเข้าตรวจข้อมูลกรรมสิทธิ์กับทางโครงการพบว่า ยังมีกลุ่มชาวต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนจีน ครอบครองบ้านในโครงการอีกหลายหลัง ประมาณ 50 หลังด้วยกัน แต่ยังไม่พบความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับกลุ่มเครือข่ายทางธุรกิจสีเทาของนายตู้ห่าว ข้อมูลการซื้อและการครอบครองดังกล่าว ตำรวจได้ส่งข้อมูล ให้กับทางกรมที่ดิน ติดตามตรวจสอบการซื้อการครอบครองแล้ว
ต่อมาเวลา 19.00 น. ภายหลังให้ปากคำนานเกือบ 8 ชั่วโมง น.ส.พัชรินทร์ และน.ส.หลิน ได้เดินออกมาจากห้องสอบสวน มีสีหน้าเคร่งเครียดและปฏิเสธให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนและเดินขึ้นรถไป นายทวีศักดิ์ บุญธรรม ทนายความ กล่าวว่า การสอบปากคำในวันนี้เป็นการให้ข้อมูลเรื่องเส้นทางการเงินและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโรงแรม ในฐานะผู้ถือหุ้นและกรรมการผู้มีอำนาจในโรงแรม ซึ่งได้ให้ข้อมูลไปหมดแล้ว พร้อมยืนยันว่า โรงแรมดีวาลักซ์ จ.สมุทรปราการ ก่อตั้งถูกต้องตามกฎหมาย โดยกู้เงินมาจากธนาคาร 500 ล้านบาท ส่วนที่ดินตั้งโรงแรมเป็นของแม่
ส่วนความสัมพันธ์ของ น.ส.พัชรินทร์ และตู้ห่าวเป็นเพียงผู้ร่วมธุรกิจกันเท่านั้น ไม่ใช่ความสัมพันธ์เชิงชู้สาว เหมือนที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งน.ส.พัชรินทร์ รู้จักกับตู้ห่าวมานานกว่า 10 ปีแล้ว เพราะตู้ห่าวทำธุรกิจทัวร์ ส่วน น.ส.พัชรินทร์ทำธุรกิจโรงแรม จึงต้องมีการประสานงานกันตลอด และที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่า น.ส.พัชรินทร์ พยายามหลบหนีที่จะมาเข้าพบเจ้าหน้าที่ ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง น.ส.พัชรินทร์ไม่คิดที่จะหลบหนี ยังใช้ชีวิตตามปกติ และพร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจ
ทั้งนี้หลังให้ปากคำวันนี้ พนักงานสอบสวนยังไม่มีการนัดหมายสอบปากคำประเด็นอื่นเพิ่มเติมแต่อย่างใด.