สตม.แถลงการจับกุมหนุ่มชาวฝรั่งเศสวัย 41 ปี ตามหมายจับคดีฉ้อโกง หลังลวงเหยื่อที่รู้จักกันในสถานบันเทิงร่วมลงทุนธุรกิจนำเข้าสินค้าแบรนด์เนมจากฝรั่งเศสจนสูญเงินกว่า 2 ล้านบาท แล้วหาสินค้าไม่ได้
ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัย หรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 65 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.อาภากร โกมลสิทธิ รอง ผบก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนต่างด้าวที่แฝงเข้าอยู่ในประเทศไทยเพื่อใช้เป็นสถานที่ก่ออาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ สร้างความเสียหายให้กับประชาชนและภาพลักษณ์ของประเทศ โดยเน้นย้ำสถานที่พักอาศัยที่คนต่างด้าว พักอาศัย เจ้าของ หรือผู้ครอบครองดูแลต้องแจ้งต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองภายใน 24 ชั่วโมง ตามมาตรา 38 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมืออันสำคัญในการควบคุม ป้องกัน และปราบปราม กลุ่มอาชญากรที่แฝงเข้ามาในรูปแบบต่างๆ
...
พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2565 เจ้าพนักงานตำรวจตรวจเข้าเมืองชุดจับกุมได้รับการร้องขอจากผู้เสียหาย ซึ่งได้รับความเสียหายจากการถูก นายชาเกล เซลอมอง อายุ 41 ปี สัญชาติฝรั่งเศส ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ 196/2565 ลงวันที่ 2 พ.ค. 65 กระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” สืบเนื่องจากผู้เสียหายประสงค์ปกปิดนามได้รู้จักกับผู้ต้องหาที่สถานท่องเที่ยวย่านสุขุมวิท จนกระทั่งมีความสนิทสนมและเดินทางไปยังประเทศฝรั่งเศส ซึ่งผู้ต้องหาแจ้งว่าตนสามารถนำสินค้าแบรนด์เนมประเภทกระเป๋า รองเท้า น้ำหอม จากฝรั่งเศสมาจำหน่ายยังประเทศไทยได้ จนกระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อและร่วมลงทุนกับผู้ต้องหา 2,000,000 บาท
ต่อมาผู้ต้องหาไม่สามารถส่งสินค้าให้ได้ ผู้เสียหายได้ทวงถามเรื่อยมา ต่อมาผู้เสียหายจึงได้ตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาเคยตีสนิทกับคนไทย และใช้อุบายเช่นนี้เพื่อให้คนไทยร่วมลงทุนด้วย และไม่เคยมีสินค้าให้กับผู้ร่วมลงทุนเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันสืบสวนหาตัว นายชาเกล เรื่อยมา ต่อมาได้ตรวจสอบการแจ้งที่พักคนต่างด้าว ซึ่งกฎหมายกำหนดให้เจ้าของและผู้ครอบครองสถานที่เป็นผู้แจ้งในระบบสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตามมาตรา 38 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 จากฐานข้อมูลในระบบตรวจคนเข้าเมือง พบว่าผู้ต้องหาปรากฏตัวอยู่บริเวณสถานที่จับกุม
เมื่อได้รับแจ้งดังนั้น เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและร่วมวางแผนการจับกุม โดยจัดเจ้าหน้าที่ฯ ซุ่มดูอยู่บริเวณดังกล่าว ต่อมาพบบุคคลต่างด้าวมีรูปพรรณตามหมายจับปรากฏตัวอยู่หน้าโรงแรมเท็น เอกมัย สวีทบาย แอสพิรา แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมือง สอบถามแล้วทราบชื่อ นายชาเกล เซลอมอง อายุ 41 ปี สัญชาติฝรั่งเศส พร้อมแสดงหนังสือเดินทาง เมื่อตรวจสอบดูแล้วเป็นบุคคลตามหมายจับข้างต้น ซึ่งได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2565 ประเภทการอนุญาต ผผ.30 ครบกำหนดการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรวันที่ 7 ธันวาคม 2565 (การอนุญาตยังไม่สิ้นสุด) จึงได้ทั้งแสดงหมายจับให้ผู้ถูกจับตรวจสอบดู ผู้ถูกจับรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าว และไม่เคยถูกจับตามหมายนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันจับกุมตัว นายชาเกล เซลอมอง ส่งศาลแขวงพระนครใต้ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวว่า สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม.มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ
60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th