เมียเจ้าของร้านคาราโอเกะเกรงไม่ได้รับความเป็นธรรม ผัวถูกดาบตำรวจสภ.สิงหนคร สงขลา เมาชักดาบค่าเหล้า 800 โดนทวงไม่พอใจใช้ปืน 9 มม.ยิงเจ้าของร้านตายอุกอาจ สาวเสิร์ฟเห็นท่าไม่ดี เพราะจะเข้ามายิงเด็กในร้านด้วย โดดถีบแย่งปืนไปโยนทิ้งน้ำ แปลกใจคดีตำรวจฆ่าคน ทำไมถึงเงียบ หวั่นตัวเองจะไม่ปลอดภัย
วันที่ 15 พ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มี นางจารุวรรณ เจือละออง อายุ 55 ปี ภรรยานายประเนตร เจือละออง อายุ 55 ปี ที่ถูก ดาบตำรวจสันติภาพ ฤทธิ์อิทธิพัทธ์ ตำรวจสภ.สิงหนคร ก่อเหตุใช้อาวุธปืน 9 มม. ยิงเสียชีวิตโดยกระสุนปืนเข้าที่ศีรษะและขา รวม 2 นัด เหตุเกิดหลังร้านคาราโอเกะชื่อ เลดี้เฮ้าส์ ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 5 ริมถนนสิงหนคร-ระโนด ตำบลชิงโค อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา เหตุเกิดวันที่ 13 พฤศจิกายน 2565 เวลา 02.30 น. และทางญาติได้นำศพ นายประเนตร เจือละออง ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดสว่างอารมณ์ ตำบลป่าขาด อำเภอสิงหนคร ซึ่งภรรยาเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคนยิงเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พบว่า ที่วัดสว่างอารมณ์ สถานที่ตั้งศพ มีนางจารุวรรณ เจือละออง ภรรยาของผู้เสียชีวิต และนายศิวากร เจือละออง อายุ 29 ปี ลูกชาย พร้อมญาติๆ ร่วมกันจัดงานศพอยู่ในอาการเศร้าโศก จากการสอบถาม นางจารุวรรณ เล่าว่า จากเหตุการณ์ตอนนั้นคือ พอแฟนโดนยิง เด็กผู้หญิงในร้านได้กระโดดตะครุบปืน แล้วก็เกิดการแย่งปืนกัน เด็กผู้หญิงก็เอาปืนที่แย่งมาได้ไปทิ้ง แล้วรีบแจ้งตำรวจ ซึ่งถ้าไม่ทำแบบนั้น เขา(คนยิง)คงกราดยิงเด็กในร้านจนตายหมดร้านแน่
"ฝากถึงผู้ใหญ่ อยากให้ความเป็นธรรมกับพี่ด้วยค่ะ พอพี่ไปแจ้งก็ไม่มีใครรับลงบันทึก โยนกันไปมา วันแรกที่พี่ไป เขาบอกว่ามาแจ้งความอะไร เขาลงบันทึกเหตุการณ์ให้หมดแล้ว เราก็ตอบกลับไปว่าเรามาแจ้งความในฐานะภรรยา เรามีสิทธิ์ที่จะแจ้งความ เพราะพี่กลัวมาก กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม” นางจารุวรรณ กล่าว
...
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ไปดูจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นร้านคาราโอเกะชื่อ เลดี้เฮ้าส์ ตั้งอยู่ริมถนนฝั่งขาออกสายสิงหนคร-ระโนด ลักษณะเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ชั้นล่างได้เปิดเป็นร้านคาราโอเกะและมีพนักงานสาวร้าน 3 คนอาศัยนอนที่ร้าน โดยพนักงานสาวทั้ง 3 ได้พาไปชี้จุดเกิดเหตุพร้อมและจุดที่นำอาวุธปืน 9 มม. ของดาบตำรวจสันติภาพ ฤทธิ์อิทธิพัทธ์ สังกัด สภ.สิงหนคร ไปทิ้งฝั่งตรงข้ามร้านหลังจากแย่งปืนที่ใช้ก่อเหตุมาได้
พนักงานร้านทั้ง 3 คน เล่าว่า เหตุการณ์ในวันนั้นคือ เขายืนคุยกัน พอเขา(ดาบตำรวจ)พูดจบเขาก็คว้าปืนยิงเลย และเขาจะเดินมายิงศีรษะซ้ำ หนูก็คว้าปืน และกระโดดถีบ เพราะเชื่อว่าเขาจะมายิงพนักงานในร้านต่อแล้วหนูก็ตะโกนขอความช่วยเหลือพร้อมกับพูดว่า “มาช่วยหน่อย เขาจะยิงคนหมดร้านแล้ว” ซึ่งตอนนั้นคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่อย่างนั้นเขาจะยิงคนในร้านตายหมดแน่ๆ"
“ตั้งแต่เปิดร้านมา เขา(ดาบตำรวจ)จะมากินบ้าง นานๆ ครั้ง บางครั้งเขาก็ไม่ยอมจ่ายบิลค่ะ ซึ่งยอดรวมล่าสุดประมาณ 800 บาท หนูก็เลยจะเก็บเงินเขา เขาตอบว่าเขาไม่จำเป็นต้องจ่ายเงิน เพราะว่าเขาคุมที่นี่ ซึ่งพี่คนคิดบิลก็ตอบกลับว่า เป็นของซื้อของขาย ยังไงก็ต้องจ่าย เดี๋ยวยังไงจะลดให้ 400 บาท เขาก็บอกว่าเขาไม่จ่าย พอคุยกันเสร็จพี่ที่โดนยิงกำลังจะเดินเข้าบ้าน เขาก็เอาปืนยิงมาจากด้านหลังเลยค่ะ ยิงต่อหน้าต่อตา เราคิดว่ามันเกินคำว่าโหดร้าย แล้วยังเดินมายิงจ่อหัวซ้ำอีก”
หญิงสาวยังกล่าวด้วยว่า หลังเกิดเหตุ ตอนเช้าตนถูกเรียกไปที่โรงพัก ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นเหตุตำรวจทำร้ายประชาชน ตำรวจพกอาวุธเข้าร้าน ทำไมเรื่องนี้ถึงเงียบ อยากจะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการคดีนี้ให้ถึงที่สุด เพราะตอนนี้เขาได้รับการประกันตัว แล้วพวกหนูที่ทำงานที่นี่จะอยู่กันยังไง หากวันไหนเขาเข้ามายิง พวกหนูจะทำไง อยากจะให้จัดการดูแลเรื่องความปลอดภัยของพวกหนู และอยากฝากเป็นอุทาหรณ์เตือนประชาชนคนอื่นๆ ด้วย ต่อให้มีตำแหน่งหน้าที่การงาน ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาทำกับประชาชนแบบนี้
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังพล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.สงขลา เพื่อสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เบื้องต้นได้รับแจ้งว่า อยู่ระหว่างสอบปากคำดาบตำรวจนายนี้และได้ให้ออกจากราชการไว้ก่อน.