ผู้การสืบภาค 8 จำลองเหตุการณ์กลุ่มมือปืนขับรถเก๋งประกบยิงเสี่ยรับเหมาเวียงสระ เชื่อวางแผนอย่างดี พบรอเหยื่อออกจากบ้านนาน 2 ชั่วโมง มีการเตรียมทางหนี และอาจทำลายรถเพื่อให้ตำรวจตามสืบยาก

จากกรณี นายสมพร สินทอง อายุ 44 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 11 ต.ทุ่งหลวง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าของบริษัท มงคลชัย 99 การโยธา จำกัด และเจ้าของร้านสมพรแซทเทิลไลน์ จำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า กล้องวงจรปิด อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ถูกคนร้ายไม่น้อยกว่า 3 คน ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีเทาดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียน 7 กฎ 1674 กรุงเทพมหานคร ตามประกบด้วยอาวุธปืนพกสั้นระดมยิงรวม 25 นัด เสียชีวิตในรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีเทาดำ แบบตอนเดียว หมายเลขทะเบียน ผน 7240 สุราษฎร์ธานี บนหน้าโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเวียงสระ หมู่ที่ 10 ต.บ้านส้อง เขตเทศบาลบาลตำบลเวียงสระ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี ส่วนตัวรถกระบะที่กระจกและประตูด้านข้างคนขับมีรอยกระสุนปืนเป็นรูพรุน 22 รู บนพื้นถนนพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. และ 11 มม. ตกเกลื่อนกระจายบนถนน 17 ปลอก ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

...

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 พ.ย. 2565 ที่ สภ.เวียงสระ อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 เดินทางมาประชุมคลี่คลายคดี โดยมี พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8, พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และชุดคลี่คลายคดี ประชุมติดตามความคืบหน้า โดยได้มีการนำภรรยาผู้เสียชีวิตมาซักถามปากคำเพิ่มเติม

ทั้งนี้ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 06.00 น. พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธร ภาค 8 พ.ต.อ.พิษณุ พ่วงพร้อม รอง ผบก.สส.ภ.8 ได้จำลองเหตุการณ์ โดยเริ่มตั้งแต่ที่คนร้ายซุ่มรอผู้ตายออกจากบ้าน ไปตามเส้นทางหลบหนีของคนร้ายเพื่อทดสอบเวลา โดยคนร้ายมาจอดรถรอใกล้บ้าน นายสมพร ผู้ตาย ตั้งแต่เวลา 06.00 น. จนกระทั่งเวลา 08.50 น. นายสมพร ได้ขับรถกระบะคันเกิดเหตุออกจากบ้าน ไปตามเส้นทางบ้านส้อง-นาสาร ก่อนข้ามทางข้ามรถไฟไปยังถนนหน้าโรงพยาบาล จนสบโอกาสไม่มีรถสวนทาง คนร้ายจึงเร่งเครื่องยนต์ขึ้นประกบยิง ใช้ปืนยิงเข้าใส่หลายสิบนัดติดต่อกัน แล้วขับรถต่อไปอีกประมาณ 40 เมตร จึงกลับหัวรถกลับมาทางเดิม และระหว่างนั้นคนขับได้เปิดกระจกยื่นมือออกมายิงซ้ำอีกหลายนัด ก่อนขับรถออกจากที่เกิดเหตุกลับไปยังทางพาดข้ามทางรถไฟ จากนั้นได้ขับรถไปตามทางเลียบทางรถไฟ ก่อนจะเลี้ยวเข้าซอยอั้งยี่ ซึ่งเป็นเส้นทางลัดมุ่งหน้าถนนสาย 41

ข่าวรายงานสืบสวนแจ้งว่า ในการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางออกจากพื้นที่เกิดเหตุ ยังไม่พบรถยนต์เก๋งคันก่อเหตุ จึงเชื่อว่ารถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุจะยังคงอยู่ในพื้นที่ โดยชุดสืบสวนคาดว่าการลงมือยิงนายสมพรได้มีการเตรียมการมาอย่างดี ทั้งการใช้รถยนต์ก่อเหตุในชุมชน เพื่อหลีกเลี่ยงกล้องวงจรปิดในการบันทึกตำหนิรูปพรรณ รวมถึงมีการใช้ทะเบียนปลอมกับรถคันที่ใช้ก่อเหตุ เพื่อป้องกันการติดตามเจ้าของรถที่แท้จริง

...

นอกจากนั้นยังมีการตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ในการก่อเหตุคนร้ายสามารถใช้เส้นทางอื่นเพื่อหลบหนี หลังจากก่อเหตุแต่คนร้ายปรับเลือกใช้เส้นทางที่ต้องกลับหัวรถ จึงเชื่อว่าเป็นเส้นทางที่ได้มีการวางแผนไว้เพื่อหลบหนี ทั้งเพื่อความสะดวกในการเปลี่ยนยานพาหนะ และเชื่อว่ารถยนต์คันที่ก่อเหตุอาจจะถูกนำไปทำลาย หรือซุกซ่อนอยู่ในพื้นที่ ซึ่งวิธีการวางแผนอย่างแนบเนียนและปกปิดพยานหลักฐานต่างๆ จะทำให้การทำงานของตำรวจช้าลง และสาวถึงตัวผู้บงการได้ยากขึ้น.