ตำรวจไซเบอร์ ขยายผลจากทลายเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ที่ชุมพร ปฏิบัติการ “หักซิมม้า” ตรวจค้นเป้าหมาย ยึดซิมการ์ดถูกหลอกเอาข้อมูลบัตรประชาชนไปลงทะเบียนซื้อ รวมทั้งคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ พบซิมโทรศัพท์ที่ใช้ ถูกซื้อมาจากร้านในจ.ภูเก็ต

เวลา 15.00 น. วันที่ 10 พ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.ตอท. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง ผบก.สอท1 โฆษก บช.สอท. และตัวแทนจากค่ายโทรศัพท์มือถือ ร่วมแถลงเปิดปฏิบัติการ “หักซิมม้า” กวาดล้างจับกุมอาชญากรรมออนไลน์



พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ทางชุดสืบสวน บก.สอท.1 สืบทราบว่ามีการปลอมเว็บไซต์รับแจ้งความออนไลน์ http://thaionline.xyz เพื่อหลอกลวงเอาข้อมูลบัตรประจําตัวประชาชน และข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ จึงได้นำกำลังเข้าตรวจค้นสถานที่ตั้ง 4 จุด โดยจุดแรก นําหมายค้นของศาลจังหวัดมีนบุรีที่ ค.751/2565 ลง 9 พ.ย. 2565 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 300/46 หมู่บ้านเดอะคอนเนค 43 ถ.กาญจนาภิเษก แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. เข้าจับกุม น.ส.ธรรศนนรรญ์ โชคสกุลอมรกิจ อายุ 31 ปี ตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.719/2565 ลงวันที่ 8 พ.ย. 65 ในความผิดฐาน “นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” โดยระหว่างตรวจค้นและได้นําสุนัขอัจฉริยะ (ESD K9 Hidu) ชื่อฮิดู สายพันธุ์ลาบราดอร์ดมกลิ่นหาหลักฐานอิเล็กทรอนิกส์ ทําให้สามารถตรวจยึดซิมการ์ดจํานวน 1,700 ซิม, โทรศัพท์มือถือ 12 เครื่อง

จุดที่ 2 นําหมายค้นของศาลจังหวัดมีนบุรีที่ ค.749/2565 ลง 9 พ.ย. 2565 เข้าตรวจค้น บ้านเลขที่ 99/444 หมู่บ้านเศรษฐสิริ วงแหวน-รามอินทรา ถ.กาญจนาภิเษก แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม. ตรวจยึดซิมการ์ด จํานวน 5,186 ซิม คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่องและสมุดบัญชีธนาคารต่างๆ

...

จุดที่ 3 นําหมายค้นของศาลจังหวัดมีนบุรีที่ ค.750/2565 ลง 9 พ.ย. 2565 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 19/39 หมู่บ้าน เพอร์เฟคเพลส รามอินทรา-วงแหวนถนนกาญจนาภิเษก 5 แยก 1 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กทม. แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย และจุดที่ 4 นําหมายค้นของศาลจังหวัดมีนบุรีที่ ค.752/2565 ลง 9 พ.ย. 2565 ร้านขายซิมฯ ปั๊มน้ํามัน ปตท.พีโอออยล์ สาขา 23 ถ.พระยาสุเรนทร์ แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร ตรวจยึดซิมการ์ด จํานวน 541 ซิม, โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ผลการตรวจค้นในครั้งนี้ สามารถตรวจยึดซิมการ์ดไว้เพื่อตรวจสอบหาความเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวม จํานวน 7,427 ซิม

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ผลจากการเข้าทลายในพื้นที่ อ.เมือง จ.ชุมพร ในช่วงที่ผ่านมา จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง GSM Gateways (Simbox) 38 เครื่อง และ router wifi ชนิดใส่ซิมการ์ด 19 เครื่องได้ มีความสามารถโทรหลอกลวง หรือข่มขู่ ผู้เสียหายได้มากถึงวันละ 608,000 ครั้ง หรือกว่า 18.2 ล้านครั้งต่อเดือน บก.สอท. 1 จึงได้ทําการสืบสวนขยายผล กระทั่งสืบทราบว่าซิมโทรศัพท์ที่ใช้ ถูกซื้อมาจากร้านจําหน่ายซิมโทรศัพท์แห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต และยังพบพฤติการณ์รับลงทะเบียนมือถือแทนผู้ซื้อคาดว่าอาจเกี่ยวข้องกับการจัดจําหน่ายซิมให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ในการกระทําความผิด และเมื่อตรวจสอบผู้ลงทะเบียนกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือกลับพบว่า บุคคลดังกล่าวนอกจากลงทะเบียนซิมที่ตรวจยึดได้ ยังลงทะเบียนซิมโทรศัพท์มือถือมากกว่า 280,000 เลขหมาย

โดยชุดสืบสวนไซเบอร์ได้ปิดล้อมตรวจค้น 3 ร้าน ประกอบไปด้วยร้าน K.bank mobile ตั้งอยู่ถ.ศรีทัศน์ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต จว.ภูเก็ต สามารถตรวจยึดซิมที่ลงทะเบียนแล้วและที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนรวมกัน 20,673 ซิม, ร้าน รวมพล สาขาตําบล วิชิต ถ.เมืองทอง-เขาขาด ต.วิชิต อ.เมือง ภูเก็ต จว.ภูเก็ต สามารถตรวจยึดซิมที่ลงทะเบียนแล้วและที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนรวมกัน 1,190 ซิม และร้าน รวมพล สาขาตําบล ตลาดเหนือ ภายในตลาดดาวน์ทาวน์ ซ.พิไสยสรรพกิจ ถ.ระนอง ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต จว.ภูเก็ต สามารถตรวจยึดพบซิมที่ลงทะเบียนแล้วและที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนรวมกัน 89 ซิม

อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจค้นในครั้งนี้ ซิมการ์ดที่ลงทะเบียนไว้พร้อมใช้งานจํานวนถึง 700 ซิม ตรวจยึดซิมการ์ดไว้เพื่อตรวจสอบ รวมจํานวน 21,952 ซิม โดยในปฏิบัติการ "หักซิมม้า" ครั้งนี้ทุกจุดสามารถตรวจยึดซิมได้ทั้งหมด เกือบ 3 หมื่นซิม รวมทั้งข้อมูลการซื้อขายซิมการ์ดเป็นจํานวนมาก

“การตรวจค้นครั้งนี้ถือเป็นกุญแจสําคัญที่จะขยายผลในการตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนและจําหน่ายไปแล้วว่ามีหมายเลขใดบ้างที่ใช้ในการกระทําความผิดที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาจถูกดําเนินคดีในความผิดฐาน เป็นตัวการหรือให้การสนับสนุนในการกระทําความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนําเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”

ด้าน พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้จับกุมข้าราชการครู สอนวิชาสังคม โรงเรียนดังแห่งหนึ่งย่านสมุทรปราการกระทำความผิดมาแล้ว 1 ปี เปิดเพจใน VK รวม 7 เพจ ถูกหลอกล่อให้ถ่ายคลิป ถ่ายลามกอนาจารซ้ำ ถูกข่มขู่ว่าจะปล่อยคลิปลับ หรือถูกแบล็กเมล์ให้เสียเงิน หรือให้ส่งข้อมูลส่วนตัวไปให้ จากนั้นคนร้ายจะนำไปประจานทาง Socail Media มีผู้เสียหายหลายรายอยู่ระหว่างเข้าให้ข้อมูลดังกล่าว

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวอีกว่า มีผู้เสียหายถูกหลอกพูดคุยผ่านทาง Line ทาง Twice แบ่งปันแนะนำให้รู้จัก แนะนำการดูแลบุตรที่เป็นโรคซึมเศร้าภายหลังเมื่อทราบว่าครอบครัวจะย้ายไปอยู่ที่อื่นจึงข่มขู่และด่าทอ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สืบทราบว่า ผู้ใช้ชื่อ แบ่งปัน คือ ว.อชิโต หรือ นายวรรณวสันต์ น่วมเนตร อายุ 34 ปี บวชเป็นพระประจำอยู่วัดแห่งหนึ่ง จึงทำการจับกุม เบื้องต้นรับว่าหลอกเหยื่อสอนให้ช่วยตัวเองระหว่างพูดคุยผ่านวิดีโอ โดยไม่เคยเห็นหน้าหรือได้ยินเสียง ถูกบันทึกวิดีโอขณะช่วยตัวเอง และไม่ได้ให้ค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป

...