ได้ตัวแล้ว หนุ่มใหญ่วัย 51 ปี มือมีดโหด เพิ่งออกจากคุกมา 2 เดือน ก่อเหตุจ้วงแทงหนุ่มวัย 44 เสียชีวิต ให้การรับสารภาพ ยืนยันไม่ได้มีอาการมึนเมา แค่ต้องการลองของพระสายเหนียว

กรณีเจ้าหน้าที่กู้ภัยรับแจ้งเหตุผู้ชายถูกแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส ทราบชื่อ นายอรรถพล ณ นคร หรือหนุ่ม อายุ 44 ปี เหตุเกิดที่แยก ณ ระนอง กรุงเทพฯ ซึ่งล่าสุดตำรวจออกหมายจับ นายวิฑูรย์ หรือเสือ โอชาผล อายุ 51 ปี ข้อหาฆ่าผู้อื่น และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

ซึ่งทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม บริเวณซอยข้างจุดเกิดเหตุ เวลา 20.38 น. วันที่ 5 พ.ย. จะเห็นช่วงที่ นายอรรถพล หรือหนุ่ม ผู้ตายวิ่งหนีไปหน้าปากซอย โดยนายวิฑูรย์ผู้ก่อเหตุถือมีดวิ่งไล่ตามอย่างกระชั้นชิด

ซึ่งจากการสอบถาม น.ส.จริยา ทองคำมาก อายุ 32 ปี แฟนผู้ตาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนนั่งกินข้าวกันอยู่ 6 คน โดยมี นายหนุ่ม และนายวิฑูรย์ ผู้ก่อเหตุอยู่ด้วย ระหว่างนั้นนายหนุ่มเดินออกไปฉี่ ซึ่งนายวิฑูรย์ก็เดินตามไป และเดินกลับมา

นายวิฑูรย์ ถามนายหนุ่มว่า ห้อยพระอะไร นายหนุ่มตอบว่า หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่/หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ และพระพุทธชินราช ซึ่งนายวิฑูรย์ ถามในทำนองว่า มีของดีเหรอ นายหนุ่มตอบว่า ไม่มีหรอก ผมวิ่งเร็ว

จากนั้น นายวิฑูรย์ พูดในทำนองว่า อยากลองของ ก่อนจะชักมีดแทงนายหนุ่ม ตนหันไปเห็นพอดี จึงเรียกชื่อนายวิฑูรย์ บอกให้หยุด แต่อีกฝ่ายหันมามองหน้า เป็นจังหวะที่นายหนุ่มวิ่งหนี นายวิฑูรย์ก็วิ่งตามไป

จากนั้นนายวิฑูรย์เดินกลับมา ตนจึงวิ่งตามแฟนไปอีกซอย เพื่อหลบนายวิฑูรย์ จนไปพบว่าแฟนนอนเลือดอาบอยู่ที่แยก ณ ระนอง หลังจากที่มีกู้ภัยช่วยปฐมพยาบาล

โดย นายหนุ่ม บอกตนว่า ไวๆ หน่อย หายใจไม่ออก ทำนองว่าให้รีบพาส่งโรงพยาบาล ตนจึงบอกให้กู้ภัยนำตัวแฟนขึ้นรถไปส่งทันที ไม่ต้องรอรถแอดวานซ์แล้ว จากนั้นก็ขึ้นรถไปกับแฟน ซึ่งแฟนก็พูดว่า หายใจไม่ออกหลายครั้ง จนถึงโรงพยาบาล จนสุดท้ายก็เสียชีวิต

...

น.ส.จริยา ได้กล่าวว่า นายหนุ่มไม่เคยทะเลาะกับนายวิฑูรย์ผู้ก่อเหตุ แต่ไม่รู้ว่านายวิฑูรย์คิดมากไปเองหรือไม่ เพราะที่ผ่านมานายหนุ่ม เรียกนายวิฑูรย์ว่าพี่ทุกคำ

โดยนายวิฑูรย์เพิ่งออกจากคุกคดีฆ่าคนตาย และมาทำงานกับนายหนุ่มได้ประมาณ 1 เดือน นายหนุ่มยังคอยให้กำลังใจว่า ไม่ต้องคิดมากเรื่องคดีที่ผ่านมา ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะทำแบบนี้ ซึ่งพฤติกรรมเป็นการตั้งใจฆ่า เพราะแทงแล้วล้มยังเข้าไปซ้ำ และวิ่งตามอีก

โดยส่วนตัวอยากให้ตำรวจเร่งจับกุมคนร้ายให้ได้ เพราะถือเป็นบุคคลอันตรายมาก จากนั้นทีมข่าวเข้าไปที่ห้องเช่าของนายวิฑูรย์ หลังตลาดคลองเตย ซึ่งเพื่อนบ้านระบุว่า เคยเห็นนายวิฑูรย์ขี่รถจักรยานยนต์เข้าออกห้อง แต่ไม่ได้สนิท โดยเจ้าของห้องเช่าให้ข้อมูลว่า นายวิฑูรย์ เช่าอยู่กับภรรยาไม่ถึงเดือน ตอนนี้ไม่รู้หายไปไหนแล้ว

ต่อมาเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 พ.ต.อ.เอนก บุตรอิทร์ ผกก.สภ.พานทอง พร้อมด้วย พ.ต.ท.อรุณ สานุสันต์ สว.สส. และชุดสืบสวน สภ.พานทอง และตำรวจชุดสืบสวน สน.ท่าเรือ ได้ร่วมกันแสดงตัวเข้าจับกุมตัว นายวิฑูรย์ โอชาผล หรือนายเสือ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/2 หมู่ 1 ต.บางเตย อ.เมืองพังงา จ.พังงา ได้ขณะกำลังนอนหลับในบ้านภรรยา หมู่ 6 ต.หนองตำลึง อ.พานทอง จ.ชลบุรี

จากนั้นได้ทำการสอบถามชื่อและแสดงหมายจับจากศาลอาญากรุงเทพใต้ ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะ เมือง ชุมชนโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามหมายจับคดีของ สภ.ท่าเรือ และได้นำตัวมาสอบสวนต่อที่ สภ.พานทอง

จากการตรวจสอบพบว่า นายวิฑูรย์ มีประวัติคดีแทงคนตายเมื่อปี 2562 และถูกตัดสินจำคุก 3 ปี และเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อเดือนกันยายน 2565 ที่ผ่านมา และได้มาก่อเหตุอีกรอบในลักษณะเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามนายวิฑูรย์ แต่ไม่ยอมเปิดปากเล่าอะไรเลย ได้แต่เงียบ ตาแข็งเหม่อลอย ไม่พูดอะไรสักคำ

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พานทอง จึงได้ลงบันทึกจับกุมตัวนายวิฑูรย์ และได้ส่งมอบให้กับทางตำรวจ สภ.ท่าเรือ เพื่อนำไปเดินการตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. ที่ สน.ท่าเรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ท่าเรือ ได้คุมตัว นายวิฑูรย์ โอชาผล หรือนายเสือ อายุ 51 ปี ผู้ต้องหา มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สน.

โดยขณะมีการคุมตัวเดินผ่านสื่อมวลชน ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนในสาเหตุของการก่อเหตุว่า ต้องการลองของตามคำโอ้อวดของผู้ตาย ยืนยันว่าวันก่อเหตุไม่ได้มีอาการมึนเมา และไม่ได้มีเรื่องกดดันในการทำงานอะไร แค่มีการยียวนในเรื่องของขลังของดีเท่านั้น ส่วนอาวุธมีดไม่ได้มีการเตรียมการมาก่อเหตุ แต่แค่พกใช้งานในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว

...

พ.ต.อ.ดนุภัทร ขวัญพสุมนต์ ผกก.สน.ท่าเรือ ระบุว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งการสอบปากคำเบื้องต้นขณะคุมตัว ผู้ต้องหาให้การรับว่าเป็นคนลงมือแทงจริงเท่านั้น ส่วนรายละเอียดยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสามารถจับกุมตัวได้ในในพื้นที่ของ สภ.พานทอง จังหวัดชลบุรี จากบ้านของญาติผู้ต้องหา ส่วนคนในบ้านที่ผู้ต้องหาหลบหนีไปหลบซ่อน เบื้องต้นสอบปากคำยังให้การว่าไม่รู้ว่าผู้ต้องหาไปก่อเหตุฆ่าผู้อื่นมาก่อน จึงยังไม่มีการดำเนินการในฐานให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาหลบหนี

ส่วนการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าต้องดำเนินการในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากวันนี้คาดว่าจะไม่ทัน เพราะต้องสอบปากคำในรายละเอียดทางคดี.