กองปราบบุกรวบแก๊งหวยทิพย์คาบ้านที่ขอนแก่น หลอกผู้เสียหายลงทุนขายสลากฯ อ้างรู้จักผู้ใหญ่ ได้โควตาพิเศษ ให้ผลตอบแทนใบละ 1-5 บาท แต่สุดท้ายไม่มีจริง สูญเงินไปร้อยกว่าล้าน ยังให้การปฏิเสธ
เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 65 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.รัฐมนตรี พันชูกลาง สว.กก.3 บก.ป. นำกำลังจับกุมนายรัฐกรณ์ ศิวัฒนศิริสกุล อายุ 30 ปี, น.ส.รพีพรรณ กลิ่นสัมผัส อายุ 25 ปี และ น.ส.รัชฎาภรณ์ ถึงลาภ อายุ 32 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.2320-22/2565 ลงวันที่ 1 พ.ย. 65 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และมีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน จับได้บริเวณหมู่บ้านในพื้นที่ ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น

ผกก.3 บก.ป. กล่าวว่า เมื่อปลายปี 61 ผู้ต้องหาทั้งหมดได้ร่วมกันแอบอ้างกับผู้เสียหายว่ามีความสนิทสนมกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และเป็นตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลในพื้นที่จังหวัดเลย และพื้นที่ใกล้เคียง มีโควตาลอตเตอรี่จำนวนมาก จากนั้นได้หลอกชักชวนผู้เสียหายร่วมลงทุน โดยจะให้ผลตอบแทนใบละ 1-5 บาทต่องวด ช่วงแรกๆ ได้ส่วนแบ่งตามที่ตกลงกัน ผู้เสียหายจึงเพิ่มวงเงินลงทุนมากขึ้น กระทั่งช่วงกลางเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ผู้เสียหายต้องการนำเงินไปลงทุนทำธุรกิจส่วนตัว จึงได้แจ้งขอเงินลงทุนจากกลุ่มผู้ต้องหาคืน แต่ถูกบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา จนมาสืบทราบภายหลังว่ากลุ่มผู้ต้องหาไม่ได้เป็นยี่ปั๊วแต่อย่างใด และไม่มีโควตาลอตเตอรี่ตามที่กล่าวอ้าง จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ กก.3.บก.ป. ต่อมาได้ศาลออกหมายจับไว้ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตามจับกุมได้ดังกล่าว
...

พ.ต.อ.วิวัฒน์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบทราบว่าขบวนการนี้มีการแบ่งหน้าที่กันทำชัดเจน โดยเริ่มตั้งแต่บุคคลที่มีหน้าที่ชักชวน สร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นได้ร่วมกันหลอกลวงจนผู้เสียหายให้หลงเชื่อ โอนเงินเข้าบัญชีที่ นายรัฐกรณ์ ที่เตรียมไว้ ก่อนจะมีการโอนเงินต่อให้กับคนในขบวนการ ทั้งนี้ได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหา พบว่ามีเงินหมุนเวียนกว่า 1,900 ล้านบาท

ผกก.3 บก.ป. กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ได้ตรวจยึดของกลาง สมุดบัญชีธนาคาร โทรศัพท์มือถือ รวมถึงตรวจยึดทรัพย์สินที่น่าเชื่อว่าได้จากการประทำความผิด อาทิ โฉนดที่ดิน ยานพาหนะ ได้หลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เบื้องต้นพบผู้เสียหาย 2 ราย ได้รับความเสียหายรวมเป็นเงิน 126,811,999 บาท ทั้งนี้จากการสืบสวนยังพบมีผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มผู้ต้องหาหลอกลวงในลักษณะเช่นเดียวกันอีกหลายราย ยังอยู่ระหว่างการขยายผลต่อไป
ทั้งนี้ เบื้องต้น จนท.สอบสวนแล้ว ผู้ต้องหาทั้งคู่ให้การปฏิเสธ จึงนำตัวส่ง กก.3 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.