ผบช.สตม.เผย จนท.ตม.เชียงใหม่ - แพร่ - อุดรธานี มีความหละหลวมออกวีซ่านักเรียนให้กับชาวจีน แต่เป็นเรื่องส่วนบุคคล ก็ได้กำชับไปแล้ว ให้กวดขันอยู่ตรงจุดประสงค์หรือไม่ เชื่อจากนี้จะลดน้อยลง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 พ.ย. 2565 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ออกมาระบุกรณีที่เจ้าหน้าที่ ตม.เชียงใหม่ - แพร่ - อุดรธานี มีความหละหลวมออกวีซ่านักเรียนให้กับชาวจีน จนเข้ามากระทำความผิดในประเทศ ว่า ได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มงวดสำหรับการขออยู่ต่อในแต่ละประเทศ ทั้งในส่วนของนักเรียน หรือผู้ป่วย และได้ส่งหนังสือกำชับให้ตรวจสอบเอกสารและพฤติการณ์ในการเข้ามา รวมถึงติดตามว่าเมื่อเข้าประเทศมาแล้วตามวีซ่า มีการอยู่ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ หากพบว่าผิดก็ต้องมีการเพิกถอนวีซ่าต่อไป

ผบช.สตม. กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาก็มีความเข้มงวดมาตลอด ส่วนความบกพร่องนั้นคาดว่าเกิดจากเรื่องส่วนบุคคล ซึ่งก็ต้องกำชับและใช้มาตรการทางการปกครอง ได้สั่งการไปในภาพรวมแล้ว และคาดว่าในภายภาคหน้าข้อบกพร่องจะลดน้อยลง พร้อมเชื่อมั่นว่า หากบุคคลต่างด้าวประเทศใดก็ตามที่เข้ามาในประเทศ ทำตามกฎหมาย และทำตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้ และพักอยู่ตามที่แจ้ง ทาง สตม.ก็พร้อมที่จะอำนวยความสะดวก อีกทั้งได้กำชับให้มีการรายงานผลการปฏิบัติงานเป็นประจำทุกเดือนอีกด้วย

พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ กล่าวอีกว่า ส่วนหลักเกณฑ์ การขอวีซ่านักเรียนของชาวต่างชาติ ขณะนี้ยังใช้หลักเกณฑ์เดิม แต่เจ้าหน้าที่อาจมีการปฏิบัติข้ามขั้นตอนที่หลักเกณฑ์กำหนด ขึ้นอยู่กับรายบุคคลนั้น ส่วนจะมีการปรับเปลี่ยนให้มีการเข้มข้นขึ้นหรือไม่นั้นจะต้องหารือกับหน่วยงานอื่นเพิ่มเติม เนื่องจาก สตม.ไม่ได้ทำงานในส่วนนี้เพียงหน่วยงานเดียว และทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้เพ่งเล็งบุคคลใดเป็นพิเศษ แต่หากพบว่ามีการกระทำความผิด ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งกรณีนี้ หากพบว่าชาวต่างชาติที่เข้ามาขอวีซ่านักเรียน มีเอกสารครบถ้วน มีใบรับรองจากสถานศึกษาก็ต้องอนุญาตให้เข้าประเทศและพำนักอาศัย แต่หากหลังจากนั้นมีการกระทำผิด เจ้าหน้าที่ก็จะต้องขอเพิกถอนวีซ่า และส่งกลับประเทศ ตามหลักที่ปฏิบัติอยู่แล้ว.

...