ผจก.คันทรี่โฮม เผย ‘จ่าเบิร์ด’ พกปืนเข้าผับอ้างการ์ดว่ามาสืบคดียา จึงปล่อยให้เข้า ไม่ได้ละเลย ด้านญาติผู้ตายพอใจหลัง ผบช.ภ.9 ยันไม่มีมวย ส่วน หน.ชุดสวาท รับเป็นความผิดพลาดและบกพร่องของ จนท.

ที่ จ.ตรัง ภายหลังจากที่ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.เชาลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผบก.ภ.จว.ตรัง ร่วมกันแถลงข่าวปิดคดี จ.ส.ต.ชุติพนธ์ นาคแก้ว หรือ จ่าเบิร์ด ผบ.หมู่ (ป) สภ.บ้านหนองเอื้อง ปฏิบัติหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง หรือหน่วยสวาทนั้น

เมื่อวันที่ 27 ต.ค.2565 นายธนกฤต จันทร์พุ่ม อายุ 47 ปี ผู้จัดการร้านคันทรี่โฮม ที่เป็นร้านที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ‘จ่าเบิร์ด’ ได้ไปแสดงตัวกับทางร้านว่ามาสืบเสาะเรื่องยาเสพติด และแต่งนอกเครื่องแบบมา ทางร้านเลยปล่อยให้เข้าไป ซึ่งเขาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทำหน้าที่รับผิดชอบงานนี้โดยตรง หรือแอบอ้างเพื่อนำอาวุธปืนเข้าไปในร้าน ตนก็ไม่ทราบ และที่อ้างว่าต้องแต่งกายนอกเครื่องแบบ เพราะกลัวว่าลูกค้าจะไหวตัวทัน ซึ่งลักษณะการแต่งตัวคือต้องทำยังไงก็ได้ให้คล้ายประชาชนทั่วไปมากที่สุด ซึ่งยืนยันทางร้านไม่ได้ปล่อยปละละเลยในเรื่องนี้

...

ผู้จัดการร้านคันทรี่โฮม กล่าวอีกว่า แต่หลังก่อเหตุขึ้นมาแล้วจะให้ทางร้านรับผิดชอบยังไง และตนก็มีลูกน้องหลายชีวิตที่ต้องดูแลรับผิดชอบร่วมกัน ผลกระทบที่เกิดขึ้นมาแล้วจะปิดร้าน ตนก็ไม่เห็นด้วย เพราะตนไม่ได้ปล่อยปละละเลย นี่คือเรื่องจริงที่ตนมีพยานบุคคล ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของทางร้าน และต้องขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตด้วย

นายธนกฤต กล่าวอีกว่า ส่วน ‘จ่าเบิร์ด’ ความจริงแล้วไม่ใช่การ์ดเก่า แต่เป็นตำรวจซึ่งเอามาเสริมในเวลาลูกค้าเยอะ หรือว่าวันศุกร์-เสาร์ เพราะเมื่อมีตำรวจอยู่ที่ร้านจะดีกว่า หากพบลูกค้าพกพาอาวุธเข้าไป ตำรวจสามารถเข้าไปตักเตือนได้ ซึ่งจ่าเบิร์ดไปไม่บ่อย และจริงๆ แล้วเป็นคนนิสัยดี อัธยาศัยดีมาก ซึ่งในประเด็นนี้ทาง พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 และ พล.ต.ต.เชาลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผบก.ภ.จว.ตรัง ไม่ได้พูด หรือชี้แจงใดๆ ในกรณีนี้

ขณะที่ญาติของผู้ตาย และ นายวิรัตน์ รักนาย หรือ สจ.จู ส.อบจ.ตรัง เขต 1 อ.เมืองตรัง คนสนิทผู้ตาย กล่าวด้วยว่า การเยียวยายังอยู่ในสำนวนต้องให้แล้วเสร็จก่อน ซึ่งตนพอใจเพราะผู้บัญชาการรับปากจะไม่มีมวยล้มแน่นอน เบื้องต้นทางร้านคันทรี่โฮมนำเงินไปให้ 10,000 บาท ซึ่งญาติรู้สึกเป็นกันเองมาก หลังแถลงข่าวแล้วก็ยังรับปากว่าจะเอาเรื่องผู้ต้องหาให้ถึงที่สุด และยังได้ฝากถึงตำรวจหากไปเที่ยวแล้วพกพาอาวุธปืน ก็จะต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งพวกตนก็พอใจ ซึ่งตนมองว่าร้านแบบนี้มีหลายร้าน และเป็นเรื่องที่ดีเพราะคนต่างจังหวัดจะได้เข้ามาเที่ยว เงินก็จะได้หมุนเวียนในจังหวัด ถ้าควบคุมไม่อยู่แล้วต่อไปใครจะมาเที่ยว

ขณะที่ พ.ต.อ.สิทธินันท์ สังฆพันธุ์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง ซึ่งรับผิดชอบและกำกับดูแล ชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (S.W.A.T) ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า การจัดตั้งชุดนี้ขึ้นมา หลังจากที่มีเหตุการณ์ ‘จ่าคลั่ง’ ก่อเหตุการ์ดยิงที่ โคราช จ.นครราชสีมา ก็เลยมีการจัดตั้งชุดนี้ขึ้นมา ใน จ.ตรัง เพื่อที่จะเข้าระงับเหตุและดูแลพี่น้องประชาชน หรือระงับเหตุคนคลั่ง หรือมีการจับตัวประกัน ซึ่งเป็นที่ทราบดีของสื่อมวลชน จ.ตรัง เนื่องจากที่ผ่านมาทางชุดได้ออกช่วยเหลือพี่น้องประชาชนมาเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์สำคัญหลายๆ เหตุ 2 ปีที่ผ่านมา หลังจากก่อตั้งไม่เคยมีข้อบกพร่อง หรือเกิดความเสื่อมเสียใดๆ เลย ทุกคนต่างอยู่ในระเบียบวินัย

...

รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวด้วยว่า สำหรับการคัดเลือกบุคคลที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยสวาท เป็นตำรวจที่มีจิตใจเข้มใจ มีความกล้าหาญ พร้อมที่จะเข้าเสี่ยงแทนพี่น้องชาวบ้านประชาชน หรือแทนตำรวจในพื้นที่นั้นๆ โดยที่จ่าเบิร์ด จบหลักสูตรลาซู แล้วมาเป็นครูฝึกให้กับน้องๆ พร้อมกับมาเป็นครูฝึกให้กับเพื่อนตำรวจทุกๆ โรงพัก ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาด และบกพร่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ส่วนตัวในฐานะหัวหน้าขอยอมรับไว้ และกล่าวขอโทษญาติพี่น้องของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทุกๆ คน โดยที่ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น.