ผู้การฯ ตรัง สั่งให้ออกจากราชการ "จ่าเบิร์ด" หน่วยสวาทศรีตรัง รัวยิงนักเที่ยวตาย 1 เจ็บ 2 หลังเขม่นกันในสถานบันเทิง "คันทรี่โฮม" ศาลอนุมัติหมายจับ 3 ข้อหาหนัก ขณะที่หุ้นส่วนร้านเผยผู้ก่อเหตุ เคยเป็นการ์ดที่นี่มาก่อน เป็นคนเรียบร้อย ใจเย็น นิสัยดีมาตลอด จึงไม่ได้ตรวจค้นอาวุธ ด้าน "บิ๊กโจ๊ก" ฮึ่ม ไม่ได้รอให้มอบตัว จี้ต้องเร่งรัดลากคอมาให้ได้ในวันพรุ่งนี้ มะรืนนี้

จากกรณี จ.ส.ต.ชุติพนธ์ นาคแก้ว หรือ จ่าเบิร์ด ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.บ้านหนองเอื้อง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (S.W.A.T) ภ.จว.ตรัง ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงใส่ นายจิตกร คงจันทร์ หรือ ขาว อายุ 32 ปี ชาวตำบลทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง จำนวน 9 นัด เสียชีวิตกลางผับดัง ซึ่งผู้ตายนอกจากจะเป็นคนสนิทนักการเมืองท้องถิ่นแล้ว ยังเป็นบุคคลมีชื่อเสียงของ จ.ตรัง อีกด้วย นอกจากนี้ ผู้ก่อเหตุยังยิงปืนไปถูก นายเอกพจน์ เพ็ชรรัตน์ หรือ ต้อม อายุ 34 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิต บาดเจ็บอีก 1 ราย และยังไปถูกนักเที่ยวเจ็บอีก 1 ราย หลังเกิดเขม่นไม่พอใจกัน เหตุเกิดภายในสถานบันเทิง ‘คันทรี่โฮม’ เลขที่ 205 หมู่ 4 ถนนพัทลุง ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง (บริเวณถนนทางเข้า บขส.ตรัง) ซึ่งเป็นสถานที่ปลอดอาวุธ ขณะทั้งสองฝ่ายนั่งดื่มสุรากัน เหตุเกิดเวลาประมาณ 01.13 น. วันที่ 25 ตุลาคม

...

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 ตุลาคม 2565 พล.ต.ต.เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผบก.ภ.จว.ตรัง พร้อมรองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง และผู้กำกับการ สภ.เมืองตรัง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง โดยมี นางวรรณา อินฤทธิ์ หรือ เอียด อายุ 57 ปี กับ นายสมจิตร คงปรือ อายุ 58 ปี สองสามีภรรยาที่เป็นหุ้นส่วน “คันทรี่โฮม” ผับดังใจกลางเมืองตรัง เข้าร่วมตรวจสอบด้วย โดยในที่เกิดเหตุยังพบกองเลือดนองพื้น และพบรองเท้าของผู้บาดเจ็บตกอยู่

พล.ต.ต.เชาวลิต กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุและรูปคดี เป็นการกระทำผิดส่วนตัว ซึ่งก็ดำเนินคดีไปตามหลักกฎหมายอยู่แล้ว และให้ความยุติธรรมทั้งสองฝ่าย ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่ที่ใด แต่ได้เชิญคุณแม่และภรรยามาพูดคุยแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ไหน เพราะขาดการติดต่อกับคุณแม่และภรรยาด้วย เบื้องต้น ทางวินัยได้สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว เนื่องจากมีความผิดทางอาญา ซึ่งยืนยันว่าที่ผ่านมา จ่าเบิร์ด เป็นคนเรียบร้อยและใจเย็น สามารถคุมลูกน้องได้ดี ส่วนปมสาเหตุยังคงเป็นเรื่องของการเขม่นกันในร้าน แต่ยังคงไม่ตัดประเด็นชู้สาวทิ้ง ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างขออำนาจศาลออกหมายจับแล้ว

ด้าน นางวรรณา อินฤทธิ์ อายุ 57 ปี หุ้นส่วนร้านคันทรี่โฮม กล่าวว่า ปกติมีการตรวจอาวุธก่อนเข้าร้านทุกคน มีกล้องวงจรปิดทุกจุด และมีการ์ดอยู่หน้าร้าน ซึ่งตำรวจที่ก่อเหตุเป็นการ์ดเก่าที่ทำงานอยู่ที่นี่ น้องนิสัยดีมาก แต่เคยบอกกับตนว่า เขาเหนื่อยกับการทำงาน จึงขอพักงานการ์ด ซึ่งตนก็ยังบอกกับผู้ก่อเหตุว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนดี ตน (ป้าเอียด) ก็ยังเสียดายเลย แต่เขาขอพักจากงานการ์ดไปด้วยความดี แต่ตอนมาเมื่อคืนนี้การ์ดก็ตรวจแล้ว แต่เข้าใจว่าเราเป็นคนที่เคยอยู่ด้วยกันมา และสองเขาเป็นตำรวจ ซึ่งทางร้านตรวจเข้มข้น แต่ตำรวจที่มาส่วนใหญ่มีจรรยาบรรณ ไม่พกพาอาวุธเข้ามา เพื่อไม่ให้เจ้าของร้านหนักใจ และผู้ก่อเหตุก็ดีมาก แต่วันนี้ไม่รู้เป็นอะไรขึ้นมา

...

ส่วนความรู้สึกหลังเกิดเหตุคือเสียใจมาก เพราะ 1. ไม่ใช่เป็นความผิดของร้าน และ 2. คือหลังจากนี้จะไปทางไหนต่อ ที่มีลูกน้องต้องดูแลอีกหลายสิบชีวิตนับจากนี้ รู้สึกเสียใจมากที่เจ้าหน้าที่มาก่อเหตุเช่นนี้เสียเอง ซึ่งการที่เราไม่ค้นเพราะเราให้เกียรติ แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วก็ต้องแก้ไขกันไป และอยากจะให้ทางราชการพิจารณาอย่าสั่งปิดร้าน เพราะร้านเพิ่งพ้นเพิ่งฟื้นจากโควิด-19 หากปิด พนักงาน รวมทั้งครอบครัวของเขาด้วยจะอยู่กันอย่างไร จึงอยากให้ทบทวนด้วย เพราะข้าราชการตำรวจเป็นผู้ก่อเหตุเอง

ต่อมา ร.ต.อ.เอกลักษณ์ ศักดิ์ชัยนันท์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดตรังแล้ว ตามหมายจับที่ จ.375/2565 ลง 25 ตุลาคม 2565 แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่า และพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไปในทางสาธารณะ

วันเดียวกัน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่เดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ จ.สงขลา เปิดเผยว่า เดิม จ่าเบิร์ด ผู้ก่อเหตุช่วยราชการอยู่ที่ ภ.จว.พัทลุง ในงานสืบสวน ต่อมาส่งกลับมาที่ สภ.บ้านหนองเอื้อง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ทราบจากผู้กำกับฯ ว่าเป็นตำรวจที่มีความประพฤติเรียบร้อย ไม่ได้เกเร จากการยิงคือแน่นอน เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วไปใช้อาวุธปืนอย่างนี้ อันดับแรกคือให้ออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนคดีอาญาก็ต้องตามมา

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนสาเหตุเดี๋ยวจะมาดูอีกทีว่ามีการทะเลาะกันหรือว่าอย่างไร แต่ถามว่าการใช้อาวุธปืนยิงกันอย่างนี้ไม่เฉพาะตำรวจ เป็นชาวบ้านก็ต้องดำเนินคดี ยิ่งเป็นตำรวจก็ต้องดำเนินคดี 2 เท่า เขาอยู่ฝ่ายสืบสวน เขาสามารถมีปืนทำงานได้ เพราะเขาช่วยราชการอยู่สืบสวนจังหวัด เพราะฉะนั้นในเรื่องนี้ วันนี้ผมสั่งทั้งผู้กำกับบ้านหนองเอื้อง ผู้กำกับสืบสวนจังหวัดตรัง ให้เร่งรัดติดตามเอาตัว ตอนนี้เชิญทั้งแม่ทั้งญาติมาพูดคุย ถ้ายังไม่มอบตัวก็ต้องเร่งรัดติดตามเอาตัวให้ได้ คาดว่าอยู่ในพื้นที่

...

“พวกนี้ถ้าก่อเหตุส่วนใหญ่ไม่ได้ไปไหน ก็อยู่กับญาติพี่น้อง รอความพร้อมสักระยะหนึ่งก็คงจะมอบตัว แต่ว่าผมเองก็ไม่ได้รอให้มอบตัว อย่างไรก็ต้องเร่งรัดเอาตัวมาให้ได้ในวันพรุ่งนี้ มะรืนนี้ ส่วนการพกพาอาวุธปืนเข้าไปในสถานบันเทิง ส่วนนี้เขาอยู่ในฝ่ายสืบสวนก็ต้องดูว่าเขาไปทำหน้าที่หรือเปล่า ถ้าไปทำหน้าที่เขาก็สามารถจะเข้าไปได้ แต่ถ้าเขาไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้ไปติดตามคนร้าย ก็ต้องดำเนินการทางวินัยต่อไป” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว