ผบ.ตร.สั่งตำรวจตรวจเข้ม แผ่นป้ายทะเบียนปลอม หลังคนร้ายตบตาดัดแปลงใช้รีโมตกดเปลี่ยนสลับป้ายทะเบียน ขู่อย่าทำตาม ผิดกฎหมาย โทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ส่วนคนขายอุปกรณ์อาจเข้าข่ายสนับสนุน

จากกรณีตำรวจ 191 จับกุมแก๊งค้ายารายใหญ่ ขับรถส่งยา ดัดแปลงป้ายทะเบียนรถใช้รีโมตกดเปลี่ยนทะเบียนรถเอง จนกลายเป็นคลิปที่วิจารณ์ในโซเชียล

วันนี้ (24 ต.ค.65) เวลา 15.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า การจับกุมของตำรวจ 191 ดังกล่าว เป็นไปตามนโยบาย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ที่ให้ทุกหน่วยเร่งจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ สามารถจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ได้ในพื้นที่ จ.นนทบุรี พร้อมด้วยของกลางยาไอซ์ จำนวน 162 กิโลกรัม เฮโรอีน จำนวน 120 แท่ง และเคตามีน 97 กิโลกรัม

โดยพบว่ากลุ่มเครือข่ายดังกล่าวมีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ใช้วิธีการที่แยบยลดัดแปลงแผ่นป้ายทะเบียนรถ ใช้รีโมตกดเปลี่ยนทะเบียนรถเอง เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 3 วินาที แผ่นป้ายทะเบียนปลอมด้านหลังจะขึ้นมาแทนทะเบียนจริงทันที ตำรวจ 191 ได้สืบสวนติดตามจนสามารถจับกุมได้ในที่สุด

ผบ.ตร. ได้กำชับให้ตำรวจทุกหน่วย โดยเฉพาะด่านตรวจ จุดตรวจ จุดสกัด และสายตรวจ ให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราแผ่นป้ายทะเบียน สังเกตความผิดปกติตามหลักยุทธวิธี หลังจากพบว่าคนร้ายมีการดัดแปลงป้ายทะเบียนรถ ใช้รีโมตกดเปลี่ยนทะเบียนรถเอง เนื่องจากกลุ่มคนร้ายอาจจะใช้วิธีการดังกล่าวเพื่อใช้ในการขนย้ายสิ่งผิดกฎหมาย หรือกระทำความผิดอื่นๆ เพื่อตบตา และหลบเหลี่ยงการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่

โฆษก ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเตือนไปยังพี่น้องประชาชน การแก้ไขเปลี่ยนแปลงทะเบียนรถ โดยการปลอมขึ้นทั้งแผ่น หรือแก้ไขตัวเลขส่วนหนึ่งส่วนใด มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264, 265 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี ปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท แม้กระทั่งการใช้ป้ายทะเบียนคันอื่น ใช้แผ่นป้ายทะเบียนที่ถูกเพิกถอนแล้วก็เป็นความผิด ส่วนคนที่ขายอุปกรณ์ดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายสนับสนุนการกระทำความผิด หากถูกนำไปใช้ทำผิดกฎหมาย

...

ซึ่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเพิ่มความเข้มในการตรวจตราและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ในทุกมิติที่เกี่ยวข้อง