หนุ่มกระบะตู้ทึบหอบกระเช้า ไหว้สวยขอโทษ รอง ผกก.สืบสวน สภ.พระประแดง หลังขับรถจี้ท้ายแซงในที่คับขันทำให้ถูกบีบแตรใส่ จึงจอดลงรถมาต่อว่าหยาบคาย ด้านคู่กรณีให้อภัย แต่ยังต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 23 ต.ค. 65 ที่ สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ทางนายสมนึก ศรีนิคม อายุ 55 ปี พ่อของคนขับรถกระบะส่งของหลังคาทึบ พร้อมด้วยนาย ตระกล ศรีนิคม อายุ 27 ปี คนขับรถกระบะส่งของหลังคาทึบ มาพบ พ.ต.ท.ธนกฤต รวยอารี รอง ผกก.สืบสวน สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เพื่อมาขอโทษ จากกรณีเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 65 เวลาประมาณ 07.30 น. พ.ต.ท.ธนกฤต รวยอารี รอง ผกก. สืบสวน สภ.พระประแดง ได้ขับรถเก๋ง ยี่ห้อ Mazda รุ่น CX 30 สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ฌ 3171 กรุงเทพมหานคร (ป้ายแดง) เพื่อจะมุ่งหน้าไปออกปากซอยสุขสวัสดิ์ 39 ระหว่างทางพบรถกระบะยี่ห้อรถอีซูซุ สีขาว ทะเบียน 1 ฒษ 4301 กรุงเทพมหานคร หลังคาตู้ทึบ โดยมีนายตระกล เป็นคนขับรถ ได้ขับรถที่ท้ายรถมาโดยตลอด พอมาถึงจุดเกิดเหตุ ตัวเองเห็นรถกระบะขับจี้ท้ายมาโดยตลอดจึงได้เปลี่ยนหลบซ้าย และให้รถกระบะขับแซงขึ้นไปจังหวะนั้น ทาง รอง ผกก. จึงได้กดแตรยาวเตือนว่าขับรถแซงแบบนี้มันอันตราย แต่ทำให้คนขับรถกระบะไม่พอใจจอดรถลงมาต่อว่า และท้าทายแล้วขับรถออกไป
จากนั้นรอง ผกก.ได้ไปแจ้งความไว้ เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จนมาวันนี้ พ่อของนาย ตระกล คนขับรถกระบะพามาพบ รอง ผกก.เพื่อขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางรอง ผกก.โดยส่วนตัวไม่ติดใจเอาความหรือเอาเรื่องแต่อย่างใดถือว่าเอาบุญเพราะเพิ่งผ่านวันเกิดมา แต่ก็ต้องดำเนินคดีของกฎหมายจราจร ข้อหาแซงรถในพื้นที่คับขัน ดำเนินการเปรียบเทียบปรับไปจำนวน 400 บาท
...
นายสมนึก กล่าวว่า ลูกชายได้มาบอกตนว่าวันนั้นเขาได้รีบขับรถไปที่ทำงาน และได้มาเจอรถอีกคันขับช้า ขับแบบเหมือนหาร้านของกินอะไรสักอย่าง ลูกชายรีบจะไปทำงานให้ทันเวลาเลยขับรถปาดขึ้นไป รถอีกคันจึงบีบแตรน่าจะเตือนสติลูกชายตนมากกว่า แต่ลูกชายตนได้มีอารมณ์ฉุนเฉียวเพราะอีกคันขับรถช้า และยังมีบีบแตรใส่อีก การที่ลูกชายมีนิสัยใจร้อนแต่ไม่เคยเป็นขนาดนี้ นี่เพิ่งครั้งแรก ตัวเองก็เป็นครั้งแรกที่ต้องมาโรงพักแบบนี้ แต่ก็คอยจะเตือนสติเขาตลอดให้ใจเย็นๆ ส่วนตัวไม่รู้เลยรถที่ลูกชายไปมีเรื่องคือรถรองผู้กำกับ มารู้จากดูข่าวและมีคนส่งคลิปมาให้จึงรู้ว่าเป็นลูกตัวเอง ตอนนี้ลูกชายได้สำนึกแล้ว และลูกสะใภ้กำลังท้องกำหนดคลอดเดือนธันวาคม
พ่อของคนขับรถคันก่อเหตุ กล่าวต่อว่า ขอโทษท่านรอง ผกก.ที่ลูกชายได้วู่วามขนาดนี้ รู้สึกเหมือนว่าอบรมลูกชายได้ไม่ดีพอ คือพยายามบอกสอนตลอดให้ตั้งสติ ขับรถให้ระวังๆ เพราะลูกชายขับรถส่งสินค้า บอกลูกตลอดว่าบนถนนมันมีหลายรูปแบบพยายามให้ใจเย็น อย่าใช้อารมณ์วู่วาม วันนี้จึงพาลูกชายมาพบท่านรองผู้กำกับ เพื่อมาขอโทษ และให้มาสัญญาต่อท่านรองว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก จะไม่ใจร้อนอีก ยังบอกลูกด้วยว่าโชคดีมากที่เป็นรถท่านรอง ถ้าเป็นคนอื่นที่หัวร้อนด้วยกันมันอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ร้ายแรงกว่านี้ขึ้น
ด้าน นายตระกล กล่าวว่า ขณะขับรถมาตามถนนช่วงเวลา 06.30-07.00 น. มีรถของท่านรองผู้กำกับฯ ขับรถอยู่ข้างหน้า ด้วยตัวเองใจร้อนด้วยเพราะมันสายแล้วต้องรีบไปเข้างานให้ทัน 07.00 น. และไปเจอรถท่านรองผู้กำกับ ตรงหลังโรงเรียนป้อมแหลมฟ้าผ่า จนไปถึงจุดเกิดเหตุได้ขับรถจี้ และได้แซงรถท่านรองขึ้นมา ท่านรองเลยบีบแตรยาวๆ ในขณะที่ตนกำลังขึ้นสะพาน ตนเลยจอดรถด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว บอกว่าเหตุที่เกิดขึ้นเพราะความใจร้อน และอยากจะขอโทษท่านรองที่ตนใจร้อนไปและไม่สมควรทำแบบนี้ ตนจึงฝากบอกถึงคนที่ประกอบอาชีพแบบนี้ ให้ทำอะไรมีสติ ใจเย็น อย่าใจร้อนเพราะจะทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายมากกว่านี้
ส่วน พ.ต.ท.ธนกฤต กล่าวว่า วันนั้นเป็นวันที่ 22 ตุลาคม เป็นวันเกิดตนพอดี ได้ไปทำบุญใส่บาตร ปล่อยปลาที่หน้าโรงพัก ก่อนที่จะเกิดเหตุได้ขับรถไปที่ปากซอยสุขสวัสดิ์ 39 และได้ไปเจอรถคันคู่กรณีขับตามหลังมา และมาจี้ท้ายรถตนในลักษณะขับรีบๆ ก็โดนขับจี้มาตลอดทาง ลักษณะของซอยนั้นเป็นซอยแคบ มีประชาชนสัญจรไปมาตลอดเวลา พอมาถึงจุดเกิดเหตุตนพยายามเบี่ยงซ้ายเพื่อให้เขาแซงขึ้นไปก่อน ตนเลยบีบแตรใส่เพื่อให้เขารู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันไม่ถูกต้อง ปรากฏว่าเขาเลือดร้อนอารมณ์ร้อนและได้เบรกกะทันหันตรงทางขึ้นสะพานพอดี และก็เดินลงมาปรากฏภาพตามคลิป
...
รอง ผกก.สืบสวน สภ.พระประแดง กล่าวว่า วันนี้ทางพ่อผู้ก่อเหตุได้พาลูกชายมาขอโทษ จากที่เห็นพฤติกรรมของเขาก็ดูสำนึกแต่ไม่รู้จะสำนึกได้มากน้อยแค่ไหน ต้องดูต่อๆ ไป ทางผู้ก่อเหตุได้สัญญากับตนว่าจะไปทำสาธารณประโยชน์ที่วัดเพื่อไถ่โทษและแบ่งบุญกัน ถ้าเขาสามารถทำตามที่เขาได้ลั่นวาจาไว้ ตนก็ขออนุโมทนาบุญด้วย ตนไม่ได้ติดใจอะไร แต่มองว่าเหตุการณ์นี้เป็นละครบทเดิมๆ ในการที่กระทำความผิดแล้วเอากระเช้ามาไหว้มาขอโทษ ตนมองว่ามันเป็นเรื่องเดิมๆ เนื่องจากตนเห็นแก่ภรรยาของเขาซึ่งตั้งครรภ์ได้ 7 เดือน และเขาเป็นคนหาเงินหลักในการจุนเจือครอบครัว ถ้าตนได้ทำอะไรลงไปมันจะกระทบคนอื่นอีกหลายๆ คน ในส่วนความรู้สึกส่วนตัวตนไม่ติดใจเอาความอะไร แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความผิดกับรัฐว่ากันไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น.