ลูกเขยแค้นฝังหุ่น ถูกครอบครัวเมียกีดกัน แม้แยกบ้านไปแล้วและเมียท้องแก่กำลังจะมีลูกคนที่ 2 ก็ยังแค้น ซื้อปืนแบลงค์กันมาดัดแปลงใส่กระสุน .380 บุกยิงน้องเมีย พ่อตา ตายคาบ้าน 2 ศพ แม่ยายรอด เพราะหนีเข้าห้องน้ำ ส่วนเขยโหดถูกจับขณะนั่งรอดักยิงแม่ยายที่ลานจอดรถตรงข้ามโรงพัก แต่ด.ต.ตาไวสังเกตเห็น 

เวลา 07.45 น. วันที่ 15 ต.ค. ร.ต.อ.กิตติพงศ์ บุญเศรษฐ รอง สว.(สอบสวน) สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุยิงกันตายภายในบ้านเลขที่ 6/1 หมู่ 4 บ้านสุขสำราญ ซอย 7 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนไปตรวจสอบพร้อมพล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ธิติพงษ์ สียา ผกก.สส.บกน.9 พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บชน. พ.ต.ท.สุนทร มาลาเวช รอง ผกก.สส.สน.เพชรเกษม พ.ต.ท.สยาม ชื่นครุฑ สว.สส.สน.เพชรเกษม พร้อมฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.9 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น บริเวณกลางบ้านพบศพนายพงศธร สีตะปัญญะ อายุ 22 ปี หนุ่มไลน์แมน นอนหงายจมกองเลือดบนที่นอนในชุดเสื้อยืดแขนสั้นและกางเกงขาสั้นสีดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .380 ที่ขมับซ้ายทะลุขวา หัวกระสุนตกอยู่บนหมอน ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืนขนาด .380 ตกอยู่ 2 ปลอก หลังบ้านริมกำแพงยังพบศพนายธานินทร์ สีตะปัญญะ อายุ 46 ปี นอนหงายจมกองเลือด สวมผ้าขนหนูผืนเดียว มีบาดแผลถูกยิงที่ขมับซ้ายกระสุนฝังใน ใกล้กันพบปลอกกระสุนขนาด .380 ตกอยู่ 1 ปลอก บนชั้น 2 ที่ประตูห้องนอนพบรอยกระสุน 2 รู หน้าห้องพบปลอกกระสุน 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวน น.ส.ประภัสสร เศวตนัย อายุ 44 ปี ภรรยาผู้ตาย ให้การปิ่มจะขาดใจว่า มือปืนรายนี้คือนายนที หรือ เป้ พันธุมเสน อายุ 28 ปี ลูกเขยที่เคยข่มขู่ครอบครัวตนหลายครั้ง สาเหตุเกิดจาก นายนที แอบคบกับน.ส.ธัญรัตน์ หรือ มิ้ง เศวตนัย ลูกสาวตั้งแต่สมัยเรียน แต่นายนทีมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตนจึงบอกให้เลิกคบกัน ทั้งคู่เลิกคบกันไปพักหนึ่ง แล้วกลับมาคบกันอีกครั้ง จนกระทั่งมีลูกชายด้วยกัน 1 คน นายนทีมาทำพิธีขมา แล้วแยกครอบครัวออกไปอยู่ด้วยกันที่บ้านพักภายในซอยเพชรเกษม 110 และไม่ให้ลูกสาวกลับมาหาครอบครัวเลย ห้ามโทร.หาด้วย เพราะแค้นที่ถูกกีดกัน จนกระทั่งลูกสาวได้ตั้งท้องอีกคนอายุในครรภ์ราว 7 เดือน ช่วง 1 ปีหลังนี้นายนทีโทร.มาข่มขู่ว่าจะฆ่ายกครัว โทร.มาบ่อยมาก ตนจึงได้อัดคลิปเสียงขณะพูดจาข่มขู่ไว้แล้วเอามาเป็นหลักฐานในการแจ้งความไว้ที่สน.เพชรเกษม เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 65 แต่ตำรวจก็ไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ ตนทราบจากลูกสาวว่า นายนที ไม่ยอมทำมาหากินอะไรเลย ขนาดลูกสาวท้องจนจะคลอดยังต้องไปทำงานอยู่เลย และนายนทีได้แอบขโมยของมีค่าไปขายเอาเงินมาซื้อปืนจากทางอินเทอร์เน็ตมาก่อเหตุ

...

น.ส.ประภัสสร ให้การต่อว่า ก่อนเกิดเหตุ ลูกสาวไลน์มาบอกว่า นายนทีออกจากบ้านมาแล้ว บอกจะไปยิงครอบครัวตนให้ตายยกครัว ขณะที่คุยไลน์กับลูกสาวก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด และนัดที่ 3 ตามมาอย่างรวดเร็ว 2 นัดแรกนั่นคือ นายนทีเปิดประตูเข้ามา เพราะลูกชายตนมักไม่ล็อกประตู เข้ามายิงลูกชายขณะนอนหลับ ส่วนสามีตนกำลังจะเดินลงมาอาบน้ำที่ห้องน้ำชั้นล่างเพื่อไปทำงาน พบกับนายนทีพอดี จึงถูกยิงตายตามไปอีกศพ ซึ่งตนไม่รู้ด้วยว่าสามีตนถูกยิงยังตะโกนบอกสามีเลยว่าให้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ จากนั้นนายนทีได้วิ่งขึ้นมาที่ห้องนอนตน จึงรีบวิ่งเข้าห้องแล้วล็อกประตู นายนทียิงปืนใส่ประตู ต้องนั่งหลบ แต่ประตูพลาสติกแตกกระเด็นถูกแขนเป็นแผลหลายแห่ง แล้วรีบหนีเข้าไปหลบอยู่ในห้องน้ำ แล้วโทรศัพท์บอกเพื่อนให้โทร.แจ้งตำรวจให้ด้วย แล้วนายนทีก็รีบหลบหนีไป ผ่านไปสักพักลูกสาวโทร.กลับมาหาแจ้งว่า ให้ระวังตัวเพราะนายนทีย้อนกลับไปที่บ้านซอยเพชรเกษม 110 แล้ว โดยบอกลูกสาวตนว่า จะย้อนกลับมายิงให้ตายยกครัว เติมกระสุนไปหลายลูก และขี่รถจยย.ออกจากบ้านไปแล้ว

จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในซอยที่เกิดเหตุทำให้ทราบว่า นายนที ขี่รถจยย.ฮอนด้า เวฟ สีเทา เบาะแดง ทะเบียน 3ขก 7569 กรุงเทพมหานคร มาจอดไว้หน้าปากซอย 7 ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร เพื่อไม่ให้คนในบ้านได้ยินเสียง แล้วเดินมาก่อเหตุ

ต่อมาเวลาประมาณ 11.00 น.ขณะที่ชุดทำงานประกอบด้วย บก.สส.บชน กก.สส.บกน.9 และชุดสืบสวนสน.เพชรเกษมกำลังประชุมถึงแนวทางการไล่ล่าคนร้ายรายนี้ เพราะเกรงว่าจะไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก หลังเสร็จสิ้นการประชุม ต่างแยกย้ายกันไปทำงาน ขณะที่ด.ต.ไมตรี โคเวียง ผบ.หมู่งานสืบสวน กก.สส.บกน.9 กำลังเดินไปขึ้นรถที่ลานจอดรถของวัดม่วงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโรงพัก ซึ่งภายในวัดกำลังมีงานทอดกฐินประจำปี มีรถจอดกันเต็มลาน และมีผู้คนพลุกพล่าน ที่บริเวณศาลาริมน้ำ เชิงสะพานข้ามคลอง มีคนนั่งกันหลายคน ด.ต.ไมตรี สังเกตว่าชายที่นั่งอยู่ที่ศาลาริมน้ำ 1 รายมีลักษณะตรงกับนายนที มือปืนที่ก่อเหตุ ใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงลายพรางทหาร สวมหน้ากากอนามัย นั่งแบบมีพิรุธ จึงเข้าไปสะกิดด้านหลัง แล้วถามว่า มารอใคร ได้รับคำตอบว่า มาทำบุญ แล้วย้อนถามกลับว่า พี่มาตามใคร ด.ต.ไมตรี จึงให้ชายคนดังกล่าวถอดหน้ากากอนามัย จนทราบว่าเป็นนายนที แล้วรีบตะครุบปืนที่เอว จับตัวได้พร้อมของกลางอาวุธปืนแบลงค์กัน เครื่องกระสุน 8 นัด สอบถามเบื้องต้นทราบว่า จะมาดักยิงนายพงศกร หรือ ออย สีตะปัญญะ อายุ 23 ปี น้องชายภรรยาที่แอบซ่อนตัวในห้องขณะก่อเหตุ เพราะรู้ว่าทุกคนที่รอดชีวิตต้องมาให้การที่สน.เพชรเกษม จากนั้นนำตัวส่งสน.เพชรเกษมสอบสวนทันที ภายหลังการจับกุมซึ่งปิดคดีได้อย่างรวดเร็ว ทางพล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 และพ.ต.อ.วิสิษฐ์ วัฒนพงษ์พิทักษ์ ผกก.สน.เพชรเกษม ได้มอบเงินรางวัลเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่ด.ต.ไมตรีอีกด้วย

พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ กล่าวว่า ตัวผู้ก่อเหตุเป็นลูกเขยของผู้ตาย มีความโกรธแค้น คิดว่าพ่อแม่ภรรยาไม่ชอบ จึงได้มาก่อเหตุ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ไปซื้อสิ่งเทียมอาวุธปืน และนำมาดัดแปลงเป็นอาวุธปืน ขนาด .380 มีการมาดักรออยู่ 2-3 วัน โดยเช้าวันนี้ได้เดินทางมาซุ่มรอที่หน้าบ้าน เห็นพ่อตาเดินออกมาหลังบ้านจึงเข้าไปยิง และเข้าบ้านไปยิงน้องชาย เสียชีวิต ส่วนแม่ยายหลบอยู่ด้านบน คนร้ายตามขึ้นไปแต่ก่อเหตุไม่สำเร็จ จึงได้หลบหนีไป หลังเกิดเหตุฝ่ายสืบสวนได้ประชุมหารือและทราบว่า ผู้ก่อเหตุยังมีความโกรธแค้นแม่ยายอยู่จึงได้จัดกำลังเฝ้าระวัง และออกสืบสวนหาข่าว พบบุคคลต้องสงสัย และมีรูปพรรณการแต่งกายคล้ายผู้ก่อเหตุ จึงได้เข้าจับกุม และตรวจค้นร่างกาย พบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ โดยมีกระสุนบรรจุอยู่ 8 นัด ซึ่งเชื่อได้ว่าอาจจะเป็นกระสุนที่บรรจุเข้าไปใหม่ ซึ่งผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพ ว่าได้หลบหนีไปที่บ้านพัก และเดินทางมาที่วัดบางม่วง ส่วนประเด็นที่ว่ามีการมาดักรอเพื่อก่อเหตุซ้ำ กับแม่ยายวัดบางม่วง ซึ่งอยู่ตรงข้าม สน.เพชรเกษมนั้น ตอนนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ขนาดนั้น เพราะเป็นเรื่องรายละเอียดที่อยู่ในสำนวนการสอบสวนและพยายานหลักฐานต่างๆ ที่เข้ามาประกอบ  ส่วนเรื่องการตรวจสารเสพติดในร่างกาย ตอนนี้ต้องรอผลการตรวจอย่างเป็นทางการจากโรงพยาบาลอีกครั้ง

นอกจากนี้ กรณีผู้เสียหายเคยถูกข่มขู่ และนำคลิปเสียงมาแจ้งความแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สนใจ จนนำมาสู่การสังหารถึง 2 ศพนั้น ได้ให้แนวทางในการดูแลพี่น้องประชาชน และผู้บังคับบัญชาระดับสูงก็ให้ความสำคัญเรื่องนี้ หากพบว่าไม่ปฏิบัติตามก็มีระเบียบในการดำเนินการอยู่ เบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพ.ร.บ.อาวุธปืน