ลูกเขยโหดแทงคอแม่ยายดับ ฟันพี่เมียสาหัส หลังเกิดปากเสียง เหตุจะให้ลูกสาวและหลานกลับไปอยู่บ้าน ฝ่ายมือแทงต้องการจะอยู่กับเมียที่บ้านเช่า ตำรวจนำตัวไปดำเนินคดีแจ้งข้อหาฆ่าโดยเจตนาและทำร้ายร่างกายผู้อื่น
เมื่อเวลา 19.20 น. วันที่ 12 ต.ค. 65 พ.ต.ท.ธีรวัฒน์ วังแสง พงส.สภ.ภูเพียง ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทกันในครอบครัว แล้วทำร้ายร่างกายกันด้วยอาวุธมีด มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เป็นชายและหญิง ที่ถนนบริเวณหน้าหอพักบ้านกอก บ้านกอก หมู่ที่ 1 ตำบลท่าน้าว อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน โดยมีฝ่ายหญิงวิ่งออกมาจากหลังบ้านเช่ามาขอความช่วยเหลืออยู่กลางถนนแล้วล้มฟุบแน่นิ่งจมกองเลือดไป ก่อนชาวบ้านที่มาด้วยกันจะรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลภูเพียง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.บุญส่ง นิกรเถื่อน ผกก.สภ.ภูเพียง, พ.ต.ท.ดวงยุธ ศรีสองสม รองผกก.สอบสวนฯ, พ.ต.ท.สมศักดิ์ ธิคำ รอง ผกก.สืบสวนฯ, พ.ต.ท.สิริพงษ์ ไชยปัญญา สว.สสฯ. พร้อมด้วย จนท.ตร.ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง รุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านพบกองเลือดขนาดใหญ่อยู่บริเวณกลางถนนหน้าบ้านเช่า และพบรอยเลือดหยดเป็นทางยาวไปทางด้านข้างบ้านเช่าที่เป็นลานดินไปทางหลังบ้าน ระยะทางกว่า 20 เมตร จนไปพบกับรอยลิ่มเลือดเป็นกองบริเวณป่าหญ้าหลังบ้านใกล้กันพบรองเท้าส้นสูงตกอยู่ จึงได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานพร้อมรายละเอียด ขณะที่ตรวจในที่เกิดเหตุนั้นจนท.ตร.สายตรวจ ที่ดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลภูเพียง แจ้งว่านางจันดี ผู้ถูกทำร้ายได้เสียชีวิตแล้ว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ จึงรายงานให้ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผบก.จ.น่าน ทราบ
...
จากการสอบถามพยานในที่เกิดเหตุได้ข้อมูลว่า บ้านเช่าหลังดังกล่าวมี สามีภรรยาพร้อมลูกสาววัยขวบเศษมาเช่าอาศัยอยู่ โดยมีนายพายุ กรามสันเที๊ยะ อายุ 19 ปี บ้านเลขที่ 181 หมู่ที่ 1 ต.น้ำตก อ.นาน้อย จ.น่าน ส่วนภรรยาชื่อ นางสาวจิราพร ปันอุ่น อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 185 หมู่ที่ 4 ต.ดูพงษ์ อ.สันติสุข จ.น่าน จะอายุครบ 19 ปี เต็มในวันพรุ่งนี้ (13 ตุลาคม) ภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอสันติสุข ทั้งคู่มีบุตรสาวด้วยกันอายุขวบเศษ ในวันที่เกิดเหตุช่วงเย็นทาง นางจันดี ปันอุ่น อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นแม่ยายและนายจิรพงษ์ ปันอุ่น อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 185 หมู่ที่ 4 ต.ดู่พงษ์ อ.สันติสุข จ.น่าน พี่เมียพร้อมเพื่อนได้ขับรถจากอำเภอสันติสุข ที่อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 40 กิโลเมตร เมื่อมาถึงได้ไปสอบถามบ้านใกล้เคียงทำให้ทราบว่า นายพายุ (ลูกเขย) และนางสาวจิราพร (ลูกสาวและหลานสาว) ยังอยู่ในห้องเช่า แม่ยายจึงตะโกนเรียกอยู่นานก็ไม่ยอมเปิดประตู
จากนั้น แม่ยาย เริ่มตะโกนต่อว่า จนลูกเขยทนฟังไม่ไหวเปิดประตูหลังบ้านออกไปหา และบอกทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันที่นี่ แต่นางจันดี (แม่ยาย) จะพาลูกสาวและหลานสาวกลับไปอยู่ที่อำเภอสันติสุข จึงเกิดการโต้เถียงรุนแรง ลูกเขยจึงคว้าอาวุธมีดแทงไปถูกสีข้าง นายจิรพงษ์ (พี่เมีย) บาดเจ็บสาหัส และแทงลำคอแม่ยายก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา เนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว
หลังเกิดเหตุนายพายุ (ลูกเขย) ผู้ก่อเหตุได้ขับรถไปมอบตัว พร้อมอาวุธที่ก่อเหตุที่ สภ.ภูเพียง พร้อมร้องไห้โฮ บอกแต่เพียงไม่ได้เจตนาแทงแม่ยายตาย พร้อมบอกพ่อแม่ของตนเองให้นำลูกสาวหมั่นไปเยี่ยมตนที่ติดคุกด้วย
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะพันธุ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผบก.จ.น่าน ได้รับรายงานแล้วได้เดินทางมาตรวจสถานที่เกิดเหตุและสอบสวนรวมทั้งมูลเหตุและแรงจูงใจด้วย พร้อมสั่งให้ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดแต่ไม่พบ แต่ผู้ต้องหายอมรับว่าเคยเสพยาบ้ามาก่อน แต่เสพครั้งสุดท้ายเมื่อ 7-8 วันที่แล้วตอนกลับไปเยี่ยมบ้านเกิด ที่อำเภอนาน้อยแล้วดื่มเหล้า โดยไปซื้อไม่ไกลเพราะคนขายอยู่ข้างบ้านตนเอง เมื่อถามหาสาเหตุทำไมต้องฆ่า นายพายุตอบว่าไม่ได้ตั้งใจ ตอนนั้นได้ทะเลาะวิวาทชกต่อยกันแล้วโดนรุม จึงคว้าอาวุธมีดที่อยู่ใกล้ๆ ก้มหน้าแล้วแทงไปไม่รู้ว่ากี่ครั้ง หรือถูกตรงไหนของใครบ้าง พร้อมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริงแต่ไม่ได้ตั้งใจ หลังเกิดเหตุได้โทร.ไปหาพ่อให้พามามอบตัวดังกล่าว
หลังจากที่ พ.ต.ท.ธีรวัฒน์ วังแสง พงส.สภ.ภูเพียง จ.น่าน ได้สอบสวน เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุได้รับอันตรายแก่กายและจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุในวันนี้ เพื่อประกอบสำนวนคดี และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
...